มีข่าวว่าแฟน ๆ ของรายการประกวดไอดอล Youth with You 3 ต้องหมดเงินรวมกันนับล้าน ๆ หยวน ในการซื้อผลิตภัณฑ์นมซึ่งเป็นสปอนเซอร์ของรายการ เพียงเพื่อเอาโค้ดโหวตเพื่อมาลงคะแนน ให้กับผู้ประกวดที่ตนเองชื่นชอบเท่านั้น
ด้วยกติกาดังกล่าว ทำให้มีการทุ่มซื้อสินค้าที่เป็นนมกล่องมาจำนวนมาก เพื่อเอาเพียงโค้ดโหวต ก่อนที่จะเทนมทิ้งจำนวนมากมายมหาศาล ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่านี่อาจจะเป็นเหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้รายการถูกระงับการออกอากาศก็ได้
ผลิตภัณฑ์นมที่เป็นสปอนเซอร์ของรายการ ประสบความสำเร็จขายดีเป็นเทน้ำเทท่าหลังสนับสนุนรายการ ค้นหาไอดอลหน้าใหม่ของจีนแผ่นใหญ่ที่ชื่อว่า Youth with You 3 ที่ทำให้สินค้ามียอดขายถล่มทลาย
แต่แน่นอนว่าไม่มีใครที่ซื้อสินค้าไปเพราะอยากจะบริโภคแต่อย่างใด พวกเขาเพียงอยากได้ QR codes ที่แถมกับนมทุกกล่อง เพื่อไปโหวตให้กับผู้เข้าแข่งขันที่ตนเองเชียร์และชื่นชอบอยู่เท่านั้น
รัฐบาลจีนเพ่งเล็ง รายการส่อสนับสนุน ประชาชนทิ้งอาหารอย่างสูญเปล่า
พฤติกรรมของแฟนคลับที่เกิดขึ้น กลายเป็นที่วิจารณ์อย่างรุนแรงในสังคมจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พฤติกรรมดังกล่าวดูจะขัดกับสิ่งที่รัฐบาลจีนพยายามจะส่งเสริมในระยะหลัง นั่นคือการกำชับไม่ให้สื่อสนับสนุนการ ใช้อาหารอย่างสูญเปล่า
รายการค้นหาไอดอลหน้าใหม่อย่าง Youth with You 3 เป็นรายการที่ได้รับอิทธิพลมาจากทางเกาหลีใต้ โดยในแต่ละสัปดาห์ ไอดอลผู้เข้าประกวดจะได้รับคะแนนจากแฟนคลับ จากการส่งข้อความเข้ามาโหวต
แต่ในสัปดาห์ท้ายๆของการประกวด ได้มีการเพิ่มช่องทางโหวตคะแนน โดยแฟนๆ สามารถสแกน QR codes ที่แถมกับสินค้าที่เป็นสปอนเซอร์ของรายการได้ พวกไอดอลหนุ่มที่ตนเองชื่นชอบได้
โดยการแข่งขันอย่างรุนแรงในหมู่ผู้เข้าประกวด และในหมู่แฟนคลับ ทำให้มีการระดมทุนเพื่อซื้อสินค้านมของสปอนเซอร์ เป็นจำนวนมหาศาล
แฟนคลับอ้าง นึกว่าคนขาย QR codes เอานมไปบริจาค
ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี อย่างเมื่อปีก่อนรายการประกวดไอดอลของทาง Tencent อย่าง Chuang 2020 ก็เคยมีข้อมูลว่าเป็นแฟน ๆ ได้ทุ่มเงินซื้อสินค้าเพื่อโค้ดโหวต รวมเป็นเงินมหาศาลถึง 48 ล้านหยวน หรือประมาณ 232 ล้านบาท มาแล้ว
โดยมีแฟนคลับบางคนอ้างว่าพวกเขาซื้อ นมด้วยตัวเอง และกินนมทั้งหมดเองจนบางครั้งก็ ปวดท้องไปเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม แฟนคลับส่วนใหญ่ไม่ได้ซื้อสินค้าเหล่านี้ด้วยตัวเอง แต่รวมเงินเป็นก้อนใหญ่ เพื่อให้ตัวแทนไปซื้อ และเอามาแต่เพียงโค้ดโหวตเท่านั้น โดยที่พวกเขาเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าสุดท้ายแล้วนมในกล่องไปอยู่ที่ไหน บางคนเชื่อว่ามีการเอานมที่เหลือไปบริจาค ให้กับเด็กยากไร้อะไรทำนองนั้น
