วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ.2564 ณ งานพิธีปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยรังสิต ธีรภัทร์ มีเดช ได้เข้ารับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น ธีรภัทร์ กล่าวว่า “ผมเรียนจบระดับปริญญาโท จากวิทยาลัยนวัตกรรมดิจิทัลเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยรังสิตภายใน 1 ปี ด้วยระบบโครงสร้างของหลักสูตร และคณาจารย์ที่ทุ่มเท และสังคมในรุ่นที่เน้นกิจกรรมสนุก การเรียนจริงจัง #ที่นี่ไม่ใช่การจ่ายครอบจบแน่นะครับ เพราะถ้าไม่เข้าเรียน ไม่ทำการบ้านส่งก็ตกได้เช่นกัน
วิชาที่เรียนจะเกี่ยวข้องกับ วิธีการใช้เครื่องมือในแพลตฟอร์มออนไลน์ทุกชนิด มีแพลตฟอร์มอะไรใหม่เรียนหมด , การสร้างคอนเทนท์สำหรับ online ในรูปแบบ เขียน VDO ภาพ ,การวางกลยุทธ์ทางการตลาดสำหรับโลก online ,การนำData มาวิเคราะห์ข้อมูลให้งบโฆษณาถูกลงและตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ,การจัดงานสัมมนา เพื่อจะทำงานเป็นทีม,และสุดท้ายคือทำวิทยานิพนธ์ เรื่องที่ตัวเองสนใจ ถ้าเราเป็นเจ้าของกิจการอยู่แล้วนำมาเรียนก็สามารถต่อยอดได้อีกด้วย!!
พูดง่ายๆ คือเหมือนเราได้เข้าคอร์สเรียนสัมมนาแล้วได้วุฒิการศึกษา ป.โท ส่วนวิทยากรจะเน้นคนที่มีประสบการณ์สูงและตรงกับเรื่องนั้นๆ มาสอนอีกด้วย ส่วนตัวผมเป็นเจ้าของกิจการต้องการความรู้ใหม่ๆ มาคุยกับน้องๆในบริษัท ไม่ได้เรียนเพื่อเป็น expert ด้าน online
ช่วงที่เรียนผมตั้งเป้าหมายการเรียนไว้ว่า จะไม่ขาดเรียน และจะส่งการบ้านทุกครั้งไม่ให้ค้างส่ง ผลการเรียนที่ได้รับตอนจบ คือ 4.00
ส่วนอาจารย์ที่ปรึกษาผม คือ ท่านผศ.ดร.สุมามาลย์ ปานคำ(อ.นิว) และท่านยังเป็นผอ.หลักสูตร ป.โท อีกด้วย แม้ภารกิจของท่านจะเยอะ ท่านก็ทุมเทมากๆ กลับดึกแค่ไหน ก็อยู่ช่วยลูกศิษย์ทุกคน ถ้ารู้จักแต่ยังไม่สนิทจะดูว่าท่านเป็นคนดุๆ แต่จริงๆแล้วท่านเป็นกันเองกับลูกศิษย์เสมอ เช่นทุกอาทิตย์เจอกันร้านชาบูเสมอ จบน้ำหนักตัวขึ้นเลยครับ”
ผศ.ดร.สมชาย เล็กเจริญ (สมชาย) รองคณบดีฝ่ายวิชาการและวิจัย ทุกเช้าที่มีเรียนที่คณะ ท่านจะส่งไลน์ มาแจ้งเรื่องที่จอดรถให้กับ ลูกศิษย์ เพราะกลัวว่าจะหาที่จอดรถลำบาก และคำติดปากที่ท่านชอบพูดคือ “เราครอบครัวเดียวกัน” และท่านก็ปฏิบัติแบบนั้นเสมอมา
รศ.ดร.สุทธิศักดิ์ จันทวงษ์โส (อ.กก) ผู้ที่หาข้อมูลใหม่ๆ มาเล่าให้นักศึกษาฟังเสมอๆ โดยเฉพาะเรื่อง กฎหมายดิจิตอล และเทคโนโลยีใหม่ๆ แม้จะจบมาแล้วถ้ามีข้อสงสัยอะไร อ.กก ไม่เคยจะไม่ตอบ และตอบเร็วเสมอ
“ ศิษย์ดีเพราะมีครู “
พี่ปิ่น เลขาหลักสูตร ที่เรียกว่าผู้ทุ่มเทให้นักศึกษาทุกท่าน และอำนวยความสะดวกตลอดการเรียนได้เป็นอย่างดี ผมแอบรู้สึกว่าโชคดีนะที่เรียนในยุคที่พี่ปิ่นดูแล
ส่วนเพื่อนๆ พี่ น้อง ใน SMT ก็น่ารักพร้อมช่วยเหลือกันเสมอมา และพยายามช่วยเหลือให้จบไปด้วยกันเสมอ และนี่คือความทรงจำดีๆ ของผมที่มีต่อ มหาวิทยาลัยรังสิต
