หลังจากที่สมาคมผู้ประกอบอาชีพกลางคืน และธุรกิจบันเทิงแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือเปิดผนึกที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา เพื่อทวงถามและพิจารณาร่วมกันหาทางออก กรณีการขอมาตรการผ่อนปรน และมาตรการเยียวยาให้กับกลุ่มผู้ประกอบอาชีพธุรกิจกลางคืน และธุรกิจบันเทิง ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่จนถึงตอนนี้ต่างลำบากกันถ้วนหน้ากับสถานการณ์ที่ผ่านมายาวนาน
ล่าสุด “แพท วงเคลียร์” หรือ “แพท รัณนภันต์ ยั่งยืนพูนชัย” ได้โพสต์อธิบายยาวผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว โดยเผยในมุมวงดนตรีที่อยู่วงการมากว่า 16 ปี และที่ผ่านมาให้ความร่วมมือดีมาโดยตลอด แต่ตอนนี้คนดนตรีที่ไม่มีงาน กำลังจะหมดพลัง หมดใจ หมดกำลังใจ เริ่มไม่เห็นค่าตัวเองแล้ว กำลังจะหมดแรง และเปลี่ยนอาชีพ ขอกลับมาทำสิ่งที่ตัวเองรัก
“พวกเราขอพูดจากมุมมองของวงดนตรีวงหนึ่งนะคะ จากการอยู่ในวงการมากว่า 16 ปี เรารู้ดีว่าแค่ในสถานการณ์ปกติทั่วไปก่อนหน้าโควิดจะมา การจะยึดคำว่า ศิลปิน นักดนตรี เป็นอาชีพจริงๆ จังๆ นั้น มันก็ยากมาอยู่แล้วแต่ไหนแต่ไร ไม่นับย้อนไปสมัยที่อาชีพของเราถูกใช้คำว่าเต้นกินรำกินมานาน
ที่ผ่านมา เพื่อน พี่ น้อง ร่วมวงการของเรามุ่งหน้าทำอาชีพนี้กันต่ออย่างไม่ย่อท้อ ก็ด้วยความรัก หัวใจ และ จิตวิญญาณล้วนๆ ไม่ว่าใครจะมองเราอย่างไร เพราะเราเชื่อเสมอว่า งานที่เราทำนั้น คือเพื่อนร่วมทางของผู้คน สะท้อนชีวิตสะท้อนหัวใจของผู้คน และมันเยียวยาหัวใจของคนได้ อย่างน้อยๆ เราเชื่อว่า ทุกคนมีเพลงประกอบชีวิต เป็นของตัวเอง ในแต่ละช่วงชีวิตอยู่ในใจอย่างแน่นอน
ตั้งแต่โควิดเป็นต้นมา ทุกอาชีพที่สัมพันธ์กับการรวมคนจำนวนมาก จำเป็นต้องหยุดลง และคนดนตรี คือหนึ่งในอาชีพเหล่านั้น พวกเราเข้าใจถึงสถานการณ์ทุกอย่างเป็นอย่างดี และให้ความร่วมมือด้วยความเข้าใจดีเสมอมา
แต่เมื่อสถานการณ์ลากยาวมานานเกินกว่าที่ใครจะคาดเดาหรือวางแผนรับมือกันได้ไหว อย่างที่เรากำลังเผชิญกันอยู่ในตอนนี้ มันน่าหวั่นใจ และน่าเสียใจในมุมหนึ่งเหลือเกินว่า
คนดนตรีหลายๆ คน เมื่อไม่มีงาน ก็กำลังจะหมดพลัง หมดไฟ หมดกำลังใจ และเริ่มรู้สึกตัวเองไม่มีค่า เพราะไม่สามารถทำงานที่ตัวเองเชื่อว่าเกิดมาเพื่อทำมันนี้ได้
พอมันกัดกินเข้าไปเป็นเวลานานมากๆ เข้า มันจะลามไปถึงการหมดศรัทธา กับความฝันและวิชาชีพของตัวเอง และเลิกทำมันไปในที่สุด
และนั่นมันไม่ต่างอะไรกับการขโมยผลงานเพลงอันสวยงาม เสียงอันไพเราะ หรือแม้แต่ โปรดิวเซอร์เก่งๆ และครูดนตรีดีๆ ไปจากอนาคตของเรากันเอง อย่างนับไม่ถ้วน
เพราะผู้คนเหล่านั้น กำลังจะหมดแรงและเปลี่ยนอาชีพ
พวกเราอยากขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่จะขอโอกาส ให้เราได้กลับไปทำงานในสิ่งที่พวกเรารัก เราเชื่อว่ามันจะต้องมีหนทาง ที่ฟันเฟืองคนดนตรีจะหมุนต่อไปได้ “โดยที่ไม่ไปทำให้สถานการณ์โควิดย่ำแย่ลงไปกว่าที่เป็นอยู่”
วันนี้ “ชมรมคนดนตรีแห่งประเทศไทย” ได้เดินทางไปที่รัฐสภาเพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี รายละเอียดจะแปะไว้ให้ใน comment นะคะ พวกเราขอเชิญชวนเพื่อนๆนักดนตรีทุกคน ร่วมลงชื่อเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/thaimusician
เป็นกำลังใจให้ทุกคน ทุกอาชีพ ที่สู้อยู่ด้วยกันนะ เราเชื่อว่ามันจะต้องมีหนทาง
แพท คี นัท ณัฐ
credit ภาพ The Standard”