หลังจากที่เงียบหายไปนานกว่า 2 เดือน หลังถูกอดีตแฟนหนุ่มแฉว่าไม่ยอมเลี้ยงดูลูกที่เกิดจากการอุ้มบุญ ซ้ำยังทอดทิ้งอย่างไม่ใยดีให้ต้องโดดเดี่ยวอยู่ในอเมริกากลับจีนไม่ได้เพราะไม่ยอมเซ็นรับรองบุตร ล่าสุด “เจิ้งส่วง” ได้เดินทางไปอเมริกา เพื่อสู้คดีกับ “จางเหิง” อดีตแฟนหนุ่มแล้ว
หลังจากที่ เจิ้งส่วง นักแสดงสาวชื่อดังวัย 29 ปี ถูกอดีตแฟนหนุ่มแฉเมื่อเดือน ม.ค. ถึงเรื่องที่ไปจ้างคนอุ้มบุญที่อเมริกา แต่พอท้องได้ 7 เดือน ก็สั่งให้ทำแท้งเด็กหรือนำไปทิ้งไว้ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแทน จนทำให้นางเอกสาวโดนด่าไปทั่วบ้านทั่วเมือง ข่าวฉาวนี้ส่งให้ เจิ้งส่วง ถูกทางการจีนสั่งแบน และถูกระงับงานในวงการบันเทิงทั้งหมดทันที
ล่าสุด เจิ้งส่วง ได้เดินทางไปอเมริกาเพื่อขึ้นศาลสู้ศึกเลี้ยงดูบุตรเป็นที่เรียบร้อย โดยเธอได้ให้เหตุผลถึงการเลือกใช้วิธีอุ้มบุญว่าเป็นเพราะ ระบบหัวใจของเธอค่อนข้างอ่อนแออันเนื่องมาจากการอดอาหารบ่อยๆ ทำให้เธอกลัวว่าการตั้งครรภ์จะเสี่ยงเกินไปสำหรับเธอ
พร้อมกันนั้นยังระบุว่า เมื่อปี 2018 ทั้งคู่ได้ตัดสินใจแล้วที่จะใช้วิธีอุ้มบุญ จึงได้หาบริษัทที่เป็นผู้ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้ จนได้ลูก 2 คนคือ ลูคัส และ ลูน่า ที่ลืมตาดูโลกมาเมื่อปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่มีการอุ้มบุญ 9 เดือนเกิดขึ้น เจิ้งส่วง พบหลักฐานที่ระบุได้ว่า จางเหิง นอกใจจึงตัดสินใจเลิกรากับชายหนุ่มโดยทันที เมื่อผู้พิพากษาถาม เจิ้งส่วง ว่าหลังรู้ว่า จางเหิง นอกใจ เธอมีความคิดที่จะทำแท้งเด็กจริงหรือไม่ เจิ้งส่วง ได้ยอมรับ โดยระบุว่าตอนนั้นเธออยู่ในจุดที่ไม่มั่นใจว่าเธอจะทำให้เด็กๆที่กำลังจะลืมตาดูโลกมีความสุขในสภาพแวดล้อมที่พ่อแม่ต้องแยกทางกันได้อย่างไร เธอจึงได้ติดต่อหาคลินิกที่รับทำแท้งและสถานรับเลี้ยงเด็ก แต่หลังจากที่อารมณ์ของเธอสงบลง เธอก็ไม่มีความคิดจะพาคนอุ้มบุญที่กำลังตั้งครรภ์ 7 เดือนไปทำแท้งเด็กอีก
ระหว่างที่ให้การกับชั้นศาล จางเหิง พยายามโฟกัสไปที่ปัญหาด้านสภาพจิตใจของ เจิ้งส่วง ทำให้ผู้พิพากษาขอให้ เจิ้งส่วง ทำการประเมิณทางด้านจิตเวช
นอกจากนั้น จางเหิง ยังยืนยันว่าเขาจะไม่ยอมแพ้เรื่องสิทธิ์เลี้ยงดูลูกๆ เพราะเขาไม่คิดว่า เจิ้งส่วง จะเป็นแม่ที่ดีได้ เพราะนับตั้งแต่ที่เธอมีความคิดจะทำแท้งลูกก่อนหน้านี้ ก็ทำให้เขาไม่สามารถไว้ใจเธอได้ พร้อมกับยืนยันว่า เขาไม่รู้ว่าพฤติกรรมของเธอตอนไหนคือเรื่องจริง และตอนไหนคือกำลังแสดงอยู่
และเนื่องจาก เจิ้งส่วง ค่อนข้างร่ำรวย จางเหิง จึงกลัวว่า นักแสดงสาว อาจไปติดสินบนกับแม่อุ้มบุญเพื่อมาช่วยเป็นพยาน ส่วน จางเหิง เองเคยพยายามเกลี้ยกล่อมแม่อุ้มบุญเพื่อบันทึกวิดีโอแถลงการณ์ก่อนการพิจารณาคดี แต่พวกเขาปฏิเสธที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
นอกจากนั้นข้อพิพาทของทั้งคู่ เรื่องที่ จางเหิง ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย เจิ้งส่วง ว่าจะตีให้ตาย 100 ครั้ง ในข้อความแชท จางเหิง ยืนยันว่าสิ่งที่เขาเขียนเป็นเพียงการเปรียบเปรย เป็นคำที่เพื่อนมักจะพูดเล่นกัน ไม่ได้จริงจัง ซึ่งเขาไม่แน่ใจว่าทำไมเขาถึงพิมพ์ไปแบบนั้นอาจเพราะตอนนั้นเขาค่อนข้างเมา
ในส่วนของ เจิ้งส่วง ที่ได้วีซ่าอยู่ที่อเมริกานาน 6 เดือน จะโฟกัสไปที่สิทธิ์การเลี้ยงดูลูก และยังไม่มีแพลนที่จะกลับมาทำงานในวงการบันเทิงในช่วงเวลานี้ และเธอยังต้องขึ้นศาลต่อไปเพื่อสู้ศึกเรื่องสิทธิ์เลี้ยงดูลูกๆต่อไปจนกว่าศาลจะตัดสินให้เป็นที่สิ้นสุด