"อั๋น ภูวนาท" พร้อมภรรยา "จ๋า" เผยสาเหตุปิดเงียบท้อง 7 เดือน ปรี๊ดแตกโดนแขวะเมียมีชู้ ไม่ได้ปั๊มลูกเอง สงสัยหมาทำ ซัดคอมเมนต์กาก ขู่ฟ้องให้เข็ด ลั่นรับคำขอโทษเป็นเงินสดเท่านั้น
เซอร์ไพรส์ไปตามๆ กัน หลัง "อั๋น ภูวนาท คุนผลิน" ออกมาเผยข่าวดีว่าภรรยา "จ๋า อลิสา พันธุศักดิ์" ตั้งท้องลูกคนที่สอง ได้ 7 เดือน เรียกว่าอุบเงียบมานานจนใกล้คลอด แต่มิวายโดนเกรียนคีย์บอร์ดแซะแรงหาว่า เมียมีชู้ ดีใจทำไม สงสัยหมาทำ งานนี้ทำเอาอั๋นปรี๊ดแตก พร้อมเปิดใจในรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องวัน31 ลั่นขอรับคำขอโทษเป็นเงินสดเท่านั้น
"คือผมจะบอกว่าเป็นคนภูมิต้านทานสูงมากในวันนี้และวัยนี้ เพราะเราอยู่มานานมากแล้วโดนมาตลอด โดนมาตั้งแต่ก่อนแต่ง แต่ง มีลูกคนที่หนึ่ง นี่คนที่สอง แล้ว มันก็จะวนอยู่กับเรื่องเดิมๆ ไม่ได้มาพูดว่าฉันเข้าใจโลก แต่มันเข้าใจจริงๆ ไม่รู้ว่าเป็นคนฟาดไหม ผมว่าผมไม่วีนไม่เหวี่ยง ถ้าพูดก็พูดด้วยเหตุผล"
"คอมเมนต์ที่รับไม่ได้คือคอมเมนต์ที่ไม่เกี่ยวกับเรา แล้วเริ่มไปแตะคนอื่น รู้สึกว่าผมมีภูมิต้านทาน แต่มันไม่แฟร์สำหรับคนอื่น ปกติช่วงหลังๆ ที่พูดแสดงความคิดเห็น ชวนกันคิด ซึ่งเรามั่นใจสิ่งที่เราพูดเป็นกลางแล้วเป็นบวก แต่พอเข้าไปดูมันมีคนเข้ามาคอมเมนต์เยอะมากผมก็ไม่อ่าน ถ้าเป็นคอมเมนต์ของตัวเราเอง"
"แต่ตอนเรื่องลูกมาปุ๊บ ประกาศละ 7 เดือน ดูหน่อยว่าพูดอะไรกัน เพราะว่าในใจของเราคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องน่ายินดีไม่ว่าเกิดขึ้นกับใคร และการยินดีกับผู้อื่นเป็นสิ่งที่คนปกติควรทำ ถ้าคุณไม่รู้สึกแบบนี้ควรสันนิษฐานกับตัวเองว่าผิดปกติ"
เดือดโดนชาวเน็ตแซะเมียมีชู้ ด่ากลับคอมเมนต์กาก
"ผมกดเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจหรอก ฟีดมันเด้งขึ้นมา มีข่าวเราด้วยก็กดดูคอมเมนต์ มันไม่ได้พูดถึงเรา แต่เรารู้สึกว่ามันแรงไปหรือเปล่า ก็มีเข้าไปดูบ้างว่าเขาเป็นใคร แล้วแต่อารมณ์และความว่าง"
"สารภาพเลยนะครั้งนี้ทำให้เรารู้สึก เพราะทีบางอันเขียนมาแบบนี้ อย่างเช่น ท้องแล้วเหรอ ประมาณว่าทำเองเหรอ เมียมีชู้มั้ง อันนี้ถ้าพูดตรงๆ มันสะท้อนถึงจิตใจคุณที่ค่อนข้างจะต่ำ หรืออย่างเช่น เด็กคนนี้หมามันทำ คือแบบมันมาจากไหน มันจะเป็นเรื่องประหลาดๆ อะไรที่เขาเรียกว่าคอมเมนต์กากคือมันเป็นแบบนี้ คือปากเรี่ยราด คนที่พูดไปแบบนี้คือไม่ได้คิด ซึ่งไม่ได้คิดจะดีใจกว่าคิดแล้วได้แค่นี้ ผมว่าน่าเป็นห่วงอนาคต"
เกรียนคีย์บอร์ดมีหนาว! อั๋นแคปไว้หมดแล้ว รับคำขอโทษเป็นเงินสด
