เป็นเรื่องราวใหญ่โตกันเลยทีเดียวเมื่อ "แหม่ม สุริวิภา กุลตังวัฒนา" เข้าร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเรื่องเสียงสุนัขเพื่อนบ้านเห่ารบกวนเสียงดังจนนอนไม่หลับมานานนับสิบปี ล่าสุดดูเหมือนทุกอย่างจะจบสวยหลังเจ้าตัวออกมาโพสต์ยาวถึงความคืบหน้า ที่ได้เพื่อนในวงการอย่าง "ต้น ตระการ พันธุมเลิศรุจี" เป็นคนช่วยไกล่เกลี่ยให้ อย่างไรก็ตามแม้เจ้าของสุนัขจะช่วยจัดการเรื่องเสียงเห่ารบกวนยามวิกาลให้เรียบร้อยแล้วแต่ก็ยอมรับว่าจิตใต้สำนึกยังผวา คงต้องใช้เวลาปรับตัวกันต่อไปสักระยะ
"ขอใช้พื้นที่นี้ แจ้งให้ทุกท่านที่เฝ้ารอดูผลลัพธ์ จากเรื่องน้องหมาที่เห่ารบกวน ในยามวิกาล ตลอดหลายปีที่ผ่านมา วันนี้ขอแจ้งทุกท่านทราบว่า ท่านเจ้าของบ้านได้จัดการเรียบร้อยแล้วนะคะ สามสี่วันมานี้เราไม่มีเสียงรบกวนแล้ว เรารู้สึกขอบคุณ ทุกท่านที่ให้กำลังใจมาตลอด ในโอกาสนี้ขอขอบคุณท่านแรก
1.ทนายต้น ที่ปรึกษาด้านกฎหมายธุรกิจของครอบครัวเรา ซึ่งมืออาชีพมากๆ ได้ให้แนวทางว่าเราต้องดำเนินการอย่างไร 1-2-3 สิ่งที่เราต้องการคือขอความสงบ ความสุขกลับคืนให้พ่อแม่เราดำเนินชีวิตตามปกติสุข ซึ่งอาจารย์ต้นได้ทำทุกอย่างที่ควรทำจนถึงที่สุด จนสำเร็จตามที่วางแนวทางไว้ (มืออาชีพจริงๆ)ไม่ใช่เอะอะก็ต้องฟ้อง อาจารย์ต้นใช้การเจรจา กับทางเขตลาดพร้าว และเทคนิคในการสื่อสาร ซึ่งบอกเลยว่าการเจรจานั้น ซับซ้อนมาก ระบบที่มีซับซ้อนกว่าที่คิดไว้เยอะมาก เพราะถ้าต้องเดินตามกฎ ตามระเบียบของทางเขตนั้น เราจะยอมพ่ายแพ้ไปเอง เพราะไม่เห็นเลยว่ากฎระเบียบที่ทางราชการมีนั้น จะช่วยความรู้สึกเจ็บปวดของประชาชนได้ หากแต่จะทำให้เราทุกข์มากขึ้น ยุ่งยากมากขึ้น จบลงด้วยความเจ็บปวดทั้งสองฝ่าย เราทุกข์เรื่องเสียงน้องหมารบกวนอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยังจะมาทุกข์กับเรื่องระบบ กฎระเบียบเข้าไปอีก แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ครอบครัวเราก็ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่เขตลาดพร้าวทุกฝ่าย ที่พยายามทำงานของท่านตลอดกว่า 2ปีที่เราเทียวแจ้ง ถึงความเดือนเนื้อร้อนใจของประชาชนมตามขั้นตอน ที่เราเดินมาตลอด จนมาถึงอาจารย์ต้นเข้ามาจัดการไม่ฟ้อง เพราะถ้าฟ้องมันก็จะรุนแรงเกินไปมีทั้งโทษอาญาด้วย เราเลือกตามที่อาจารย์ต้นแนะนำให้ใช้สันติวิธีก่อน
2.คนนี้มาโปรดในยามทุกข์จริง ขอบคุณน้องในวงการบันเทิงที่เห็นกันมาเป็นหลายสิบปี น้องต้นตระการ ต้องเรียกว่า ดร.ต้น ตระการ พันธุมเลิศรุจี ที่เป็นเพื่อนกับบ้านน้องหมา น้องต้นพอทราบเรื่องก็ประสาน ไปเจรจาให้ หลังจากน้องคุยกับทางนู้น เราถึงได้ทราบท่านเจ้าของบ้านยินดีจัดการให้เรียบร้อยแล้ว ต้องกราบขอบพระคุณท่านเจ้าของน้องหมาที่เข้าใจและเห็นใจ และสามสี่คืนมานี้ ไม่มีเสียงรบกวนเลยค่ะ เรากราบขอบพระคุณทุกท่านที่มีส่วนในการนี้ ทำให้เราได้ชีวิตที่สงบ ปกติสุขกลับมาให้ทุกคนในครอบครัวของเรา กราบขอบพระคุณจากใจจริง❤️
สำหรับเราคงอีกนานกว่าจะปรับตัวให้ปกติได้ เพราะจิตใต้สำนึกเรา ยังจดจำความหลอนของเสียงรบกวนตลอด 5ปีที่ผ่านมา ทุกๆคืนจาก22:45-05:30น. จิตใต้สำนึกที่หวาดผวานี้ คงต้องใช้เวลาเยียวยาสักระยะ. ตอนนี้เสียงเงียบสงบแล้ว แต่ส่วนลึกของจิตยังผวาอยู่
กราบขอบพระคุณทุกท่าน ที่ให้คำแนะนำและช่วยเหลือนะคะ ทุกอย่างจบ และไม่เจ็บทั้งสองฝ่าย..."