แต่ล่าสุดได้มีคลิป ที่หลุดเผยแพร่ออกมาในโซเชียลมีเดียของชาวจีนแผ่นดินใหญ่ เป็นภาพของชาวจีนจำนวนหนึ่ง ที่เปิดกล่องนมเพื่อเอาโค้ด และเท่นมในกล่องทิ้งแบบไม่แยแส
คลิปหลุดเทนมทิ้งเอาแต่โค้ดโหวต
หญิงสาววัย 26 ปีชาวฮ่องกงอย่าง วิกี้ ซู ยอมรับว่าเธอทุ่มเงินโหวตให้กับไอดอลหนุ่มที่เข้าร่วมรายการไปไม่น้อย ด้วยการโอนเงินให้กลุ่มแฟนคลับในจีนแผ่นดินใหญ่ ให้ช่วยซื้อสินค้านมดังกล่าวให้ ซึ่งพวกเขาก็จะส่งโค้ดโหวตมาให้เธอ โดยเธอเองก็ไม่แน่ใจนักว่านมในกล่องจะไปอยู่ที่ไหน
“ระบบแบบนี้ออกแบบมาให้แฟนคลับทุ่มเงินแข่งกัน” วิกี้ ซู ยอมรับตรงๆว่าเธอเองก็ไม่เคยเห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้นนัก “ในฐานะแฟน ฉันเองก็ไม่ได้อยากจะปั่นคะแนน ด้วยการทุ่มเงิน หรือซื้อสินค้าโดยไม่ได้ใช้แบบนี้ซักเท่าไหร่ แต่มันเป็นหนทางเดียว ที่จะมั่นใจได้ว่าไอดอลดิฉันสนับสนุนจะมีโอกาส ในวงการที่เต็มไปด้วยการแข่งขันกันอย่างรุนแรงแบบนี้”
คลิปดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์มากในหมู่ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ล่าสุดหน่วยงานของรัฐบาลจีนอย่าง โครงการต่อต้านการทิ้งอาหาร ได้ออกมาให้ความเห็น
ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า “นี่คือพฤติกรรมการต้องการแสวงหากำไร โดยไม่สนใจว่าจะต้องทิ้งอาหารอย่างสุรุ่ยสุร่าย แล้วยังเป็นการ ลบหลู่เราแรงงาน ที่ลงมือโรงแรงไปจนได้อาหารเหล่านี้มาซึ่งถือว่าขัดต่อกฎหมายอย่างชัดเจน ทั้งหน่วยงานของรัฐบาลยังบอกว่าการทำแบบนี้ยังจะสร้างค่านิยมที่ผิดและบิดเบือนให้กับคนรุ่นใหม่ด้วย
หลังหน่วยงานของรัฐบาลมีความเห็นดังกล่าวออกไป ก็มีการ ออกคำสั่งไปถึงสตรีมมิ่ง iQIYI ให้ระงับการออกอากาศรายการ ตอนสุดท้ายทันที
ยังไม่มีการแถลงอย่างเป็นทางการ ว่ารายการโดนแบนเพราะอะไร
ถึงตอนนี้ทางหน่วยงานของจีนก็ยังไม่ได้ออกมาให้ข่าวอย่างเป็นทางการ ว่าทำไมถึงตัดสินใจสั่งระงับการออกอากาศของรายการ สื่อและเป็นแฟนจึงได้แต่คาดเดากันไป
โดยตอนแรกหลายฝ่ายเชื่อว่าการแบนเกี่ยวข้องกับเรื่องอื้อฉาวของไอดอลหนุ่มที่ชื่อว่า “โทนี” ทั้งเรื่องธุรกิจของครอบครัวและเรื่องการถือสองสัญชาติของเขา
ตอนนี้หลายฝ่ายมองว่าเรื่องการ “เทนมทิ้ง” ก็อาจมีน้ำหนักเช่นเดียวกัน ด้านทีมงานของ Youth With You 3
ได้ออกแถลงการณ์ว่าทางรายการ จะดูแลให้ ไม่มีความผิดพลาดใดๆเกิดขึ้นอีกและจะปรับปรุงรูปแบบให้ตรงต่อกฎระเบียบของทางราชการ
อย่างไรก็ตามถึงตอนนี้รายการก็ยังไม่ได้แถลงอะไรที่เป็นรูปธรรม ว่าจะกลับมาออกอากาศเมื่อไหร่หรือจะยกเลิกไปเลย ก็ยังไม่ชัดเจน