“แอน จักรพงษ์” รับผิดหวัง เหมือนถูก คุณณะ แทงข้างหลัง ไม่เห็นเงาหัว ทั้งที่มองว่าเป็นเพื่อน สวนกลับเรตติ้งไม่ดี ขายของไม่ได้ก็ไม่เคยพูด รักษาหน้าให้เกียรติอีกฝ่าย แจงเรื่องจ่ายเงินช้า เพราะบริษัทต้องวางบิล ถึงมีเงินพันล้าน แต่หากอีกฝ่ายสายป่านขาด เอกสารไม่ครบ ก็ช่วยไม่ได้ ดึงสติ LGBT อย่าตกเป็นเครื่องมือคนปั่น หลังจากนี้งดพูดเรื่องความร่ำรวย ถามใจตัวเองเจอแบบนี้จะยังคบมั้ย
กลายเป็นมหากาพย์ไปแล้วจ้า สำหรับกรณี “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล”เปิดศึก “แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” ข้ามเพศหมื่นล้าน ผู้บริหารบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จํากัด (มหาชน) ถึงขั้นประกาศแบนทุกรายการ ล่าสุด แฉซ้ำอีกฝ่ายจ่ายเงินช้า มิสแกรนด์เป็นฝ่ายเลือกที่จะไม่ร่วมงานเอง
ล่าสุด แอน จักรพงษ์ ไม่ทน ไลฟ์สดเปิดใจผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ลั่นดิฉันเป็นลูกค้าค่ะ คือ ผู้อุปการะ คำว่ากตัญญูสำคัญมากต้องมี แอนทำงานกลับมาเมืองไทย 22 ปี เรื่องลูกค้าจะไม่พูดให้ใครฟัง รายได้กองๆ อยู่มีเป็นพันล้าน มันคือมารยาททางการค้า ทุกครั้งจ่ายเงินหมด การจัดประกวดทุกครั้งก็ไปเป็นกรรมการ ทุกอย่างคือการอุดหนุน ทำไมต้องมาซ้ำเติมกัน ว่าขอแบน ศัลยกรรมเปลี่ยนได้แค่ภายนอก ตกใจมาก ทำไมเกิดการซ้ำเติมกันในสังคม โดยเฉพาะคนเป็นเพื่อน
“คำว่าเรามีผลประโยชน์ร่วมกัน หมายถึงการลงทุนร่วมกันเป็นพาร์ตเนอร์ แต่แอนคือลูกค้า คือผู้อุปการะ คำว่ากตัญญูสำคัญมากต้องมี แอนทำงานกลับมาเมืองไทย 22 ปี เรื่องลูกค้าจะไม่พูดให้ใครฟัง เพราะทุกช่องทีวีดิจิทัลซื้อของดิฉันหมด ยอดขายปีนึงไปดูเองได้ ตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์จะเข้าหมื่นล้านแล้ว รายได้กองๆ อยู่มีเป็นพันล้าน มีคนถือหุ้นหลายคน มันคือมารยาททางการค้า ทัศนคติที่ดีต่อคนที่อยู่รอบๆ เรา แบ่งแยกให้ชัดเจนว่าคนนี้คือลูกค้าที่เขาให้เงินเรา ฉะนั้นการที่เราเป็นผู้มีอุปการคุณเราจ่ายไปหลายล้านบาทในช่วงเวลา 4 ปีที่ผ่านมา
