กระแสเพลง K-Pop ยังคงมาแรง จนดูเหมือนจะกลายเป็นกระแสเพลงหลัก ที่มีกลุ่มเป้าหมายกระจายไปทั่วโลก ซึ่งถ้าจะนับกันไปแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า เป็นอานิสงส์จากความสำเร็จของวงบอยแบนด์ อย่าง BTS กับเกิร์ลกรุ๊ป อย่าง BLACKPINK ที่สร้างชื่อเสียงไว้ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตา จนกลายเป็นศิลปินที่ทรงอิทธิพลในนานาชาติไปแล้ว
ไม่อยากจะนึกเลยว่าเงินตราจะหลั่งไหลเข้าสู่เกาหลีขนาดไหน !!???
แต่ที่แน่ๆ ต้นสังกัดผู้ปลุกปั้นสองวงนี้ คงรับทรัพย์กันไม่หวาดไม่ไหวแน่นอน
ก็ไม่แปลกที่จะมีข่าวว่าจะมีผู้กล้าหน้าใหม่ที่พร้อมกระโจนลงมาฟาดเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งในตลาด K-Pop กันมากมาย
หนึ่งในนั้น ก็คือ “กู่เทียนเล่อ”
นักแสดงหนุ่มชื่อดังชาวฮ่องกงเจ้าของบทบาท “เอี้ยก๊วย” ในภาพยนตร์ชุด “มังกรหยก” ของสถานีโทรทัศน์ทีวีบี ในเวอร์ชันปี พ.ศ. 2538 และบทบาท “ลิโป้” ใน Dynasty Warriors มหาสงครามขุนศึกสามก๊ก ฉบับไลฟ์-แอ็คชั่น รวมถึงบทตลก ใน “เจาะเวลาหาจิ๋นซี” นับว่าเป็นพระเอกที่มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับแถวหน้า เป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ ทั้งในระดับฮ่องกง และเอเชีย
หลังจากที่พระเอกรุ่นใหญ่ได้นั่งแท่นเป็นโปรดิวเซอร์หนังมาพักใหญ่ ตอนนี้ก็ลงทุนเปิดบริษัทเอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่เกาหลีใต้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว และมีเป้าหมายที่จะผลิตและผลักดันศิลปินแนว K-Pop ออกสู่ตลาด
โดยมีรายงานข่าวว่า ศิลปินกลุ่มแรกที่เตรียมจะเดบิวต์อย่างเป็นทางการในราวกลางเดือนนี้ ก็คือวงเกิร์ลกรุ๊ป ที่ใช้ชื่อวงว่า
"SKYLE"
ประกอบด้วยสมาชิกเป็นสาวจีนและเกาหลีใต้ รวม 4 คน อายุเฉลี่ยอยู่ในช่วงประมาณ 20 ปี
แม้จะยังไม่มีการเปิดตัวสมาชิกอย่างเป็นทางการ แต่วง "SKYLE" ก็นับว่าได้รับความสนใจจากสาวกเพลง K-Pop ไม่น้อย โดยต่างก็พากันคาดเดาว่าสมาชิกทั้งสี่ของเกิร์ลกรุ๊ปวงนี้เป็นใครบ้าง ?
สองคนแรกที่มีชื่อติดอยู่ในโผ ก็คือ เอวา เหยา และ เจนนิเฟอร์ โจว ที่เคยร่วมรายการเรียลลิตี้ค้นหานักร้องอย่าง Youth with You เมื่อปี 2020
เอวา เหยา เป็นสาวยูนนาน จบการศึกษาจาก Yunnan Academy of Art สามารถพูดได้ทั้งภาษาจีนกลาง, เกาหลี และ ภาษาอังกฤษ
ขณะที่ เจนนิเฟอร์ โจว เกิดที่เซี่ยงไฮ้ มีผลงานในวงการบันเทิงจีนมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็น รายการเรียลลิตี้ Girls Fighting เมื่อปี 2016 ก่อนที่ในปีต่อมา ก็เข้าร่วมรายการเรียลลิตี้ของเกาหลีใต้อย่าง The Unit รวมถึงเคยออดิชันภาพยนตร์เรื่อง The Mermaid ของ โจวซิงฉือ ทั้งยังเคยเดบิวต์เป็นเกิร์ลกรุ๊ปวง ACEMAX-RED มาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาในวงการบันเทิง “กู่เทียนเล่อ” ต้องผจญกับมรสุมของข่าวในเชิงลบมาโดยตลอด ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ได้มารับบทเป็น “เอี้ยก๊วย” ก็โดนหยิบมาเปรียบเทียบกับพระเอกรุ่นพี่ อย่าง “หลิวเต๋อหัว” ที่รับบทเดียวกันในเวอร์ชันก่อนหน้านี้ และทำคะแนนไว้ดีมาก รวมไปถึงยังถูกแฉว่าเคยถูกดำเนินคดีทะเลาะเบาะแว้งมาก่อน
แต่ในอีกมุมหนึ่งนั้น “กู่เทียนเล่อ” นับเป็นพระเอกที่บำเพ็ญสาธารณประโยชน์มาอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นในลักษณะของ“ผู้ปิดทองหลังพระ” เพราะหลายครั้งหลายคราวแทบจะไม่มีข่าวออกมาภายนอกเลยด้วยซ้ำ
โดยเฉพาะการบริจาคเงินส่วนตัวเพื่อสร้างโรงเรียนกว่า 10 แห่งในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งทำแบบเงียบๆ มานานกว่า 10 ปีแล้ว
หนึ่งในนั้น ก็คือ “โรงเรียนประถมหงกวงกู่เทียนเล่อ” ซึ่งตั้งชื่อเพื่อระลึกถึงพระเอกหนุ่ม ที่ใช้เงินส่วนตัวถึง 150,000 หยวน หรือประมาณ 750,000 บาท สร้างไว้อยู่ที่เมืองซุนอีว์ มณฑล กุ้ยโจว
แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ปัจจุบัน โรงเรียนดังกล่าวถูกปล่อยให้รกร้าง เพราะไม่มีนักเรียนมาเรียน ทั้งที่ในช่วงที่โรงเรียนเปิดใหม่ๆ มีเด็กมาเรียนอย่างหนาแน่น
เหตุที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะเมื่อบ้านเมืองในละแวกนั้นเริ่มมีการพัฒนา ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็เริ่มอพยพตัวเองเข้าไปใช้ชีวิตในเมืองมากขึ้น และก็ส่งลูกหลานเข้าเรียนที่โรงเรียนในเมืองนั่นเอง
ผู้จัดการ 360 องศาสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 10-17 กรกฎาคม 2564
