เขินเลย “ไท ธนาวุฒิ” ไปทำศัลยกรรม ตาและยกคิ้ว โดนชมว่าหน้าเด็กขึ้น เจ้าตัวพอใจมากแต่ยังไม่ทำอะไรเพิ่มเติม เผยวิกฤตโควิดต้องขายกีต้าร์ขายรถ เพราะรายจ่ายเท่าเดิมรายรับไม่มี
ใครจะไปคิดว่าคนที่เข้มๆ ดูลุยๆ อย่าง “ไท ธนาวุฒิ ชวธนาวรกุล” จะไปศัลยกรรมใบหน้า ทำตาและยกคิ้ว เรียกว่าเซอร์ไพร์สแฟนๆ ไม่น้อย ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ปรากฏตัวในงานถ่ายปฏิทินศิลปินยุค 90 ก็ได้พูดถึงเรื่องการทำศัลยกรรมว่า รู้สึกพอใจมากมีแต่คนชมว่าหน้าเด็ก
"พอใจครับ แต่ว่ามันจะเขินๆ หน่อยเพราะว่าไปรายการก็มีแต่คนแซว ครูสลา(สลา คุณวุฒิ)ก็แซว เหมือนเขาแกล้งๆ หยอกแล้วทำให้เราไม่รู้ว่าตกลงมันดีหรือไม่ดี ถามว่ามั่นใจในตัวเองมากขึ้นไหม ก็ส่วนหนึ่งครับ แต่ยังมีช่วงที่คนมาแหย่ ลูกน้องมาทักแกล้ง มาขอถ่ายรูปซึ่งมันอยู่กันมาตั้งนานแล้วก็มาแหย่เรา"
"หน้าของเราพอดูทุกวันผมอาจจะชิน แต่พอถามคนอื่นเขาก็บอกว่ามันดูดีขึ้น ดูเด็กขึ้นก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า ส่วนตัวผมก็พอใจแล้วครับ พอใจมาก ยังไม่คิดจะแก้ไขส่วนไหนอีก เหลือตัดไข่กับทำนม"
กลัวการผ่าตัดมากคิดแล้วคิดอีกก่อนจะตัดสินใจศัลยกรรม
"ผมเป็นคนกลัวเรื่องการผ่าตัด ผมขาหักมา 3 ครั้งในชีวิตต้องผ่าตัดเยอะมากแล้ว ก่อนจะไปผ่าตัดก็คิดเยอะมากเหมือนคนที่เป็นวิตกจริต ตอนแรกเราไม่คิดว่าจะเป็นขนาดนี้แต่ด้วยวิธีการของหมอก็โอเค ตอนที่ทำตาไม่มีความรู้สึกเจ็บเลยมันหลับไปเลย ก่อนเราจะไปทำก็ใช้เวลาตัดสินใจเป็นเดือนเหมือนกัน"
"ที่กลัวเพราะเราฝังใจขาหัก 3 ครั้ง ผมเป็นคนกลัวเข็มฉีดยา พอมันผ่าตัดใหญ่เราก็กลัวถ้ามันออกมาแย่ไปเลย ความมั่นใจมันจะหายลงไปอีก แล้วเราเป็นนักดนตรีสายไม่ได้ดูแลตัวเองแล้วมาทำมันก็ดูเขินหน่อย แต่พอทำออกมามันดีขึ้น คนทักในแง่ดีจากที่เคยทักว่า พี่ไทโทรมจังเลย ทำไมตาโบ๋ขนาดนี้"
งานในวงการบันเทิงเริ่มกลับมาแล้ว แต่งานคอนเสิร์ตต้องรอความชัดเจนจากรัฐบาล
"ก็เริ่มเข้ามาแล้ว แต่คอนเสิร์ตบางที่ก็รอความชัดเจนจากรัฐบาล พอตอนแรกเขาบอกให้เปิด 1 ธันวาคม พวกอีเวนต์หรือสถานที่บันเทิงเล่นได้ไหม สถานที่ปิดเล่นได้ไหม คนที่จองมาบางจังหวัดเขายังขายเหล้าไม่ได้ เขารอความชัดเจนบางอย่าง"
