MGR Online - รอง จตช.ประชุมวางมาตรการรับมือเหตุนักเรียนนักเลงยกพวกตีกัน ยอมรับหนัง 4Kings กระตุ้นให้เกิดการทะเลาะวิวาท ชี้ กรณี “เต้ มงคลกิตติ์” ชักชวนนักเรียนดูหนังไม่ผิดกฎหมาย เตรียมส่งสายตรวจเฝ้าระวังจุดเสี่ยง
วันนี้ (14 ธ.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รองจเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้ารับผิดชอบควบคุมกำกับดูแล การป้องกันและแก้ไขปัญหานักเรียน นักศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาท ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับตำรวจทั่วประเทศ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหากลุ่มนักเรียน นักศึกษาที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทยกพวกตีกัน
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เปิดเผยว่า ช่วงนี้มีเหตุตีกันบ่อยครั้งหลังรัฐบาลประกาศเปิดประเทศ และอนุญาตให้เรียนที่โรงเรียนได้แล้ว จึงทำให้เกิดการเผชิญหน้ากันของแต่ละสถาบัน อีกทั้งปัจจุบันยังมีการฉายภาพยนตร์เรื่อง 4Kings ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตของนักเรียนอาชีวะ ซึ่งภาพรวมเป็นภาพยนตร์ที่ดี สะท้อนมุมมองในหลายๆ เรื่อง แต่ยอมรับว่า มีบางฉากบางตอนที่อาจเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการทะเลาะวิวาทกัน ซึ่งประเด็นดังกล่าวทางตำรวจได้วางแนวทาง คือ ให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดไปพูดคุยกับผู้บริหารโรงเรียน เพื่อทำความเข้าใจเรื่องของการจัดสารวัตรนักเรียนช่วยเฝ้าระวัง รวมทั้งพูดคุยกับผู้ปกครองนักเรียน เพื่อช่วยดูแลบุตรหลาน อีกทั้งยังต้องคุยกับผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ เกี่ยวกับการทำโปรโมชันลดราคา จากเดิมที่ชักชวนให้นักเรียนใส่เสื้อสถาบันไปชมภาพยนตร์ในราคาพิเศษ เปลี่ยนเป็นโปรโมชันที่อาจจะล่อแหลมน้อยลง
ส่วนกรณีที่มีการชักชวนรวมตัวของนักเรียนไปดูหนัง โดยเฉพาะกรณี นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ ที่มีการชักชวนนักเรียนให้ใส่เสื้อสถาบัน สวมกางเกงยีนส์ และรองเท้าผ้าใบ ไปร่วมดูหนังในวันที่ 15 ธ.ค. เวลา 17.00 น.ที่โรงภาพยนตร์เอสพลานาด แคราย โดยจะจ่ายค่าตั๋วหนังให้นั้น พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเพียงการชักชวนไปดูหนัง ไม่ถือว่าเป็นความผิด เพราะไม่ได้ชักชวนไปทะเลาะวิวาท แต่ตำรวจก็ไม่ประมาท ต้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด และส่งสายตรวจไปเฝ้าระวังตามโรงภาพยนตร์ โรงเรียน และจุดรวมพลอื่นๆ รวมทั้งทำแผนเผชิญเหตุ เพื่อเป็นการป้องปราม และหากเกิดกรณีจำเป็น ก็จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังกับผู้กระทำผิด
รอง จตช.กล่าวด้วยว่า ทางตำรวจจะไม่มีการเสนอให้มีการยกเลิกฉายภาพยนตร์หรือเซ็นเซอร์เนื้อหา เพราะมองว่าไม่ต้องการก้าวก่ายโรงภาพยนตร์ แต่เป็นการวางมาตรการรับมือเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้ สำหรับสถิติการเกิดเหตุนักเรียนทะเลาะวิวาท ตั้งแต่วันที่ 9-13 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้ง 3 เหตุในพื้นที่ กทม. กาฬสินธุ์ และ ชัยภูมิ โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม.มีผู้เสียชีวิต 1 คน
