เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (19 ธ.ค. 2564) พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเพลิงศพ (เป็นกรณีพิเศษ) “นายรณชัย ถมยาปริวัตน์” หรือ “อ๊อด คีรีบูน” หลังเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งสมอง เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2564 ที่ผ่านมา โดยมีผู้แทนพระองค์เป็นผู้เชิญไฟพระราชทานมา ณ เมรุวัดเขมาภิรตารามราชวรวิหาร จ.นนทบุรี ยังความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ แก่ครอบครัวถมยาปริวัตน์
บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยคนที่รัก “อ๊อด คีรีบูน” รวมใจกันมาส่งดวงวิญญาณเจ้าตัวสู่สรวงสวรรค์ อาทิ นายสนธิ ลิ้มทองกุล, จิตตนาถ ลิ้มทองกุล นอกจากนี้ยังมีคนดังในวงการบันเทิงเดินทางมาร่วมไว้อาลัยมากมาย ได้แก่ เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์, ดู๋ สัญญา คุณากร, “ชมพู ฟรุตตี้” สุทธิพงษ์ วัฒนจัง, โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร, “ต้อม เรนโบว์” พีระพงษ์ พลชนะ, “ปิง ฟรุตตี้” สมพร ปรีดามาโนช, จิ้ม ชวนชื่น, ต้น สุชาติ ชวางกูร, โก้ มิสเตอร์แซกแมน, กุ้ง ตวงสิทธิ์, เจี๊ยบ นนทิยา จิวบางป่า ฯลฯ
สำหรับพิธีการสำคัญต่างๆ เวลา 09.30 น. ครอบครัวได้ทำการเคลื่อนร่างอดีตนักร้องผู้ล่วงลับมายังเมรุ ทั้งนี้ เพื่อนพี่น้องในวงการบันเทิง และแฟนคลับ ได้ร่วมกันร้องเพลง เพื่อแสดงความอาลัย ทั้งหมด 5 เพลง รวมถึงมีการแสดงจากหุ่นละครเล็กโจหลุยส์ บริเวณด้านหน้าเมรุ จากนั้นเวลา 14.00 น. มีพิธีทอดผ้าไตรบังสุกุล ตามด้วยแขกผู้มีเกียรติขึ้นวางดอกไม้จันทน์หน้าหีบศพ ในเวลาประมาณ 16.00 น. ก่อนจะมีพิธีเผาจริงตามลำดับ
โดยหลังจากเสร็จสิ้นพิธีการสำคัญ อดีตนักร้องชื่อดัง “ชมพู-ปิง ฟรุตตี้” ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเพื่อนรักผู้ล่วงลับว่า...
ปิง : "มันยังรู้สึกว่าจริงเหรออยู่เลย แม้ว่าอาจจะจากเราไปเมื่อสักประมาณเดือนครึ่งที่ผ่านมา จนถึงวันนี้เราก็ไม่อยากให้มันเป็นจริงแต่ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน สักวันนึงคิดว่าเราก็คงไปอยู่รวมๆ กัน แต่อย่างน้อยๆ วันนี้รู้สึกดีใจและชื่นใจมาก เพราะมีแขกผู้มีเกียรติ ทั้งผู้หลักผู้ใหญ่มาร่วมงานมากมาย ซึ่งแต่ละคนก็ให้ความรักความเอ็นดูในสมัยที่อ๊อดยังมีชีวิตอยู่ พวกเราเองก็มีโอกาสได้ร้องเพลงให้อ๊อดฟัง ที่ผ่านมา 30 กว่าปีแทบจะไม่มีโอกาสได้ร้องเพลงให้กันฟังเลยก็มีวันนี้แหละที่รู้สึกว่าเป็นการตั้งใจร้องเพลงให้เพื่อนเราฟัง"
รู้สึกทั้งเศร้าทั้งดีใจที่ได้ร่วมร้องเพลงกับเหล่าศิลปินในงานวันนี้
ชมพู : "พูดไม่ถูกอ่ะ เอาอารมณ์ผมคือทั้งเศร้าทั้งทำใจได้คือไม่รู้สิ เราไม่อยากให้เขาไปแต่เราก็โตแล้วเรารู้ว่ามันถึงเวลาเราก็ต้องยอมรับความจริง ขอบคุณน้องๆ ศิลปินที่มาช่วยน้องๆ Golden Song มันทำให้เรารู้สึกว่าเพื่อนเราเป็นที่รัก เราดีใจที่มีคนมาให้เกียรติ หรือแม้แต่เพื่อนๆ ศิลปินก็มากันเยอะบางคนมาจากต่างจังหวัดเลย รู้สึกว่าความสุขในช่วงเวลาที่เราเป็นศิลปินตอนอายุแค่ 10 กว่าๆ มันผูกพันกันลึกซึ้งมากแล้วมาถึงวันนี้มันเป็นความเสียใจ คิดว่าอ๊อดเองก็คงยังไม่อยากไปแต่เวลานี้เราก็คงต้องยอมรับว่าถึงเวลาแล้วจริงๆ ผมรู้สึกเหมือนพี่ปิงเลย คือเมื่อวานซืนยังดูคลิปที่พี่อ๊อดร้องเพลง พูดไม่ค่อยเก่ง ดูแล้วก็ยังบอกว่า จริงเหรอ แล้ววันนี้รู้สึกว่ามันจริงแล้วอ่ะ เพราะว่าวันนี้คือวันที่เราทุกคนมาส่งพี่อ๊อดก็ใจหายกับความสัมพันธ์ที่มีซึ่งมันก็จบลงตรงนี้แต่มันจะยังคงอยู่ตลอดไป คิดว่าก่อนที่เขาจะจากไปปล่อยวางเพราะว่าพี่อ๊อดก็มาทันสายชอบธรรมะ ก็คงจะปล่อยวางให้กับคนที่อยู่ต่อไป"
การเป็นศิลปินแล้วมีคนรักขนาดนี้คือความดี เป็นความประเสริฐ
ปิง : "สั้นๆ เลยคือความดี ความดีที่ศิลปินคนนั้นทำไว้ให้เกิดบนโลกใบนี้ แม้กระทั่งเราสองคนก็ยังคำนึงว่า เราอยู่ในวงการนี้มาได้เราตอบแทนสังคมและเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับหลายต่อหลายคนได้แค่ไหน ไม่ใช่แค่ว่าเข้ามาแล้วแค่มาร้องเพลงหาประโยชน์ไม่ใช่เลย คือมันยังมีมิติของความเป็นในตัวตนของศิลปินทุกคน ตรงนั้นมันเกิดขึ้นกับอ๊อดไง อ๊อดทำให้เห็นแล้วว่าการเป็นศิลปินที่ดีมันเป็นเรื่องที่ประเสริฐ เป็นเรื่องที่หลายคนที่เห็นแล้วเชื่อว่าอยากจะเอาเป็นตัวอย่าง ซึ่งวันหนึ่งเราทุกคนก็ไม่ได้อยู่ค้ำฟ้าก็ต้องตายเหมือนกันเพียงแต่ว่าความดีที่เราทำไว้มันน่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีได้"