ในงานครั้งมอบรางวัลครั้งนี้ คุณธีรภัทร์ มีเดช ได้รับรางวัลจากบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรังสิต 1.รางวัลวิทยานิพนธ์ดีเด่น ประจำปีการศึกษา 2563 2.เชิดชูเกียรติบัณฑิตศึกษาประจำปี 2564 ที่ได้กระทำคุณประโยชน์ต่อสังคม
ส่วนท่าน ผศ.ดร.สุมามาลย์ ปานคำ (อ.นิว) ได้รับรางวัลอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ดีเด่น ประจำปีการศึกษา 2563 จากบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรังสิต
รางวัลแรก คือ “รางวัลดุษฎีนิพนธ์ วิทยานิพนธ์ดีเด่น” ประจำปีการศึกษา 2563 ทางมหาวิทยาลัยรังสิตได้มีพิธีมอบโล่ห์ และเกียรติบัตรให้แก่นักศึกษาที่ได้ทำวิจัย คุณธีรภัทร์ ทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับเรื่อง “ปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีผลต่อพฤติกรรมความตั้งใจซื้อเฟอร์นิเจอร์ผ่านเพจเฟซบุ๊กของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
CAUSAL FACTORS AFFECTING TO BEHAVIORAL PURCHASE INTENTION FURNITURE ON FACEBOOK PAGE OF CONSUMERS IN BANGKOK AND THE SUBURBAN AREAS” โดยมี ผศ.ดร.สุมามาลย์ ปานคำ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา
ซึ่งคุณธีรภัทร์เองก็เป็นเจ้าของธุรกิจผลิตเฟอร์นิเจอร์ โดยเรื่องที่ทำมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจโดยตรง ทางคุณธีรภัทร์ได้กล่าวว่า “การที่ได้ทำวิทยานิพนธ์เรื่องนี้ เป็นเหมือนการเพิ่มความรู้และทักษะในด้านการทำการตลาดออนไลน์ ซึ่งมีความสำคัญมากในยุคปัจจุบัน และเข้าใจพฤติกรรมลูกค้ามากยิ่งขึ้น พอนำผลที่ได้มาปรับใช้กับธุรกิจ พบว่าผลประกอบการดีขึ้นตามลำดับครับ”
ส่วนรางวัลที่สอง “รางวัลเชิดชูเกียรติบัณฑิตศึกษา” ที่ได้มอบให้กับคุณธีรภัทร์ ผู้ซึ่งทำคุณประโยชน์ต่อสังคม ถือเป็นแบบอย่างที่ดีและน่าชื่นชมอย่างมาก โดยคุณความดีที่คุณธีรภัทร์ ได้กระทำในช่วงที่ Covid-19 ระบาด คือ
โครงการ ที่ 1 มอบรถตู้VIP ส่วนตัวยี่ห้อ Volkswagen caravelle 2 คัน เพื่อใช้ในการรับส่งผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด นอกจากจะมอบรถให้ยืมใช้แล้ว ยังจ่ายค่าน้ำมัน ,ค่าซ่อมบำรุง และ อุบัติเหตุต่างๆที่เกิดขึ้น ทำให้สามารถช่วยผู้ป่วยไปกว่า 1,500 ครอบครัว มูลค่าที่ช่วยเหลือไปกว่า 2.2 ล้านบาท (โดยคำนวนจากราคา ภาคเอกชนที่คิดราคา 1,500 บาทต่อเที่ยว)
“ช่วงที่โควิดแพร่กระจายอย่างหนัก รถพยาบาลไม่พอรับส่งผู้ป่วยติดเชื้อ เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อขึ้นสูงเป็นวันละกว่าหมื่นคน ผมจึงประกาศให้ยืมรถ Volkswagen 2 คัน เพื่อรับ-ส่งผู้ติดเชื้อโควิด โดยไม่มีค่าใช้จ่าย” ทำไมถึงต้องเป็นรถตู้VIP ยี่ห้อ Volkswagen ? ทางคุณธีรภัทร์ตอบว่า เพราะเป็นรถที่ทางบริษัทเรามีอยู่แล้ว และรถโฟล์คนี้ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับคนขับอีกด้วย โดยมีกระจกกั้นระหว่างคนขับกันผู้โดยสารด้านหลัง ทำให้สามารถช่วยป้องกันเชื้อโรคได้ทันทีไม่ต้องดัดแปลงรถ คุณธีรภัทร์ จึงส่งมอบรถให้กับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