"ตอนที่เห็นปุ๊บตกใจ เดี๋ยวหายไปหาไม่เจอแคปเก็บไว้ก่อน ดูไว้เป็นขวัญถุง ตอนนั้นพูดตรงๆ เราเรียนรู้จากหลายๆ อย่าง แล้วจะบอกว่าขอรับเป็นเงินสดเท่านั้นที่เขาฮิตอ่ะนะ ผมว่าไม่มีใครอยากได้เงินจากตรงนี้ เราทำมาหากินอย่างอื่นได้ เรามีปัญญา ถ้าคิดว่าเอาไปทำบุญเราโอเค แต่ตรงนั้นเป็นเรื่องรอง ถ้าคิดว่าจะทำอะไรทางกฎหมายสิ่งเดียวที่คิดเป็นหลักเลยคือ คิดว่าเป็นบทเรียน เพื่อไม่ให้เขาไปทำสิ่งนี้กับคนอื่น เพราะคนอื่นอาจจะภูมิไม่แข็งเท่าเรา แล้วผมว่ามันไม่แฟร์ไม่ว่าจะกับใคร"
"ที่ผมตอบโต้มันก็มีบางอันที่ว่า มันจะเกิดขึ้นจากความว่าง ผมจะตอบโต้คนที่คิดว่าเป็นบัวปริ่มน้ำ มีโอกาสที่บัวต้นนี้โผล่พ้นและมีโอกาสเบ่งบานได้บ้าง ผมก็เข้าไปพูดในเชิงให้สติ ถามว่าเบื่อไหม มันมีอยู่แล้ว เพราะเขาคิดว่าเขาไม่ต้องรับผิดชอบอะไร"
"สมมติว่าเข้ามาในพื้นที่ของผม ผมจะดูก่อนว่าคนนี้ใช้รูปจริงและชื่อจริงหรือเปล่า ถ้าเขาไม่ได้ใช้ชื่อจริงและรูปจริงก็หมายความว่าคนคนนี้ไม่มีค่าควรที่จะอยู่บนโลก เราไม่ต้องนับ เขายังไม่ให้ตัวตนกับตัวเขาเองเลย แปลว่าเขาปลอมทุกอย่าง รวมทั้งความคิดด้วย เราต้องไม่เสียเวลากับเรื่องนี้"
"และเยอะมากที่ส่งข้อความมาขอโทษ ซึ่งเป็นเรื่องดี (เขาส่งมาขอโทษแบบนี้แสดงว่าเรื่องที่ฟ้องเอาเงินสดมันอาจจะไม่เกิดขึ้น?) ณ ตอนนี้ผมเก็บไว้เฉยๆ ผมไม่ได้คิดว่าจะฟ้อง แต่คุณก็ไม่ต้องย่ามใจ พอดีช่วงนี้งานยุ่ง แล้วขี้เกียจนัดเจอทนาย ขี้เกียจเดินทางไปศาล"
คอนเฟิร์มว่าลูกทั้ง 2 คน เป็นคนปั๊มเอง
"ผมเป็นคนทำครับ ก็มีปรึกษาหมอเยอะเลย ผมคิดว่าในความเป็นจริง ถ้าเราสามารถเป็นไปได้ เราควรอยู่ภายใต้การดูแลของคุณหมอ นี่คือส่วนหนึ่งของการวางแผนครอบครัว"
ด้าน "จ๋า" ให้สัมภาษณ์ผ่านวิดีโอคอล โอดท้องสองเหนื่อย แก่ นอยด์ไปหมด
จ๋า : "ท้องที่สองเหนื่อย แก่ อาการแพ้ท้องก็เหมือนเป็นภูมิแพ้ตลอดเวลาตอน 2-3 เดือนแรก จนนอยด์ไปเลยว่าเราไปติดโควิดหรือยัง เป็นเดือนนึง"
อั๋น : "เราไม่ได้ตั้งใจปิดนะ"
จ๋า : "3 เดือนแรกหมอไม่ให้บอก มันไม่รู้ว่าจะปลอดภัยไหม พอมาเจอโควิดเรื่อยๆ เราก็ไม่ได้ไปไหนเลย ขนาดเพื่อนสนิทบางคนยังไม่รู้เลย แล้วทำงานจากบ้านตลอด แล้วก็ไม่ได้ปิด แต่ว่าพ่อเขาก็รีวิวลูกค้าตลอดเวลา ลูกคนที่สอง จริงๆ แล้วอั๋นอยากได้ แต่จ๋าพอคลอดลูกคนแรกแล้วรู้สึกเข็ดหน่อยๆ คือมันเหนื่อย ปรากฎว่าพอมาเจอโควิดปีที่แล้ว เราก็บอกว่าหยุดก่อนๆ ตั้งสติก่อนแล้วก็ไม่ได้ตั้งใจหาหมอ บอกหมอว่าขอหยุดก่อน หมอบอกหยุดได้แล้วแต่ความสบายใจของเรา"
"ที่เราหยุดเราต้องตั้งสติว่าลูกน้องเราก็เยอะ ภาระมันก็เยอะ ตอนนี้เราจะฉุดยังไงให้รอดก้นทั้งหมด เราก็มาคิดว่าทำไมโควิดมันไม่สามารถทำให้เด็กออกจากบ้านได้ ไม่สามารถเจอเพื่อนได้ ไม่สามารถทำอะไรกับสังคมได้เยอะ เรารู้สึกว่าเราก็สงสารเขาในอนาคตถ้าเขาอยู่คนเดียว แล้วเขาอยู่กับผู้ใหญ่หมดเลย ถ้าเขามีน้องก็ดีในภาวะที่เรารู้สึกว่ามันเป็นวิกฤต ต้นปีก็เลยบอกภูวนาทพร้อมแล้ว ก็เลยหาหมอต่อเลย"
อั๋น : "นี่พูดตรงๆ จ๋าเป็นคนสะกิด คือเขาเป็นคนบอกผมว่ามีเหอะ ผมก็คิดว่าเลิกล้มไปแล้วนะ (คือตอนแรกเราไปอ้อนก่อนว่าอยากมี?) ไม่ได้เกิดจากการอ้อน แต่ผมว่าจริงๆ มีก็ดีนะ เราจะคุยกันแบบนี้มากกว่า จ๋าเขาเป็นคนแข็งแรงมาก ภายนอกเขาแข็งแรงมาก แต่เรารู้ว่าไข่มันคงไม่เหมือนเดิม ผมเป็นคนนึงที่ออกมาพูดเรื่องเก็บไข่"
จ๋า : "ตอนจะมีลูกคนที่สองเราไม่ได้เป็นห่วงสุขภาพเรา แต่เป็นห่วงแค่ว่าเราจะมีลูกที่แข็งแรงไหม จ๋ามีความคิดอย่างเดียวก็คือถ้าพระเจ้าให้ก็ให้"
ไม่รู้ว่ากี่ครั้ง แต่พยายามอยู่นาน
อั๋น : "ไม่รู้ พยายามมานานเนอะจ๋า ตอนที่เขาบอกว่าท้องมันไม่ได้เป็นโมเมนต์น่าขนลุกนะ ตอนนั้นก็อยู่บนเตียงตามปกติ แล้วมันเป็นช่วงที่เราต้องไปหาหมอ หรือเราจะต้องรู้แล้ว เราไม่เคยใช้เครื่องตรวจเลย เราจะรู้ว่าประจำเดือนมาอีกละ แปลว่าไม่สำเร็จ ไม่เป็นไร แต่อยู่ดีๆ ครั้งนี้เขาก็พูดว่า ฉันว่าฉันท้องแล้วแหละ อั๋นก็อะไรวะ เพราะอะไรจ๋าถึงคิดว่าท้อง"
จ๋า : "มันเป็นฟีลลิ่งของตัวเอง จ๋าเป็นคนอธิษฐาน จ๋าจะเชื่อ แล้วพอจ๋าพูดว่าจ๋าเชื่อแล้วมันมักจะได้"
อั๋น : "คือผมเป็นคนที่ไม่มูเตลูเอามากๆ แต่ผมก็เคารพ คือไม่มูเตลูแต่ว่าไม่ได้ไม่เชื่อ แต่ไม่ฝากความหวัง จ๋าบอกให้อธิษฐานผมก็อธิฐาน แต่ทุกครั้งที่เขายืนยันกับผมในเรื่องแบบนี้ เขาไม่พลาดเลย วันที่เขาบอกผมไม่เชื่อ แต่ว่าไม่ได้ปฏิเสธ เพราะว่าเขาไม่เคยพลาด แต่ทีนี้อะไรอีกวะเนี่ย มันมาอารมณ์นี้ได้ยังไง ก็ไปตรวจสิ ขับรถไป แต่ไม่ใส่ความคาดหวัง พอตรวจปุ๊บหมอบอกว่าได้แล้วจริงๆ มันดีใจ แต่มันไม่ได้เป็นความตื่นเต้นเหมือนครั้งแรก"
"น้องพอล" ลูกชายคนโตรู้แล้วว่าจะมีน้อง
อั๋น : "ก็บอกเขา แต่เราไม่ได้พาเขาไปอัลตราซาวด์ ก็อธิบายว่านี่น้องอยู่ในท้อง"
จ๋า : "จ๋าให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ เพราะกลัวว่าไปบังคับเขาให้ยอมรับในสิ่งใหม่ ให้เขาค่อยๆ รู้เอง แล้วก็บอกคนรอบข้างด้วยว่าห้ามพูดอะไรเปรียบเทียบ เพราะมันจะทำให้เด็กเริ่มอิจฉากันตั้งแต่ยังไม่รู้จักกันเลย"