“ปราโมทย์ แสงศร” เคลียร์สัมพันธ์คลุมเครือ รัก “แอนดริว” แบบเพื่อน สนิทแต่ไม่ได้มีเซ็กซ์ พูดชัด เคยคบผู้ชาย รักไม่จำกัดเพศ เผยตราบาปในอดีตทะเลาะ “ไก่ วรายุฑ” ชักสีหน้าใส่แฟนคลับ เหวี่ยงนักข่าว
มีเรื่องราวชีวิตที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย สำหรับ “ปราโมทย์ แสงศร” อดีตนักแสดงยุค 90 ที่วันนี้ออกมาเผยชีวิต 30 ปีในวงการผ่านทางรายการ คุยแซ่บ show ทางช่อง 31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์, หนิง ปณิตาและ ใบเฟิร์น พัสกรเป็นพิธีกร พร้อมเผยความรักสุดช้ำ และรสนิยมความรักแบบไม่จำกัดเพศ โดยปราโมทย์เผยว่า
“เข้าวงการตั้งแต่ 16 ปีนี้ 46 เข้าวงการเพราะคนชวนไปเทสต์โฆษณา เพื่อนแฟนหนังสือ เธอกับฉัน เขาชวนผมไปขอสปอนเซอร์กีฬาสี เสร็จแล้วเขาเจอผมแล้วให้ถ่ายรูปเก็บไว้แล้วเขาก็ไปเสนอให้กับโฆษณา บริษัทเอเยนซี เรื่องที่ทำให้ดังเป็นพลุแตก คือ กลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้ เป็นภาพยนตร์เรื่องแรก เข้าวงการด้วยโฆษณา เสร็จแล้วไปเทสต์หนัง ก็ได้เลย
เผยอดีตยังเด็กดังถูกรุม แฟนกรูกันมาเข้าจนทำตัวไม่ถูก เผลอชักสีหน้าใส่
“ภาพยนตร์กลิ้งไว้ก่อน เมื่อก่อนจะมีรอบสื่อมวลชน ตอนนั้นเราก็ไม่รู้ เราก็ใส่ชุดนักเรียนไป แต่ว่าจะมีแฟนเข้ามารุม เราก็ทำตัวไม่ถูกก็ชักสีหน้าไม่พอใจออกไป เพราะว่ารุมจนผมรู้สึกว่าใครก็ได้ช่วยกูหน่อยมันเป็นครั้งแรกด้วย เพิ่งเลิกเรียนมาเจอ ตอนนั้นเราไม่รู้ว่าความดังมันคืออะไร ไม่รู้เรื่อง”
ตราบาปทะเลาะกับ “ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา” ตื่นสาย นัด 10 โมงไปกองบ่าย 3 ผู้ใหญ่ทุกคนต้องรอ ถูกอบรมจนน้ำหูน้ำตาแตก
“คือพี่ไก่ เป็นผู้จัดคนแรกที่ชวนผมไปแสดงเป็นพระเอกละคร ช่วงนั้นมันเป็นการจัดการที่ไม่ดีมากกับตัว เพราะช่วงนั้นงานมันเยอะมาก ถ่ายแบบ 24 ชม. แล้วมาถ่ายงานของพี่ไก่ เสร็จแล้วผมตื่นสาย ไปกองสาย มันเหนื่อย เขานัด 10 โมงไปบ่าย 3 แล้วผู้ใหญ่ทุกคนก็รอ แต่ตอนนั้นไม่ได้เกิดจากการเกเรอะไร แต่เกิดจากการทำงาน มันน็อก ไม่มีคนดูแลเราจริงๆ ตอนนั้น มีแต่คนรับคิวให้อย่างเดียว
ตอนนั้นมี้ก็มารอ เป็นตราบาปผมถึงทุกวันนี้ หลังจากนั้นพอถ่ายเสร็จพี่ไก่ก็เรียกไปอบรบ ก็น้ำตาไหลกันไป แต่ก็บอกเหตุผลเขาไปเขาก็ตักเตือนบอกถ้าไม่ไหวก็ต้องโทร.บอก”
เหนื่อยจัด วีนนักข่าวจนวงแตก
“คือมันเกิดจากความเหนื่อย ตอนนั้นมีโอกาสได้เป็นนักร้องด้วย เพิ่งร้องเสร็จ แล้วเพิ่งลงมาเจอ เรารู้สึกว่ามันเหนื่อยแล้วทำไมต้องสัมภาษณ์ วันนั้นน่าจะเป็นความเหนื่อยๆ ล้วนๆไม่ได้เกี่ยวกับคำถาม”
ดังจากโลกทั้งใบฯ ชีวิตเป็นระเบียบมากขึ้น
“ใช่ๆ แล้วทางบริษัทก็มีคนช่วยดูแลเรามากขึ้น ชีวิตก็เป็นระเบียบมากขึ้น”
เผยถูกจิ้น “แอนดริว เกร็กสัน” สนิทกันจนสติแตก มีแฟนคลับเสนอ สนองไปบ้าง
