xs
xsm
sm
md
lg

"4Kings" แห่งการ์ตูนดัง BLUES

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: อำนาจ



ประสบความสำเร็จในเรื่องของรายได้ไม่น้อยทีเดียวสำหรับภาพยนตร์ไทยเรื่อง 4Kings ที่นำเสนอเรื่องราวชีวิตของนักเรียนอาชีวะในยุค 90 กระทั่งล่าสุดทางผู้สร้างเองได้ออกมายืนยันแล้วว่าจะมีภาคสองต่ออย่างแน่นอน

แม้ภาพยนตร์จะไม่ได้มีการนำเสนอภาพความรุนแรงอะไรมากมาย ทว่าด้วยโทนของตัวหนังที่ออกมาเชื่อว่าคงจะทำเอาหลายคนอดคิดไปถึงข่าวการทะเลาะวิวาทของนักเรียนฯ สถาบันต่างๆ ในอดีตอย่างช่วยไม่ได้

ที่สำคัญหนังเรื่องนี้ก็คงจะทำเอาบรรดาชายอายุ 40 ปีขึ้นไปหวนอดีตนึกไปถึงเรื่องราว "4 จตุรเทพแห่งโตเกียว" ในการ์ตูนเรื่องดังของญี่ปุ่นอย่าง BLUES ด้วยอย่างแน่นอน

BLUES เป็นผลงานเขียนของอาจารย์ "มาซาโนริ โมริตะ" (Masanori Morita) ตีพิมพ์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ปี 1988 ถึง 17 กุมภาพันธ์ ปี 1997

ขณะที่ในชื่อไทยนั้นก็ถูกเรียกทั้งแบบทับศัพท์ "บลูส์" รวมถึง "จอมเกบลูส์" และ "อย่างงี้สิบลูส์" เนื้อหาของการ์ตูนว่าด้วยเรื่องราวความรักความผูกพันและมิตรภาพของบรรดาเพื่อนนักเรียนระดับชั้นมัธยมที่เล่าผ่านตัวละครเอกชื่อ "มาเอดะ ไทซัน" ผู้มีความฝันอยากจะเป็นนักมวยแชมป์โลกกับเพื่อนสนิทที่ชื่อ "ยามาชิตะ คัตสึยิ" และ "ซาวามูระ โยเนยิ" รวมถึงแฟนสาวของเจ้าตัวที่ชื่อ "จิอากิ"

สำหรับคาแรกเตอร์ของ "มาเอดะ" ก็คือ เป็นเด็กหัวไม่ดี เรียนไม่เก่ง แต่มีความรักเพื่อนรักฝูง มีฝีมือในเรื่องของการชกต่อย อึดและทุ่มเทเต็มที่ในสิ่งที่ตัวเองทำ (โดยเฉพาะเรื่องชกต่อย)

โดยโรงเรียนที่เจ้าตัวเรียนอยู่ก็คือมัธยม "เทเคน" ที่อยู่ในจังหวัดโตเกียว ซึ่งแต่ละโรงเรียนในเขตต่างๆ ต่างก็ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องของการต่อยตีทั้งสิ้น

แม้จะไม่ชอบไปมีเรื่องมีราวกับใคร แต่สุดท้าย "มาเอดะ" ก็ต้องเข้าไปพัวพันกับการทะเลาะวิวาทในหลายๆ เหตุการณ์กระทั่งชื่อของเจ้าตัวถูกยกให้เป็นหนึ่งใน "4 จตุรเทพแห่งโตเกียว" ร่วมกับอีก 3 หัวโจกของโรงเรียนอื่นที่ประกอบไปด้วยจอมโหด "โอนิซึกะ" จากโรงเรียนในเขตชิบุยะ, "ยาคุชิจิ" จากโรงเรียนในเขตอาซากุสะ และ "คาไซ" จากโรงเรียนในเขตอิเคะบุคุโร่

ทั้ง 4 คนต่างก็มีฝีมือชกต่อยที่แทบจะไม่ได้ต่างกันมากนักและต่างก็มีจุดเด่นจุดด้อยที่แตกต่างกันไป ซึ่งนอกจากจะต้องต้องโคจรมาเจอกันทำนองว่าเพื่อพิสูจน์ว่าใครกันแน่ที่เป็นที่หนึ่งในจังหวัดแล้ว บรรดา "4 จตุรเทพแห่งโตเกียว" ก็ยังต้องไปพัวพันกับปัญหาชกต่อยข้ามจังหวัดอีกด้วย

สำหรับความสนุกของการ์ตูนเรื่องนี้ก็ต้องบอกว่ามาครบทุกรส ทั้งความเป็นการ์ตูยนักเรียนนักเลง มิตรภาพของลูกผู้ชาย ความตลก และเรื่องของกีฬามวย

ที่สำคัญเป็นการ์ตูน "ฮิต" ที่ "จบ" แม้ว่าจะเป็นการจบที่เป็นปลายเปิดให้คนอ่านไปคิดจินตนาการเอาเองแต่ก็ถือว่าเป็นการจบที่ประทับใจไม่มีใครรู้สึกตะขิดตะขวงใจ อาจจะมีอยู่บ้างก็คงจะเป็นความมันของการ์ตูนที่หลายคนเรียกร้องอยากให้มีภาคต่อมาจนถึงวันนี้แม้รู้ว่าจะไม่มีทางเป็นไปได้แล้วก็ตาม

ถึงตอนนี้ผ่านมานานกว่า 20 ปีแล้วแต่ BLUES ก็ยังคงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในตำนานการ์ตูนยอดฮิตของบรรดาเหล่าท่านชายทั้งหลายเรื่องหนึ่ง ชนิดที่ว่าหากมีเรื่องราวเหตุการณ์หรือข่าวคราวเกี่ยวกับนักเรียนตีกันทีไร ชื่อของการ์ตูนเรื่องนี้ก็จะผุดขึ้นมาทันที...



กำลังโหลดความคิดเห็น