ดิฉันไป 7 เทปก็จ่ายเงินหมด ที่สำคัญการจัดประกวดต่างๆ ก็ไปเป็นกรรมการ ทุกอย่างคือการอุดหนุนแต่ที่สำคัญอยากฝากไว้ว่า การทำธุรกิจ จะบอกว่าเป็นธุรกิจที่ไม่คิดถึงระยะยาวเป็นไปไม่ได้ แอนมีปณิธานเสมอว่าเราคบกันวันนี้ถึงไม่ได้ทำงาน แต่วันหน้าอาจมีโอกาสได้กลับมาทำงานกัน ฉะนั้น เราจะไม่ตัดฉับ รู้สึกว่าคนนี้หมดประโยชน์แล้วฉันจะทำอะไรกับเขาก็ได้ ดิฉันรู้สึกเสมอว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณ เขาเคยอุดหนุนเรา เขาเคยให้เงินเรา พนักงานเราอยู่ได้เพราะเขา ตัวเราครอบครัวเราอยู่ได้เพราะเขา จะมากน้อยเขาคือผู้มีอุปการคุณ ไม่งั้นวันนี้เราขายแพลตฟอร์มให้ทีวีดิจิทัล ปีนึงหลายพันล้าน ฉันทำได้ยังไง เพราะคำว่ามารยาทและการแยกแยะให้ออกว่าเขาคือผู้มีพระคุณ ความกตัญญูต้องมา
ฉะนั้น จะพูดง่ายๆ แล้วตัดฉับไปว่า ก็มีผลประโยชน์ร่วมกัน จะใช้คำว่าเนรคุณไม่ได้ ก็คุณให้เงินผมและผมให้ของคุณก็จบไป หมายความว่าความซาบซึ้งมันหายไปไหน อันนี้เป็นเรื่องน่าตกใจที่คนทำธุรกิจต้องเก็บสายสัมพันธ์เอาไว้เพื่อต่อยอดไปเรื่อยๆ ต้องมองไกลๆ ว่าอนาคตจะได้ร่วมงานกันมั้ย อย่าไปมองเขาว่าหมดประโยชน์แล้วก็จบกันไป แล้วมันจะระยะยาวได้ไง
โอเค คุณณะเป็นพับลิคสปีกเกอร์ เป็นสื่อต้องเล่าข่าวให้ทุกคนฟัง ก็ดีนะคะ ไม่มีใครว่า ทำไปเถอะ แอนก็มีสำนักข่าว คนทำงานก็เยอะแยะมากมาย ซัปพลายให้ทีวีดิจิทัลหลายช่อง ทำงานก็ทำไป แต่มีคำว่าต้องดูจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม เล่าข่าวก็เล่าไปเถอะค่ะ แล้วแอนก็ยอมรับว่ากระแสเราเยอะจริงๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จะเป็นคนดังระดับแค่ไหนไม่สำคัญ แต่กระแสสำคัญกว่า ยิ่งเป็นนักเล่าข่าวก็ต้องหยิบกระแสที่ดังระดับต้นๆ มาเล่าข่าว แอนเข้าใจ แต่ทีนี้การเล่าที่ผิดจังหวะคือแอนไลฟ์สดขอโทษไปเรียบร้อยกับสิ่งที่ทำ เพราะเราไม่ได้มีเจตนา ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ รวมทั้งต้นสังกัดที่ฟิลิปปินส์เราก็ส่งหนังสือขอขมาไปว่าเราไม่ตั้งใจ เราอาจใส่เกียร์เยอะเกินไป เราทำงานมา 5 ปีจะดูดายไม่ได้ จะไม่มองว่าเขาเป็นแค่ศิลปินคนหนึ่ง ไม่ได้ เราก็ต้องมองและให้เกียรติเขา เราพลาดอะไรไปเราก็ขอโทษ ฟังให้ชัดนะคะ ส่งไปเรียบร้อยแล้วทั้งต้นสังกัดและเจ้าตัว แล้วแอนก็มาพูดให้ผู้ชมชาวไทยฟังด้วยจิตสำนึกว่าฉันไม่น่าทำอะไรบ้าง 1 2 3 ตามนาทีที่ออกรายการแฉ ถ้าไม่ตั้งใจจะทำการบ้านขนาดนั้นเลยเหรอคะว่าจุดไหนบ้างที่เราพลาด และเป็นครูของเราต่อไปในอนาคต
แต่พอเราขอโทษไปแล้ว ทำไมต้องมาซ้้ำเติมกัน โดยการปล่อยข่าวในวันรุ่งขึ้น ว่าผมขอแบนคนนี้ ศัลยกรรมมันเปลี่ยนได้เฉพาะภายนอก แต่ไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยได้ ดิฉันตกใจมาก ว่าทำไมมันเกิดการซ้ำเติมกันในสังคม โดยเฉพาะเพื่อน และเรารู้สึกว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษที่เป็นเพื่อนเรา ที่รู้จัก ทำงานมาเป็นสิบๆ ปี มันเป็นอะไรที่เราตกใจ และบอกได้เลยว่าถ้าเป็นแอน แอนเป็นคุณณะจะเล่าข่าวไป แต่จะบอกว่าท้ายที่สุดคุณแอนขอโทษแล้ว แล้วผมก็รู้สึกเข้าใจแล้ว เห็นได้ว่าทำอะไรผิดไป ก็จบเรียบร้อย ถ้าคุณแอนไม่มาขอโทษ ผมเป็นเพื่อนก็จะแบนเหมือนกัน มันพูดทีเล่นทีจริงได้ แต่ไม่ใช่วันรุ่งขึ้นแบนเลย
ถ้าคุณเป็นเพื่อนเป็นลูกค้าจะรู้สึกยังไง แล้วจบไปแล้ว และเป็นสื่อเดียวด้วย สื่ออื่นจบไปแล้ว ว่าเราได้บทเรียนอันล้ำค่าก็ขอให้เราเรียนรู้ แฟนคลับทุกคนมาให้กำลังใจ แต่เพื่อนของเรา และตัวเราเป็นลูกค้าเขา จ่ายเงินกันไปหลายล้านบาท กลับพูดมาว่าขอแบน ขอไม่ทำงานด้วย ขนาดนั้นเลย"
เสียใจพูดเหมือนไม่เห็นเงาหัวในสายตา
“เราก็รู้สึกเสียใจ พูดจาเหมือนใช้อิทธิพล เหมือนเราไม่มีเงาหัวในสายตาเขา แน่นอนเป็นใครก็โกรธ ถ้าเป็นคุณจะรู้สึกยังไง คุณจ่ายเงินไปตลอดระยะเวลา 10 ปี ไปเป็นกรรมการให้รวมถึงกิจกรรมที่สำคัญพาไปสิงคโปร์ ให้รู้จักบริษัทต่างประเทศที่เป็นคู่ค้าของแอน บางธุรกิจเขาขอเอง เราก็พาไป แล้วเพื่อนฝูงในอุตสาหกรรมก็บอกว่าเขาทรงคุณค่า อยู่มานาน ท็อปๆ ของเมืองไทย ดิฉันอยู่หน้าจอสนุกสนาน แต่การทำงานเครียด จริงจัง ไม่ได้ล้อเล่น ข้อที่หนึ่งเคลียร์คัตว่าเราเป็นลูกค้า จะบอกว่าได้ผลประโยชน์ร่วมกันแล้วจบ ไม่มีใครพูดแบบนี้ เพราะเท่ากับอายุบริษัทจะไม่ยาว อย่ามองผลประโยชน์เป็นครั้งๆ ไป”
สองทำหน้าที่พับลิคสปีกเกอร์ ทำหน้าที่ได้ ไม่มีใครว่า ดีค่ะ เราเข้าใจ ช่วยสอดส่องประเทศไทย ก็ดีค่ะ แต่เราจะเป็นกลาง แต่เมื่อคนขอโทษแล้วจะซ้ำเติมทำไม
และขอแบน ประโยคที่เขียนว่าศัลยกรรมเปลี่ยนได้แค่ภายนอก นิสัยความคิดเปลี่ยนไม่ได้ นี่คือ เพื่อนเหรอคะ นี่คือ เราเคยเป็นลูกค้าเขาหรือเปล่า ยิ่งเป็นเพื่อนกันคุณมีไลน์ดิฉันอยู่แล้ว ถ้าห่วงฉันจริงๆ โทรศัพท์มาคุยกันสิ ทำไมต้องพาดหัวข่าวให้ใหญ่โต แล้วคุณยืนหน้าหรา ขอแบน แอน จักรพงษ์ สร้างเฮดไลน์ สร้างไปทำไม ในเมื่อสำนักอื่นๆ เขาจบกันหมดแล้ว ให้กำลังใจด้วยซ้ำ แต่พอวันรุ่งขึ้น มีคุณแค่คนเดียวในประเทศที่ขึ้นมา ปฏิบัติตัวเหมือนเปาปุ้นจิ้น ผมขอแบนอย่างนั้นอย่างนี้
ศัลยกรรมเปลี่ยนได้ทุกอย่าง ยกเว้นนิสัย กับความคิด เราทำอะไรให้โกรธแค้นกันเหรอคะ เราคิดว่าเราดูแลหัวใจ ดูแลน้ำใจกันมาตลอด มันก็ไม่ควรต้องเกิดขึ้น เพราะคนจะเข้าใจคุณณะผิดว่าสร้างกระแสตัวเอง แต่ดิฉันไม่พูดตรงนั้น แต่ขอพูดว่าคนล้มอย่าข้าม จะซ้ำเติมให้ตายเลยใช่มั้ย”
สวนเจเคเอ็นไม่ได้จ่ายเงินช้า แต่บริษัทต้องมีการวางบิล ถึงมีเงินพันล้าน แต่สายป่านคุณหมด ก็ช่วยไม่ได้ หากเอกสารไม่ครบ
“เจเคเอ็นไม่ได้จ่ายเงินช้านะคะ เราอุดหนุนคุณมาตลอด ถ้าคุณไม่พอใจ ทำการค้ามา 4 ปี คุณเลิกตั้งแต่ปีที่ 1 แล้ว แต่บริษัทคุณ ดิฉันพูดอย่างเปิดใจ คุณพยายามเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่ทั้งบริษัทมีคุณรันอยู่คนเดียว คือคุณ ณะ เป็นทั้งเป็นพิธีกร จัดอีเวนต์ เหมือนคนเดียวไปหมดทุกกระบวนการไม่ใช่ทำงานแล้วขอเก็บเงิน
บริษัทเขามีการวางบิล ทำงานเสร็จมีสัญญาก่อน โดยเฉพาะบริษัทมหาชน มีผู้ถือหุ้นมหาศาล ต้องมาวางบิล และเอกสารต้องครบ หลังจากนั้นมารับเช็ควันที่ 25 ถ้าเอกสารไม่ครบ คุณต้องไปวางบิล 4-5 เดือนถัดไปค่ะ คนทำงานฟังดิฉันเข้าใจแน่นอนด้วยเหตุด้วยผล เอกสารคุณไม่ครบ เขาก็ต้องให้คุณมาวางบิลในเดือนถัดไป มันเป็นหลักเกณฑ์ตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทมหาชน
ถึงแม้คุณเจ็บปวดว่าสายป่านคุณหมดแล้ว คุณให้ข่าวไปเมื่อเช้า เรามีเงินเป็นพันล้านจริง แต่เราไม่สามารถปล่อยเงินให้คุณได้ หากเอกสารคุณไม่ครบ ตัวดิฉันไม่ใช่ผู้ถือหุ้นใหญ่คนเดียวแล้ว เป็นผู้ถือหุ้นคนหนึ่ง มีต่างชาติ เศรษฐีระดับท็อปมาถือหุ้นเจเคเอ็น กฎเกณฑ์ต้องเป็นกฎเกณฑ์ มีวันวางบิล รับเช็ค เราหมุนเงินไม่ทันก็ไม่ใช่ความโกรธแค้นว่าทำไมไม่มาเร่งเงินให้ผมได้ถ้าอย่างนั้นทีหลังมาขอยืมเงินส่วนตัว แอนสะดวก ไม่เป็นไร แต่บริษัทแอนทำให้ไม่ได้จริงๆ เพราะมีกฎเกณฑ์ อย่าเก็บเป็นความเจ็บแค้นเลยว่าสายป่านผมแทบตาย พอเวลาเลื่อนจากเดือน ธ.ค. เป็น ม.ค. ข้ามปี ผมจะตายอยู่แล้วทำไมไม่ช่วย มันเป็นกฎเกณฑ์จริงๆ แต่ทีหลังพูดเลยส่วนตัวกันได้ ดิฉันจบ เพราะดิฉันก็ให้เพื่อนฝูงมาเยอะแล้ว ไม่มีปัญหา ข้อนี้อย่าติดใจเป็นสาระเลย ถ้าจะเข้าเป็นมหาชนต้องเข้าใจกฎเกณฑ์ตรงนี้”
เรตติ้งไม่ดี ขายของไม่ได้ ยังไม่พูดออกสื่อ เพราะรักษาหน้าให้
“และดิฉันจะไม่มาพูดให้สาธารณชนรู้ว่าลูกค้าเป็นยังไง นิสัยเป็นยังไง เพราะลูกค้าอย่างดิฉันก็ไม่พูดเหมือนกันว่าเรตติ้งคุณไม่เห็นจะดีเลยดิฉันก็ไม่พูด ขายของก็ไม่เห็นจะได้ ศิลปินคุณมาทำงาน ก็นะ ไม่พูดออกสื่อ เพราะเราให้เกียรติ เพราะเราต้องรักษาหน้าคุณเอาไว้ แล้วข้อที่สี่ คุณบอกว่าเด็กศิลปินคุณมางาน ดิฉันมีคนมางานทุกปี หลายพันคน ศิลปินคุณนางงามทั้งหลาย มาตั้งแต่ปี 2017-2019 ปีที่แล้วที่ไม่ได้จัด เพราะโควิด
บอกว่าถูกต้อนรับไม่ดี เดี๋ยวคนจะเข้าใจผิด ดิฉันขอแนะนำว่าเรื่องนี้ไม่ควรพูดเลย เพราะเราดูแลศิลปินทุกเบอร์เหมือนกันหมด จะเป็นซูเปอร์สตาร์เบอร์ไหน เราก็คิดว่าทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน แต่ห้องมันมีเท่านั้น ตัวใหญ่ตัวเล็กมีอยู่แค่นั้น จะคอมเพลนยังไงได้ในเมื่อคนมาเป็นพัน ศิลปิน 40-50 คน พยายามบรรจุห้องไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ควรเอามาคุยเลยค่ะ เพราะจะทำให้ทุกคนคิดว่าคุณเรื่องมาก และต่อไปจะไม่อยากจ้างศิลปินบริษัทคุณเลย เราทำมาหากิน เรื่องนี้เรื่องไม่เป็นเรื่อง จะพูดทำไม
ข้อที่สาม - สี่ แอนมองว่าโดยหลักการที่มาและเหตุผลการเป็นบริษัทและการทำงานด้วยกัน ถ้าติดใจในรื่องพวกนี้ พูดเรื่องกระแสของแอนแล้วมาแบน ไม่พอใจกับสิ่งที่บริษัทมหาชนอย่างเรามีกฎเกณฑ์ กับการที่เราจัดอีเวนต์ และมีเท่าที่เห็นที่เราสามารถทำได้ ไม่มีใครเป็นซูเปอร์วีไอพีได้มากกว่านี้ เจ้าของงานก็ให้เกียรติทุกคน เต็มกำลังเท่าที่จะทำได้แล้วค่ะ ช่วยกันถ่อมเนื้อตัว ให้งานลูกค้าผ่านไปดีกว่า ดีกว่ามาคิดว่าทำไมดูแลศิลปินฉันอย่างนั้นอย่างนี้
ขอฝากเอาไว้ ข้อสาม ข้อสี่ ไม่ควรพูดเลยด้วยซ้ำ เรื่องของลูกค้า มันเป็นการร่วมมือกัน เราเป็นลูกค้าคุณไม่ควรเอามาพูดให้ใครฟัง เพราะเขาจะเข้าใจผิด และถอนสปอนเซอร์คุณหมดเพราะเขากลัวคุณจะออกมาพูดอะไรอีก เวลาไม่พอใจเรื่องอะไร”
เหมือนถูกแทงข้างหลัง สูญเสียสุภาพบุรุษที่หมดความแมน
“ข้อที่ห้า ข้อสุดท้าย แอนรู้สึกผิดหวัง เอาเข้าจริงๆ เกี่ยวกับการโพสต์ทางโซเชียลมีเดีย พูดระบายความในใจได้นะ ข้อสุดท้ายแล้ว เช้าวันรุ่งขึ้นอยู่ดีๆ มีแค่ข่าวเดียวเลย คุณณะ มาเป็นเปาบุ้นจิ้น ทำให้เราวืดไปเลย ว่าทำไมเราเหมือนถูกแทงที่หลัง ทั้งที่คนๆ นี้คือเพื่อนเรา เดินทางไปต่างประเทศกับเรา เราไปรายการ 7 รอบ มีความอุปถัมภ์กันมาตั้งนาน รู้จักมานาน 10 ปี รู้จักแม้กระทั่งแม่ดิฉัน เกิดอะไรขึ้นเหรอ ถ้าปฏิบัติตามสื่อที่ใช่จริงๆ เรื่องนี้ควรจบ ไม่ควรซ้ำเติม พอโกรธปุ๊บแน่นอนดิฉันต้องตอบกลับ เพราะเป็นลูกค้าจ่ายเงินไปเยอะพวกคุณทุกคนเอาใจเขาใส่ใจเรานะคะ ไม่ใช่แค่นั่งดูนั่งวิจารณ์ มันจะไม่ยุติธรรม ใช้เงินไปตั้งหลายล้าน คนนี้เป็นเพื่อนคุณ รู้สึกดี ซาบซึ้่งกันมาโดยตลอด หรือดิฉันรู้สึกฝ่ายเดียวตลอดก็ไม่รู้ เพราะดิฉันรู้สึกว่าเขาคือสุภาพบุรุษที่มีความจริงใจ
ดิฉันผิดหวัง และออกมาหมด เรียนคุณณะทางไอจี เป็นข้อความที่ดิฉันส่งข้อความให้เขาเพียงคนเดียว ไม่ได้ส่งถึง LGBTQ ทั้งประเทศ อยากทราบว่าดึงสติทุกคนกลับมาหน่อยค่ะ ไม่งั้นประเทศชาติจะไปตรงไหนกัน เรื่องนี้ดิฉันผิดหวังและสูญเสียคนเป็นสุภาพบุรษที่เป็นเพื่อนดิฉัน รู้สึกความแมนเขาหายไปไหน ที่เคยดูแลเราในฐานะลูกค้าและเพื่อน มันหายไปไหน เหมือนถูกหักหลัง เราขอโทษไปเรียบร้อย จริงๆ ต้องโทรมาใหกำลังใจกันด้วยซ้ำ ดิฉันก็โพสต์กลับ เป็นคุณคุณรู้สึกยังไง คณจ่ายเงินไป รู้สึกดีกับเขาแต่ถูกเขาชกหน้า มันเป็นการทรยศหักหลังมั้ย มันเป็นความรู้สึกที่แย่ ใครไม่ตอบกลับก็บ้าแลว อย่าโลกสวยกันเลย หลายคนตอบกลับและด่าหนักกว่าดิฉันด้วย ในเมื่อเขาโพสต์ถึงดิฉันก่อน ดิฉันก็โพสต์กลับ ให้รู้กันว่าดิฉันข้ามเพศนักเลง หัวใจนักเลง ถ้าอยากชกก็ชก หาเรื่องก่อน
เราก็อธิบายแบบดีๆ ถึงความในใจ เรียงอธิบายเรียบร้อย มันคือความโกรธ ไม่แฟร์ที่เกิดขึ้นกับเรา จึงไม่อยากให้ผู้ชมหรือ LGBT เข้าใจอะไรผิด นี่คือข้อความที่ดิฉันส่งหาคุณ ณ. เท่านั้น เขาทำเป็นพับลิค ดิฉันทำแบบเขาบ้าง ให้รู้กันว่าคุณทำให้คนอื่นเสียหน้า ถ้าคุณเสียหน้าบ้างจะรู้สึกยังไง ดิฉันเสียทั้งหน้า ทั้งเงิน เสียทั้งความรู้สึก ดิฉันไปอุดหนุนคนอื่นได้ รายการมีเยอะแยะ เอาเข้าจริงๆ รายการบางบริษัทเขามีเป็นสิบรายการ เราไปลิงค์ทำงานกับเขาหมด ไม่จำเป็นต้องไปเพชรรามาที่เดียวหรอกค่ะ มันเป็นการเสียความรู้สึก”
