xs
xsm
sm
md
lg

From Crisis to Opportunity พลิกโควิดเป็นโอกาสกับกลยุทธ์การปรับตัวตามสถานการณ์

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมื่อพูดถึงสภาวะวิกฤตแน่นอนว่าต้องเป็นสิ่งที่ใครก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตนเองหรือองค์กรของตนเอง อาจกล่าวได้ว่าสถานการณ์วิกฤตถือเรื่องใหญ่ที่บางครั้งก็ไม่ได้มีการคาดการณ์ไว้ ซึ่งอาจจะสร้างผลกระทบต่อองค์กรได้ในหลายด้าน นอกจากนี้ในช่วงวิกฤตการณ์เองก็มีเวลาในการบริหารจัดการที่ค่อนข้างจำกัดด้วยเช่นกัน ดังนั้นแต่ละองค์กรควรมีการวางแผนและการบริหารจัดการที่เหมาะสมในการรับรู้และรับมือกับแนวโน้มของปัญหาที่จะเกิดขึ้น

สภาวะวิกฤตสามารถรับมือได้ หากมีการวางแผน การเตรียมตัว และการปรับตัวที่เหมาะสม ว่าด้วยเรื่องการปรับตัวตามสถานการณ์และการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส คุณศศิกาญจน์ ตั้งบุญเติม ผู้บริหารฝ่ายการตลาด (Chief Marketing Officer) บริษัทโน้ตเอเบิ้ล แบงค์คอก จำกัด อธิบายว่า “ยิ่งเกิดวิกฤต ยิ่งต้องหาโอกาสในวิกฤตนั้น ผ่านการวางกลยุทธ์เพื่อให้ทุกๆ อย่างเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ สู่เป้าหมายและความสำเร็จ" ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาของสถานการณ์ COVID-19 Pandemic ปฏิเสธไม่ได้ว่าชีวิตประจำวันของมนุษย์ทุกคนทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมายเลยทีเดียว ธุรกิจหลายแห่งเกิดการปิดตัวลงอย่างน่าเสียดาย ในขณะที่ธุรกิจส่วนใหญ่ริเริ่มในการปรับตัวตามสถานการณ์เพื่อความอยู่รอดมากขึ้น

ในการรับมือกับสภาวะ COVID-19 กลยุทธ์การปรับตัวถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญมากในทำให้ธุรกิจอยู่รอดและสามารถพลิกวิกฤตสู่โอกาสได้ การปรับตัวเป็นไปได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งการศึกษาสถานการณ์ การเปลี่ยนแปลง และผลกระทบ เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจให้เหมาะสม โดยเฉพาะการปรับตัวและการผสมผสานของ Offline to online activities การรู้จักใช้รูปแบบการสื่อสารใน platforms ที่หลากหลายในการทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและการสร้างมูลค่าเพิ่ม และเช่นกันการใช้ Analytics ในการวิเคราะห์ Insight ต่าง ๆ ก็สำคัญมากเช่นกันในการผลิตคอนเทนต์ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ใช้ social media รวมถึงกลุ่มเป้าหมายในสถานการณ์เช่นนี้ นอกจากนี้การติดตามข่าวสารและการวางแผนการทำงานที่เหมาะสมก็จำเป็นมากเช่นกัน ยกตัวอย่าง เช่น ในช่วงที่ผ่านมา ในบาง Social Platforms ค่อนข้างมีมาตรการในการตรวจสอบเนื้อหาที่เข้มงวดมากขึ้นและมีขั้นตอนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งตรงนี้เราอาจจะต้องมีการศึกษาและวางแผนเพิ่มเติม ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาข้างต้นอาจกล่าวได้ว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญที่เราทุกคนต้องปรับตัวในเรียนรู้ในสภาวะที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

สำหรับการบริหารจัดการองค์กร คุณศศิกาญจน์ ได้ให้วิสัยทัศน์ไว้ว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ การบริหารจัดการสภาวะวิกฤต หรือ Crisis Management ไม่ควรจำกัดอยู่เพียงแค่วันนี้หรือพรุ่งนี้ แต่ควรเป็นวางแผนตั้งรับไปถึงอนาคตต่อ ๆ ไปเพราะไม่มีใครสามารถบอกได้ว่า COVID-19 จะหายไปเมื่อไหร่ ดังนั้นการวางแผนการบริหารขององค์กรในยุคนี้ควรเป็นไปในรูปแบบระยะยาวและยั่งยืน ซึ่งการมองภาพการบริหารในมุมมองแบบระยะยาว จะช่วยบริษัทหรือองค์กรสามารถรับมือกับสภาวะวิกฤตที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนอย่างแน่นอน นอกจากนี้การเรียนรู้จากวิกฤตที่เกิดขึ้นก็ไม่สำคัญไม่แพ้กัน ศึกษาจากต้นเหตุของปัญหาและนำมาวิเคราะห์เพื่อป้องกันปัญหาแบบเดิมที่อาจเกิดขึ้นได้อีก ทั้งนี้วิธีเดิม ๆ อาจใช้ไม่ได้เสมอไป ยังคงต้องรู้จักปรับใช้การบริหารจัดการรูปแบบอื่น ๆ ที่สามารถป้องกันปัญหาที่จะเกิดได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังต้องวิเคราะห์ต่อว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพในการรับมือได้อย่างไรในอนาคต และเราจะสามารถพัฒนาการบริหารจัดการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดได้อย่างไร?

ด้วยเหตุนี้ การวางแผนกลยุทธ์ในการปรับตัวที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากของทุกองค์กรในสภาวะเช่นนี้ ทั้งการปรับตัวในแง่ของการดำเนินงาน หรือ การปรับตัวในการบริหารจัดการองค์กร ซึ่งนับว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลังจากการเกิดขึ้นของ COVID-19 ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้การวางกลยุทธ์ให้เหมาะสม อาจมอบหมายให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแลเพื่อให้เกิดประสิทธิผลที่ดีกับธุรกิจ

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านการวางแผนกลยุทธ์การสื่อสาร มากถึง 13 ปีของคุณศศิกาญจน์ในแวดวงโฆษณาและการตลาดพร้อมด้วยทีมงานมืออาชีพเชี่ยวชาญครบคันทั้งการสื่อสารออนไลน์ ออฟไลน์ การจัดกิจกรรม และการสื่อสารในรูปใหม่ บริษัท โน้ตเอเบิ้ล แบงค์คอก จำกัด จึงพร้อมให้คำปรึกษา ตลอดจนออกแบบวางแผนกลยุทธ์การสื่อสาร กลยุทธ์การตลาด พร้อมทั้งดูแลการทำการสื่อสาร ครบทุกขั้นตอน สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถศึกษาข้อมูลดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Website: https://www.notablebangkok.com/ และ Facebook Page: www.facebook.com/notablebkk/






กำลังโหลดความคิดเห็น