xs
xsm
sm
md
lg

มองสื่อลาว เหลียวสื่อไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงไม่น้อยหลังจากที่สื่อไทยบางส่วนรายงานข่าวกรณีคนไทยจำนวน 7 คนที่ถูกทางการลาวจับกุมตัวหลังออกไปเก็บเห็ดในป่าแล้วพลัดหลงเข้าไปในเขตประเทศลาว พร้อมระบุว่าทั้งหมดนั้นจะถูกกักตัวและได้รับการฉีดวัคซีนต้านเชื้อโควิด-19 ยี่ห้อไฟเซอร์ก่อนถูกส่งตัวกลับประเทศไทย

โดยในเวลาต่อมาคนในสังคมออนไลน์ชาวไทยก็นำเอาเรื่องนี้มาพูดถึงกระทั่งกลายเป็นกระแสไวรัลชักชวนกันไปเก็บเห็ดเพื่อที่จะได้ฉีดวัคซีนที่ประเทศลาวฯ กันในวงกว้าง

แน่นอนจุดประสงค์ส่วนใหญ่ก็คือต้องการจะกระแซะการบริหารเรื่องการฉีดวัคซีนในบ้านเรานั่นเอง

อันที่จริงจะบอกข่าวที่ถูกนำเสนอออกมานั้นเป็นเฟกนิวส์ทั้งหมดหรือไม่ ก็คงไม่ ถ้ามองว่าที่มาของข่าวก็คือรายละเอียดจากหนังสือที่นายอภัย วุฒิโสภากร นายอำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ทำรายงานถึงเหตุการณ์และความคืบหน้าต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งต่อมาเจ้าตัวได้ระบุว่าเรื่องฉีดวัคซีนตนได้ฟังมาจากทหารลาวอีกที และสุดท้ายก็ยอมรับว่าไม่รู้ว่าจะมีการฉีดจริงๆ หรือไม่

แต่ที่น่าสมเพชมากกว่าก็คือแทนที่ความสำคัญของเรื่องนี้จะอยู่ที่สภาพความเป็นอยู่ระหว่างถูกจับกุมว่าแต่ละคนเป็นอย่างไร? ตอนนี้ครอบครัวญาติๆ ได้รับความเดือดร้อนขนาดไหน? และทำอย่างไรทั้งหมดจะได้รับความช่วยเหลือโดยเร็ว? กลายเป็นว่าเรื่องการฉีดวัคซีนกลับเป็นประเด็นที่สื่อไปให้ความสำคัญ

โดยบางคนวิเคราะห์เสียเป็นเรื่องเป็นราว ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกาศอย่าง "ไก่ ภาษิต" ที่พูดในระหว่างรายงานข่าวนี้ว่า...ที่ลาวฉีดวัคซีนไฟเซอร์ หรือจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน แต่ไม่รู้ว่าจะได้วัคซีนของอะไร ตนคิดเองว่าจอห์นสันแอนด์จอห์นสันหรือเปล่า เพราะฉีดเข็มเดียว ไม่อย่างนั้นก็ต้องกลับไปฉีดเข็มที่สอง...

ไม่เพียงเท่านั้น หลายคนยังมองความเดือดร้อนของคนที่ถูกจับว่าเป็นคนโชคดี เอามาโพสต์เป็นเรื่องตลกขบขัน เช่น ในรายของ "ฐปณีย์ เอียดศรีไชย" นักข่าววัย 44 ปีที่โพสต์ภาพตัดต่อพร้อมข้อความระบุว่า "อยู่ที่ศาลทั้งวัน ออกมาเอ้า คุณกิตติคะ 555 มูฟออนไป สปป.ลาว กันบ่ทันเด้อพี่น้องเด้อ ป.ล. ภาพแชร์จากอินเตอร์เน็ต"

ต้องบอกว่าเรื่องนี้น่าแปลกไม่น้อย เพราะข่าวที่ออกมานั้นไม่ใช่เป็นเรื่องของการแสดงความเห็น หากแต่เป็นเรื่องของข้อเท็จจริง เพราะฉะนั้นก่อนที่จะนำเสนอสื่อเองก็น่าจะมีการพิจารณาสักหน่อยหรือไม่ว่าข้อเท็จจริงที่รายงานไปนั้นมันน่าเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหนจากข้อมูลมากมายที่มีอยู่

เพราะหากลองพิจารณาถึงข่าวการฉีดวัคซีนในประเทศลาว พิจารณาถึงการเข้าไปของทั้ง 7 ซึ่งแม้จะไม่ได้ตั้งใจแต่ก็ผิดกฏหมายโดยเฉพาะในช่วงที่ลาวปิดประเทศอยู่ มองอย่างไรการที่ทั้ง 7 คนไทยจะได้รับการฉีดวัคซีนนั้นก็ไม่น่าจะเป็นไปได้สักเท่าไหร่ (ยกเว้นหลังจากที่เรื่องนี้เป็นข่าวดังแล้วอาจจะมีใครซิกแซกสั่งฉีดให้ด้วยจุดประสงค์อะไรบางอย่างอันนี้ก็ไม่แน่)

หรือไม่มีข้อมูลอะไรเลยให้พิจารณา หรือเห็นอะไรที่มาเข้าทางก็ซัดเลย?

อีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือการที่สถานีโทรทัศน์แห่งชาติลาวได้มีการรายงานข่าวถึงเรื่องนี้ด้วยเช่นกันโดยระบุถึงเรื่องที่หลายสื่อหลายสำนักของไทยระบุว่าพลเมืองไทยได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่าข่าวนี้ไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด

ก่อนที่ผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์แห่งชาติลาวจะได้กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า การบริโภคสื่อสังคมออนไลน์ปัจจุบันนี้ ขอให้ตรวจสอบที่มาของข่าวสารอย่างชัดเจนก่อนจะกดเผยแพร่ออกไป

เห็นผู้ประกาศลาวทิ้งท้ายดังกล่าวแล้ว พอหันมามองนักข่าวบ้านเราหลายคนกำลังก้มหน้าก้มตาอ่านข่าวจากสารพัดโพสต์ในสังคมออนไลน์ แถมใส่อารมณ์เพื่อให้คนรับสารอินกับความดรามากันสุดฤทธิ์สุดเดชแล้วก็ได้แต่...



กำลังโหลดความคิดเห็น