โครงการที่ 2 “บริจาคสเปรย์และเจลแอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย ชนิด N95 และแบบธรรมดา” มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ให้แก่โรงพยาบาลสนาม และชุมชนต่างๆ เพื่อเป็นสิ่งป้องกันเชื้อโควิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนเชื้อระบาดแรกๆ อะไรก็แพงไปหมด ของขึ้นราคาหลายเท่าตัว และโควิดทำให้เศรษฐกิจยิ่งแย่ บางคนตกงานขาดรายได้ บางคนธุรกิจชะลอตัวไปจนถึงกับต้องหยุดชะงัก และล้มเลิกกิจการ บางคนไม่สามารถหาหน้ากากอนามัยมาป้องกันตัวเองได้ เพราะเงินกินข้าวยังแทบจะไม่มี ผมจึงอยากเข้าไปช่วยครับแบ่งเบาเท่านั้นครับ
โครงการ ที่ 3 “เปลี่ยนวิกฤติเป็นกำลังใจให้คนไทยยิ้มได้ “ โดยเน้นการช่วยเหลืออาชีพอิสระในวันที่รายได้เป็นศูนย์ อาชีพที่ได้ช่วยเหลือไปคือ นักดนตรี ,ทีมตัดต่อVDO ทีมห้องอัด โดยเนื้อหาMV ให้กำลังใจทุกคนผ่านบทเพลง “ชัยชนะ”แต่งโดย พี่บอย โกสิยพงศ์ ซึ่งมีเนื้อหาความหมายที่ให้กำลังใจผู้คน และทางมหาวิทยาลัยรังสิต ได้เอื้อเฟื้อสถานที่ ในการถ่ายทำ MV และสนับสนุนบุคคลากรในการอำนวยความสะดวกตลอดการถ่าย MV นี้ตลอดโครงการ ธีรภัทร์ ใช้ทุนส่วนตัวดำเนินการทั้งหมด ครับ
ธีรภัทร์ กล่าวว่า ที่ผมออกมาทำประโยชน์ให้กับสังคมช่วงโควิท เพราะ ”ถ้าโควิดไม่จบ ธุรกิจ SME อย่างผมจบแน่” ผมเป็นอีกหนึ่งคนที่ทำธุรกิจขนาด SMEs หากวิกฤตโควิดดำเนินต่อไปไม่จบสิ้นและร้ายแรงกว่านี้ ผลกระทบจะมหาศาลมากทีเดียวครับ หากเราไม่ช่วยเหลือกันหรือตัวใครตัวมัน ผมว่าวิกฤตนี้ไม่มีทางจบลงแน่นอนครับ ตอนนี้เราต้องช่วยกันประคับประครองให้รอดไปได้ครับ
ผมเคยจนมาก่อน ผมจึงเข้าใจดีว่าความลำบากสุดๆ มันเป็นอย่างไร วันนี้ผมมีโอกาสได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันแล้ว ผมจึงไม่ลังเลที่จะลงมือทำ ไม่ใช่ว่าผมรวย ผมมีเงินเหลือ แต่เพราะผมยินดีที่จะให้และมีความสุขที่จะให้ตามกำลังที่ผมพอจะทำได้ครับ”
สุดท้าย คุณธีรภัทร์ยังได้กล่าวขอบคุณ ทางมหาวิทยาลัยรังสิต ที่ได้มอบรางวัลนี้ให้ ตนรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ทางมหาวิทยาลัย อาจารย์ ได้เล็งเห็นถึงความตั้งใจในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ของผมในครั้งนี้
รางวัลนี้เป็นทั้งกำลังใจและเครื่องเตือนใจผมให้ทำความดีต่อไป และจะทำสิ่งดีๆตอบแทนสังคม รวมไปถึงเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับรุ่นน้องต่อไปในฐานะศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยรังสิต และขอขอบคุณมหาวิทยาลัย และครอบครัวอย่างสูง
“ผมจะตั้งใจมุ่งมั่นในการทำความดี ช่วยเหลือคนอื่นต่อไป เท่าที่ผมจะช่วยได”
ธีรภัทร์ มีเดช กล่าวในขณะรับรางวัลเชิดชูเกียรติบัณฑิตศึกษา และรางวัลดุษฎีนิพนธ์ วิทยานิพนธ์ดีเด่น