วอน LGBTQ ทุกคนตั้งสติ อย่าตกเป็นเครื่องมือ มือที่สามหวังสร้างความแตกแยก
“LGBTQ ทุกคน กลับมาตั้งสติ อย่าตกเป็นเครื่องมือคนปั่นกระแสให้เกิดความโกรธเกลียด เป็นมือที่สามที่ใช้การวิวาทของดิฉันและคุณณะ มาเป็นประโยชน์ ให้โกรธเกลียดซึ่งดิฉันอยากถามว่าเขียนตอนไหนคะว่าข้ามเพศแล้วนิพพาน เขียนตรงไหนว่าไปผ่าตัดแปลงเพศสิ แล้วคุณจะเลอเลิศกว่าคนอื่น เหนือกว่าผู้ใดบนโลก ดิฉันเขียนตรงไหน และเรียนคุณณะไปอ่านด้วย เรียนคุณณะชัดเจน เขาคนเดียว เป็นเรื่องธุรกิจเท่านั้น แต่มาปั่นเป็นกระแสสังคม แล้วชอบใช้คำว่าเหยียด
ทำไมต้องตกเป็นเครื่องมือคนชอบสร้างความแตกแยกกันคะ ทำไมพวกเราต้องหูเบากันขนาดนั้นคะ เครื่องมือเขาทำซ้ำๆ กับดิฉัน ก็คือแผลเดิมๆ ที่คนหูเบาก็เชื่อตามกันคือคำว่าเหยียด เหยียดอะไร ในเมื่อดิฉันก็เป็นคนข้ามเพศ เพื่อน LGBTQ เยอะแยะเติบโตมากับพวกเขา มีมูลนิธิคนข้ามเพศบันดาลใจ มอบทุนการศึกษาเด็กเกือบล้าน ดิฉันทำบุญไปไม่พูด แล้วส่งเสริมให้พวกเขามีการศึกษา ไม่ให้ปลา แต่ให้เครื่องมือหาปลาฉะนั้นเหยียดด้วยเรื่องอะไร ดิฉันไม่เข้าใจ แล้ววิเคราะห์ก่อนวิจารณ์หรือยัง ถ้าไม่คุณกำลังเหยียดตัวเองอยู่ ไม่มีใครทำอะไรคุณเลย แล้วคนเขียนมันประสงค์ร้าย เพื่อปั่นกระแส ดูก่อนเขาเขียนถึงใคร เขาอธิบายยังไงก็ไม่เห็นอ่านกัน มากันเรื่อยๆ เลย ซึ่งดิฉันไม่ได้เจ็บปวด แค่แคร์
ดิฉันเป็นห่วง อนาคตพวกเราคนรุ่นใหม่ๆ ที่ไม่มีการวิเคราะห์ก่อนวิจารณ์จะเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย จะมีเหยื่อสังคมอีกกี่คน ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งๆ ที่เขาบริสุทธิ์ไม่ได้ทำอะไรเลย พวกเราจะช่วยกันทำลายซ้ำเติมกันอีกเยอะมั้ย เพราะเป็นแอน จักรพงษ์ มันก็เป็นคนนึงที่ทนได้ ถ้าเป็นคนอื่นล่ะคะ เขาจะทนได้เหรอ ดิฉันเป็นแม่ลูกสอง ประธานบริษัท สร้างมากับเนื้อกับตัวทุกสิ่งทุกอย่าง ความแข็งแกร่งตรงนี้ ใครก็ล้มดิฉันไม่ได้หรอกค่ะ”
หลังจากนี้งดพูดเรื่องความร่ำรวย เพื่อลดเรื่องทุนนิยม อยากสร้างแรงบันดาลใจ
