Empresses in the Palace หรือ เจินหวน จอมนางคู่แผ่นดิน คือซีรีส์สุดฮิตแห่งยุคของประเทศจีนเมื่อ 10 ปีก่อน ที่ทำให้กระแสซีรีส์แนวในรั้วในวัง ยังคงฮิตต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งนี่คือผลงานของผู้กำกับที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้กำกับซีรีส์ที่ดังที่สุดของจีนแผ่นดินใหญ่
เจิ้งเสี่ยวหลง คนนี้มีผลงานมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นซีรีส์ฟอร์มยักษ์ที่ใช้นักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์ และลงทุนอย่างมหาศาลทุกเรื่อง
หลังจากสร้างชื่อในวงการโทรทัศน์มาอย่างยาวนาน ล่าสุด เจิ้งเสี่ยวหลง จึงมีโอกาสไปจับงานหนังเป็นครั้งแรก กลายเป็นผลงานหนังที่ทุกฝ่ายจับตามอง เพราะสร้างมาจากโอเปร่าชื่อดัง แถมยังมีนักแสดงดัง ๆ ร่วมงานด้วยมากมาย
แต่สุดท้ายหนังเรื่อง The Curse of Turandot (ตูรันโด) ที่มีต้นฉบับมาจากอุปรากรภาษาอิตาลีของ จาโกโม ปุชชีนี ที่ถูกดัดแปลงเป็นหนังจีนเรื่องนี้กลับกลายเป็นงานที่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง แถมรายได้ยังเจ๊งสนิท กลายเป็นการเปิดตัวในวงการหนังที่ล้มเหลวสุด ๆ ของผู้กำกับที่ดังมากจากวงการทีวี
.
ผู้กำกับชาวจีน ไม่ว่าจะเก่งมาจากไหน เคยประสบความสำเร็จมามากแค่ไหน แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะล้วนเคยล้มเหลว มีผลงานยอดแย่ด้วยกันทั้งนั้น ระดับรุ่นใหญ่อย่าง จางอี้โหมว ก็เช่นเดียวกัน
หลังสร้างชื่อมาด้วยการทำงานที่สะท้อนสังคม เล่าเรื่องของชาวบ้าน จางอี้โหมว ก็ยังรุ่งต่อเนื่อง เมื่อหันไปทำงานแนวกำลังภายใน ที่ได้ใจทั้งนักวิจารณ์ และยังกวาดเงินในจีนแผ่นดินใหญ่ในตอนนั้นไปอย่างถล่มทลาย
แต่สุดท้ายยอดผู้กำกับอย่าง จางอี้โหมว กลับต้องมาตกม้าตายอย่างอนาจกับการทำหนังฮอลลีวูดเรื่องแรก The Great Wall ที่กลายเป็นหนังสัตว์ประหลาดที่ไม่มีอะไรให้จดจำเลย แถมยังขนดาราทั้งชาวจีน และฮอลลีวูดให้มาร่วมตกม้ากันด้วยมากมาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เจ้าของบท เจสัน บอร์น อย่าง แม็ต เดมอน ที่ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า แค่เริ่มเปิดกล้องเขาก็สัมผัสได้ถึงความพังพินาศของหนังแล้ว และต้องทำใจไม่น้อย ในการแสดงหนังเรื่องนี้ให้จบ เพราะรู้สึกอยู่ตลอดว่าหนังจะต้องออกมาห่วยแน่ ๆ
เพื่อนร่วมรุ่นของ จางอี้โหมว อย่าง เฉินข่ายเก๋อก็มีสภาพแย่ไม่แพ้กัน หลังเคยถึงขั้นเกือบคว้ารางวัลออสการ์กับหนังคลาสสิก Farewell My Concubine
แต่สุดท้ายก็มาตกม้ากับหนังแนวกำลังภายในแฟนตาซี The Promise หรือ คนม้าบิน ที่ต้องเรียกว่าย่อยยับจริง ๆ กลายเป็นงานที่เขาคงอยากจะลืมแน่ ๆ
ล่าสุด เฉินข่ายเก๋อ กลับมารุ่งอีกครั้งกับหนังสงครามจีนเกาหลี The Battle at Lake Changjin ร่วม กับ ดังเต้ แลม และ ฉีเคอะ ซึ่งทั้งสองคนก็เคยผ่านงานแย่ ๆ มาแล้วเหมือนกัน
ฉีเคอะ ได้ชื่อว่าทำหนังแย่ ๆ มีงานเจ๊ง ๆ เพียบ แต่ที่แย่ที่สุดเงียบที่สุด แทบไม่มีใครจดจำก็คือ Black Mask 2 ที่ไม่มี เจ็ท ลี มาแสดงนำ และยังอุตส่าถ่ายทำเป็นหนังภาษาอังกฤษ หวังโกอินเตอร์ แต่กลับล้มเหลว ฝรั่งไม่ดู คนฮ่องกงยิ่งไม่สนใจเข้าไปใหญ่ จนเรียกได้ว่านี่น่าจะเป็นหนังที่ไม่น่าจดจำจที่สุดของ ฉีเคอะ แล้ว
ส่วน ดังเต้ แลม ที่ตอนนี้คือคนทำหนังแอ็กชั่นมือต้น ๆ ของวงการหนังจีนก็เคยไปเสียเวลากับการทำอนิเมชั่น Storm Rider - Clash of Evil หรือ ฟงอวิ๋น อยู่นานหลายปี
ตัวหนังไม่ได้แย่ แต่ ดังเต้ แลม ใช้เวลาทำหนังเรื่องนี้นานมาก แทบจะหายจากวงการหนังไป 4 – 5 เลย ทีเดียว สุดท้ายหนังฉาย ก็เงียบ ๆ ไม่ฮือฮา กลายเป็นการเสียเวลาที่ไม่ได้อะไรเลย ดังเต้ แลม แทบจะถูกลืมจากวงการหนังเพราะผลงานเรื่องนี้มาแล้ว
และสุดท้าย แอนดรู เลา ผู้กำกับที่สร้าง Infernal Affairs ที่ตอนนั้นแทบจะกลายเป็นคนทำหนังเบอร์หนึ่งของฮ่องกงกันเลยทีเดียว จนได้ทำหนังฟอร์มใหญ่ ๆ อยู่หลายปี ได้ร่วมงานกับยัยตัวร้าย จอนจีฮยอน ในหนังร่วมทุน Daisy แต่ แอนดรู เลา คนนี้ก็ยังทำหนังตลกที่ไม่ตลกอย่าง From Vegas To Macau III ออกมาด้วย
เคยทำหนังค้างปีของ หลิวเต๋อหัว The Wesley's Mysterious File ที่ถายตอน กวนจื่อหลิน ยังรับงาน แต่กว่าจะได้ฉาย กวนจื่อหลิน ก็ออกจากวงการบันเทิงไปเรียบร้อยหลายปีแล้ว
และที่ลืมไม่ได้ The Park สวนสนุกผี ที่เป็นผลงานหลัง Infernal Affairs จนทำให้เอาคนดูในยุคนั้นงงกันเป็นแถวว่านี่คือหนังของผู้กำกับคนเดียวกันจริงหรือ เพราะมันแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวนั่นเอง