"คอนเสิร์ตในวัดมันก็ยังถูกห้ามอยู่ ถ้าเกิดเป็นร้านอาหารต้องรอของแต่ละจังหวัดว่าอนุญาตให้ขายเหล้าได้ไหม เพราะสิ่งที่เขาซื้อคอนเสิร์ตเราไปเขาจำเป็นจะต้องขายของบางอย่าง ขายมิกเซอร์เพื่อมาเป็นค่าตัวค่าจ้างให้มันเป็นจุดคุ้มทุน รอความชัดเจนจากรัฐบาล แต่ถ้าเป็นงานธรรมดาวันเกิดส่วนตัวก็ยังทำได้อยู่"
"ส่วนคอนเสิร์ตใหญ่ยังไม่รู้เลยครับ คอนเสิร์ตใหญ่ๆ บางทีที่เขามีก็ยังเลื่อนดูท่าทีที่ชัดเจนว่าวิธีการจัดงานเป็นยังไง ระบบสาธารณสุขเป็นยังไง มีคนกี่คน เฉพาะถ่ายรายการ 40 คน ยังต้องตรวจเข้ม คอนเสิร์ตมันมากกว่านั้น จริงๆ รอความชัดเจนอย่างเดียว อีเวนต์กับศิลปินพร้อมทุกคนอยากจะเล่น"
เจอพิษโควิดรายได้หายไปเยอะ
"รายได้ก็หายไปเยอะ ใช้เงินล่วงหน้าเอาเงินในอนาคตมาใช้ ผมว่าเป็นทุกคน นักดนตรีนักลูกทุ่งที่ผมไปสัมผัสมา อย่างครูสลาเขาก็บอกลงทุนซื้อเครื่องเสียงไปเพื่อออกงานมีงานแล้ว ภาระเยอะหลายล้าน บางคนเป็นหนี้หลายล้าน มันก็เป็นทุกคนให้กำลังใจทุกคนดีกว่าเราจะต้องผ่านกันไปได้ ถ้าคนเดียวมันผ่านไปไม่ได้อยู่แล้ว มันต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคน"
"จริงๆ โปรเจ็กต์เก็บไว้เพียบเลย ตั้งใจจะออกเมื่อ 2 ปีที่แล้ว พอมาโดนโควิดก็ดร็อปไว้ก่อน มันมีทั้งเพลงใหม่เพลงเก่ามี 2-3 โปรเจ็กต์ ขอให้ซาๆ ไปก่อน สังเกตช่วงนี้ศิลปินทุกคนพยายามไม่ออกเพราะแสดงไม่ได้ เราไม่ได้อยู่ในเทรนด์โซเชียลด้วยที่จะไปแสดงในไลฟ์สดได้ ของเราอาศัยแฟนเพลงจริงๆ ต้องเจอหน้างานจริงๆ อีเวนต์จริงๆ อีเวนต์ของผมอาจจะไม่ได้อยู่ในผับ แต่เป็นอีเวนต์ของชาวบ้าน อบต."
ขายของเก่าที่ไม่ได้ใช้ ปรับตัวรับโควิด
"ก็เปลี่ยนอาชีพไปเยอะ ผมก็เปลี่ยนอาชีพเป็นเซลแมน ขายกีต้าร์บ้าง ขายรถไปบ้าง กีต้าร์ตัวที่มันไม่จำเป็นก็ขายไปบ้าง รถที่มันไม่ได้ใช้ รอมอเตอร์ไซค์ไม่ได้ขับก็ขายไป ปืนที่ไม่ได้ใช้ทำอะไรก็ขายไปบ้าง ทุกคนเป็นหมดปรับตัวเยอะเพราะว่ารายจ่ายเรายังคงเท่าเดิม รายรับเราไม่มี"
"ผมอาจจะมีรายการบ้างแต่ศิลปินบางคนไม่มีอะไรเลย ก็น่าสงสารเพราะเขามีลูกน้องมีความรับผิดชอบที่ต้องคอยดูแลลูกน้อง ผมเห็นอี๊ด โปงลางฯ เขาก็น่ารักไปเปิดร้านให้ลูกน้องมาเสิร์ฟ เขาก็สามารถดูแลลูกน้องได้ บางคนหาทางออกไม่เจอก็ลำบากหน่อย ก็ต้องช่วยกันทุกคนเพื่อจะได้เปิดประเทศได้"