“จะโกรธเกลียด มีแรงหมั่นไส้ความริษยาอะไรบ้าง ก็กราบขอตรงนี้เลยค่ะ อย่าให้มันมีกันเลยค่ะในสังคมไทย ตัวดิฉันก็ต้องลดลงหลายเรื่องหน้าสื่อ ดิฉันเห็นแล้ว ไม่ว่าจะเมืองไทยเมืองนอกความเหมาะสมอยู่ตรงไหน เรานำพาเขาทางความคิด ก็ต้องส่องกระจกตัวเองเหมือนกัน เราพูดเฉพาะเรื่องงาน บอกหลายๆ รายการว่างดพูดเรื่องความร่ำรวย ไม่เปิดบ้านให้ใครดูแล้ว แต่ต้องพูดตามตรง รายการเขาก็ได้เรตติ้งเรื่องนี้ ที่เขามาสัมภาษณ์ดิฉัน แต่ส่วนใหญ่ดิฉันไม่ได้เสียตังค์ ดิฉันเสียตังค์ให้เพื่อนที่ชื่อคุณณะทั้งนั้น นอกนั้น 70 เปอร์เซ็นต์ไม่ได้เสียตังค์ เพราะเราสร้างเรตติ้งให้เขราพอเพียง
เราสร้างแรงบันดาลใจให้เขาพอเพียง แต่ตอนนี้จะลดลงมา ลดเรื่องทุนนิยม ลองหาสคริปต์อื่นดู ดิฉันอยู่ดีๆ ไปออกรายการ จะสั่งเขาได้เหรอ ในเมื่อสร้างเรตติ้งให้เขา เขาขอมาอย่างนี้ เราก็ทำ ไม่งั้นเขาขายของไม่ได้ แต่เดี๋ยวจะปรับใหม่แล้ว เดี๋ยวจะไปที่เรื่องวัตถุซะเยอะ เดี๋ยวจะกลายเป็นตการอวด พออวดปุ๊บคนจะคิดว่าเวลาพูดอะไรที่เด็ดขาดก็เป็นการเหยียด อุ้ยตาย ขอประทานโทษตรงนี้เลยว่าไม่มีเลย มันเป็นเอฟเฟกต์ที่ไม่ควรเกิดขึ้น
อยากให้เป็นแรงบันดาลใจ ให้ทุกคนเข้มแข็งดีกว่า กว่าจะมีวันนี้เราต่อสู้ยังไง เป็นอาแปะคนนึงกว่าจะเป็นผู้หญิงสร้างเนื้อสร้างตัวได้ หนีออกจากบ้านเพื่อพิสูจน์ว่าเราเกิดผิดร่างจริงๆ เพื่อน LGBT เขาร้องไห้มากมาย เป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ซัปพอร์ตเรา ตอนเราออกมาเผชิญโลกด้วยตัวเอง แต่ตรงนั้นทุกคนไม่เห็น มาเห็นตอนสำเร็จ อย่ามาเห็นตอนสำเร็จแล้วคิดไปต่างๆ นานาเลยค่ะ
ปิดท้ายจะไม่ตอบอะไร เพราะมีนักข่าวบางสำนักเขียนมาขอสัมภาษณ์ ขอปิดการพูดคุยเรื่องนี้ ขอปิดทั้งสองฝ่าย ทั้งคุณณะและตัวดิฉันเอง เราไม่คุยเรื่องนี้แล้ว พอเถอะ เดี๋ยวจะยิ่งไปกันใหญ่ ไม่ควรต้องเป็นสังเวียนศึกชกมวย ต้องทำมาหากิน เขาก็จะมีการประกวดเร็วๆ นี้ของเขา เราก็จะมีงานใหญ่เร็วๆ นี้ ที่จะประกาศอีก 2 สัปดาห์ ต่างคนต่างไปทำมาหากินเถอะค่ะ สร้างความเจริญให้เศรษฐกิจกัน”
ไม่ตอบจะยังคบมั้ย แต่ให้ถามใจตัวเองหากโดนเหตุการณ์แบบนี้
“ถามว่ายังจะคบต่อมั้ย ยังจะร่วมงานกันมั้ย พูดสั้นๆ ให้คิดกันเองว่าหากเหตุการณ์นี้เกิดกับคุณ คุณเป็นดิฉัน คุณยังอยากคบเขาเป็นเพื่อน คุณอยากอุดหนุนเขาในฐานะเป็นลูกค้าต่อมั้ยคะ ถามใจคุณเองดิฉันไม่ตอบ ขอบคุณค่ะ (ส่งจูบทำท่าเลิฟยู)”