ปราโมทย์ : มันก็จะมีข่าว ถ้าสมัยนี้ก็เป็นคู่จิ้น สมัยก่อนเขาก็จะลงว่าจิ้นกับแอนดริว เกร็กสัน คือเราสนิทกัน ทำงานด้วยกัน แล้วสติแตก (แต่ยุคนั้นก็มีแฟนคลับผู้หญิงที่มาเสนอตัวด้วย เพราะเราดังมากๆ?) มันน่าจะเป็นเรื่องของวัฏจักร เวลาเราไปร้องเพลง ถามว่าสนองไหม ก็มีบ้าง มีที่เคาน์เตอร์อะไรอย่างนี้ มันมีบ้าง แต่ไม่ได้เยอะขนาดนั้นบางทีมันเหนื่อยมาก ส่วนใหญ่ก็จะให้พี่ๆ ar ช่วยดูแลไป"
งงลือกิ๊กแอนดริว นักข่าวบุกไปถึงบ้าน
“ตอนนั้นอาจจะงงๆ นิดนึง เพราะว่าเราสนิทกันมาก แล้วข่าวมันก็แรงมาก แล้วทุกคนก็อยากรู้มากว่าจริงไม่จริง นักข่าวบุกบ้าน ไม่รู้ว่านักข่าวจริงหรือเปล่า ตอนนั้นผมไม่อยู่ เขาบอกว่ามาจากสำนักข่าวที่นึงแล้วเข้าไปขอสัมภาษณ์ โมทย์กับแอนดริวเป็นแฟนกันจริงหรือเปล่าครับแม่ แม่ก็พาไปนั่งคุยเรียบร้อยเลย แม่ก็บอกว่าเป็นเพื่อนกัน
เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ทำงานด้วยกัน รู้จักแม่ไปนอนบ้าน สนิทกัน แต่ว่าไม่ได้มีเรื่องเซ็กซ์อะไรกัน ตอนนั้นยังไม่มีแฟน เพิ่งเริ่มๆ มีแฟนในวงการ ตอนนั้นคบกันประมาณ 2 ปี ซึ่งเขาก็เข้าใจว่าเรากับแอนดริวกิ๊กกัน ก็พยายามเหมือนเอาชนะ”
รับเลิกกับแฟนคนนี้เปลี่ยนแนวมาคบผู้ชาย
“ก็จริง ก็เป็นความรู้สึกที่ดี ก็คบกันนานประมาณ 5-6 ปี สมัยก่อนมันมีความคลุมเครือ แล้วผมก็ชอบความคลุมเครือ แต่ตอนนั้นเราก็ไม่ได้แคร์ เราก็ใช้ชีวิตของเรา มีความอึดอัดอยู่บ้าง สิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเรา ว่าเราต้องทำตัวยังไง แต่ในใจเราไม่ถึงขั้นแอบไปข้างหลัง ถ้าเดินไปก็เดินไปด้วยกันไม่ต้องเดินนำหน้า เดินถอยหลัง นักข่าวก็ถามเหมือนกัน เพราะว่าส่วนใหญ่เขาถามแอนดริวมากกว่าไง ตอนนั้นถามว่ากลัวเรื่องภาพลักษณ์ไหม ตอนนั้นผมว่าผมหัวก้าวหน้าพอสมควร ตอนนั้นเอาความรู้สึกเป็นใหญ่มาก ใช้ความรู้สึกล้วนๆ เลย”
คบ 5 ปีก่อนเลิก
“ใช่ครับ ครั้งแรกความรู้สึกต่างคนต่างปรับตัวที่จะจบแล้ว ครั้งแรกไม่ค่อยหนักหน่วงเท่าไหร่”
ครั้งที่สองหนักสุดในชีวิต คนที่คบไปมีคนใหม่
“หนักๆ ครับ เพราะเรารู้สึกว่าเราโตขึ้น เรา อยากใช้ชีวิตคู่ปกติ แล้วเหตุการณ์มันดรามา ผมไม่ค่อยชอบแบบนี้อยู่แล้ว เขาไปเรียนต่อเมืองนอก เป็นรุ่นน้อง เขาเรียนแล้วไปฝึกงาน แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ไปเจอคนใหม่
ผมไม่เคยไปนั่งพูด ไม่ได้ไปนั่งบอกแม่เลย ไม่มีใครโง่บนโลกนี้ เขาจะพูดหรือไม่พูด เขารับเราได้หรือเปล่า เราไม่ได้มานั่งพูดว่าฉันเป็นแบบนี้ ผมไม่อยากให้มีคำจำกัดความ”
แม่เรียกสติกลับมา
“เพราะแม่เห็นอาการ เขามาเตือนสติเรา แม่บอกแค่นี้เอง แค่มีผัวใหม่ ก็เรียกสติผมเลยก็อยากบอกว่ารักแม่”
ยังไม่เปิดใจ หญิงชายได้หมด รักไม่จำกัดเพศ
“ยังนะ เพราะมีรอยแผลก็ต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น ในการจะคบใครหรือการจะเปิดใจ ถามว่าคนเข้ามาใหม่จะหญิงหรือชาย ไม่ได้คิดไว้เลย แล้วแต่จังหวะ แล้วแต่โอกาส ในอนาคตเราไม่รู้ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงได้ (นิยยามรักไม่จำกัดเพศ?) ใช่ ซึ่งคิดอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว”