แพทย์แถลงยัน “ตูน” ไม่วิกฤต แต่ต้องหยุดโยก ห้ามใช้คอ เปลี่ยนสไตล์ร้องเพลง เจ้าตัวกังวล กลัวไม่เหมือนเดิม

แพทย์แถลงอาการ “ตูน บอดี้สแลม” ไม่วิกฤต หมอนรองกระดูกต้นคอเบียดเส้นประสาท มือชา นิ้วมือข้างซ้ายอ่อนแรงลง 50 เปอร์เซ็นต์ ให้ยาระงับอาการปวดลดการอักเสบ รวมทั้งทำกายภาพ 2 อาทิตย์โดยไม่ผ่าตัด หากตอบสนองดี พักฟื้น 2 เดือน สั่งงดโยกคอ เลี่ยงกิจกรรมเอ็กซ์ตรีม ขอให้มั่นใจจะดูแลให้ดีที่สุดเท่าที่เทคโนโลยีในโลกนี้มี ขณะที่เจ้าตัวกังวลกลัวไม่เหมือนเดิม

เมื่อเวลา 16.00 น. ทีมแพทย์ของ รพ.พระมงกุฎเกล้า โดย พันเอกหญิง ปริยนันทน์ จารุจินดา รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า, พันเอก ทิพชาติ บุณยรัตพันธุ์ ผู้อำนวยการกองออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า, พันโท ปวิณ คชเสณี ศัลยแพทย์โรคกระดูก โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ได้ตั้งโต๊ะแถลง ถึงอาการล่าสุดของ “อาทิวราห์ คงมาลัย”หรือ “ตูน บอดี้สแลม”หลังมีอาการกระดูกคอกดทับเส้นประสาท ทำให้แขนซ้ายมีอาการชา นิ้วมือซ้ายบังคับไม่ได้เป็นบางนิ้ว และได้เข้าแอดมิท รพ.พระมงกุฎเกล้า ตั้งแต่เมื่อคืน (13 ธ.ค. 63) ที่ผ่านมา ทำให้มีผลกระทบกับงานแสดงที่รับไว้ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้เมื่อปี 53 นักร้องดังเคยประสบอุบัติเหตุจนเกิดอาการหมอนรองกระดูก ต้องดามเฝือกที่คอ จนแพทย์สั่งให้พัก 1 เดือน ก่อนขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกที่ราชมังคลาฯ

โดยอาการล่าสุดของ “ตูน บอดี้สแลม” หลังจากปวดต้นคอร้าวมาถึงหลังตั้งแต่วันที่ 10 ธ.ค. และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลที่ภูเก็ต ก่อนส่งตัวมารักษาต่อที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า ด้านทีมแพทย์ได้รักษาด้วยการให้ยาแก้อักเสบเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ถ้าอาการของคนไข้ดีขึ้นอาจจะไม่ต้องผ่าตัด ส่วนตอนนี้ต้องการให้คนไข้หยุดกิจกรรมการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับต้นคอ รวมไปถึงถ้าผลการรักษาตอบสนองได้ดีใน 2 สัปดาห์ก็จะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ แต่อาจจะต้องลดการโยกหัวเวลาร้องเพลง ด้านนักร้องดังเป็นห่วงว่าจะมีผลกระทบต่อเสียงร้อง

พันเอกหญิง ปริยนันทน์ : รพ.พระมงกุฎเกล้า มีข่าวที่จะแจ้งแก่ผู้ที่มีความห่วงใยต่อคุณตูน เนื่องจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ธ.ค. เราได้รับแจ้งจากคุณตูนว่ามีอาการปวดหลังค่อนข้างเยอะ หลังตรงกลางด้านบน ตรงบริเวณคอด้านหลัง และร้าวมาที่แขนด้านซ้าย มีอาการชา และมีอาการที่นิ้วทั้ง 5 นิ้วอ่อนแรงร่วมด้วย

คุณตูนได้ไปพักผ่อนที่ภูเก็ต และมีอาการขึ้นมาค่อนข้างที่จะเยอะ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. คุณตูนไปรักษาที่รพ.ภูเก็ต ทางโน้นได้ฉีดยาแก้ปวดให้คุณตูน แต่จากการพักอยู่ 2-3 วัน ยังไม่หายปวด และแขนซ้ายอ่อนแรง ทำให้คุณตูนซึ่งเป็นคนไข้ของเราอยู่ก่อนแล้ว ทางคุณตูนและทีมงานได้ติดต่อมาว่าอาจต้องขอย้ายกลับมาที่กรุงเทพฯ ทาง รพ.พระมงกุฎเกล้าก็เลยได้รับตัวคุณตูนมาเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. เวลาบ่ายสองกว่าๆ

ตอนนี้คุณตูนได้รับการพิจารณาจากแพทย์แล้ว เนื่องจากมีอาการปวดค่อนข้างเยอะ เลยคิดว่าต้องให้คุณตูนนอนรักษาที่ รพ.พระมงกุฎเกล้าต่อเนื่อง จากการตรวจเบื้องต้น MRI พบว่ามีหมอนรองกระดูกข้อที่ 7 กดทับเส้นประสาท อาการนี้คุณตูนเคยเป็นมาครั้งนึงแล้ว สมัยที่วิ่งก้าวคนละก้าว เกือบ 3 ปีที่แล้ว ที่วิ่งจากเบตงมาเชียงราย ตอนนั้นอาการเป็นไม่มาก เราก็ได้ดูแลคุณตูน ตั้งแต่เบตงถึงเชียงราย จนการวิ่งสำเร็จเรียบร้อย

แต่ตอนนั้นใกล้ๆ จะจบ คุณตูนเริ่มมีอาการเล็กน้อย แต่ก็ได้ดูแลจนอาการหายไปแล้ว พบมีหมอนรองกระดูกเสื่อมนิดๆ หน่อยๆ ก็ได้รักษาตามอาการ และหายไป ขณะนี้ที่มาที่นี่ เราได้เห็นภาพ MRI เดี๋ยวคุณหมอปวินคงแสดงให้ดูอีกที จากเดิมเสื่อมนิดหน่อยไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ ก็ขึ้นมาประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ทำให้มีอาการมากขึ้น

แต่เนื่องจากทีมแพทย์เรา ทั้งแพทย์ออร์โธปิดิกส์ ศัลยกรรมโรคประสาท ซึ่งเรามีทีมแพทย์อยู่ทั้งทีม รวมทั้งทางด้านกายภาพฟื้นฟูและวิสัญญีแพทย์ของเรา เราได้ตั้งทีมแพทย์ดูแลคุณตูนให้ทุกท่านได้มีความสบายใจ

พันเอก ทิพชาติ : ผมในฐานะผู้อำนวยการกองออร์โธปิดิกส์ ซึ่งได้รับมอบหมายจากรพ.ให้ดูแลคุณตูนในครั้งนี้ ขออนุญาตเรียนให้สื่อมวลชนทราบว่าเราดูแลกันเป็นทีมงาน ทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะเราจะใช้แพทย์ด้านกระดูกสันหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระดูกสันหลังส่วนคอ ซี่ที่ 7 และข้อที่ 6 ด้วย ซึ่งจะมีทีมงานเป็นคณะแพทย์ และกายภาพบำบัด ทางเราจะพยายามรักษาดูแลคุณตูนให้ดีที่สุด

พันโท ปวิณ : ขออนุญาตพูดในฐานะตัวแทนทีมแพทย์ผู้ดูแลคุณตูน ตั้งแต่มีอาการล่าสุดประมาณ 4 วันที่ผ่านมา จนมานอนที่ รพ.พระมงกุฎเกล้าวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากตรวจเช็กร่างกาย ดูภาพ MRI เพิ่มเติม เราพบว่าปัญหาคุณตูนที่ทำให้นิ้วมือข้างซ้ายมีอาการอ่อนแรงลง จากการตรวจร่างกาย มีอาการอ่อนแรงลง 50 เปอร์เซ็นต์ ร่วมกับมีอาการชาบริเวณมือ ซึ่งจากภาพ MRI เราพบว่ามีหมอนรองกระดูกต้นคอ ข้อที่ ซี 6 ซี 1 และ ซี 7 ซี 1 หมอนรองกระดูกต้นคอเบียดเส้นประสาท โดยเฉพาะบริเวณข้างซ้าย อยู่ 2 ข้อ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้มือคุณตูนอ่อนกำลังลง อยู่ที่ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์

ผมและทีมคุณหมอศัลยกรรมโรคระบบประสาท ทีมคุณหมอกายภาพบำบัด รวมทั้งท่านรองและผู้อำนวยการกอง เราได้ประชุมกัน และมีความเห็นให้คุณตูนพักรักษาตัวที่ รพ. เนื่องจากต้องรอให้การอักเสบของหมอนตรงนี้ลดลงเสียก่อน เบื้องต้นเราจะทำการรักษาโดยการให้ยาระงับการปวดลดการอักเสบ และทำกายภาพเป็นหลัก โดยที่จะติดตามอาการอย่างใกล้ชิดทุกๆ วันเป็นระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ นี่เป็นแผนการรักษาเบื้องต้น

อาการไม่ถึงขั้นเรียกว่าวิกฤต แต่โรคนี้จำเป็นต้องพักคอ งดกิจกรรมเอ็กซ์ตรีม
พันเอกหญิง ปริยนันทน์ : คงไม่ถึงกับเรียกว่าวิกฤต แต่โรคนี้จำเป็นต้องได้รับการพักคอ ถ้ายังมีกิจกรรมที่ต้องขยับต้นคอบ่อยๆ ก็จะทำให้การอักเสบไม่หายไป เส้นประสาทที่โดนกดทับ ตอนนี้บวมอยู่ ก็จะทำให้ไม่ยุบบวม จะทำให้มีการชาและอ่อนแรง ทำให้การรักษายากขึ้น ถ้าไม่งดการทำกิจกรรม

เรื่องใช้เวลารักษา เบื้่องต้นเราจะรักษาโดยไม่ผ่าตัดก่อน ขณะนี้เราตั้งเป้าไว้ที่้การดึงคอ หรือ cervical traction เพื่อให้มีสเปซ ไม่ไปกดทับเส้นประสาท ตรงนี้ถ้าได้ผลดี เราจะเห็นผลภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งจะหลีกเลี่ยงการผ่าตัดไปได้ แต่ถ้า 2 สัปดาห์แล้ว อาการมากขึ้น หรือเป็นเท่าเดิมไม่ดีขึ้น อาจต้องคุยกันเรื่องผ่าตัด อาจต้องพิจารณาร่วมกันกับผู้ป่วยด้วย

เผยหากผ่าตัดต้องรักษาตัวอย่างน้อย 2 เดือน
พันเอกหญิง ปริยนันทน์ : ใช่ค่ะ ถ้ามีการผ่าตัด อย่างน้อย 2 เดือนขึ้นไป ตอนนี้เราพยายามใช้วิธีไม่ผ่าตัดดูก่อน ถ้าโชคดีคุณตูนหายภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งเราจะเห็นแล้วว่ามันมีการตอบสนองโดยไม่ผ่าตัด แต่อย่างไรก็ตาม ต้องพักผ่อน งดการขยับคอมากๆ หรือการไปกระแทกมากๆ ยังไงก็ตามไม่ว่าวิธีไหน อย่างน้อยต้องเป็น 2 เดือนค่ะ

พันโท ปวิณ : ถามว่าระยะยาวจะมีผลต่อการใช้ชีวิตไหม ถ้าเรารักษาด้วยการไม่ผ่าตัดคุณตูน แล้วผลการรักษาตอบสนองด้วยดี ซึ่งอย่างที่นำเรียนว่าขอดูระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ หลังจากนั้นอาจต้องใช้เวลาพักอีกประมาณ 2 เดือน เพื่อทำให้คออยู่นิ่งๆ มากที่สุด ถ้าเกิดตรงนั้นหาย ก็กลับมามีชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

ถามว่าเกี่ยวกับการวิ่งก่อนหน้านี้ไหม จริงๆ แล้วอาการหมอนรองกระดูกคุณตูน มีมาตั้งแต่ 4-5 ปีที่ผ่านมา ตอนนั้นมีอาการปวดอยู่ แต่ครั้งนี้ปวดมากกว่าเดิม เพิ่มเติมคืออ่อนแรงมากยิ่งขึ้น สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ที่เรามีการใช้งานกระดูกต้นคอ มีการกระแทก ก็ทำให้มีอาการเกิดเพิ่มเติมขึ้นได้

อยากให้ถนอมคอ อนาคตต้องเปลี่ยนสไตล์การร้องเพลง
พันเอกหญิง ปริยนันทน์ : เรื่องเสียงร้องอาจมีกระทบบ้าง เพราะปกตินักร้องจะมีท่าทาง มีบุคลิกพิเศษของแต่ละคน ตอนนี้เราไม่อยากให้คุณตูนขยับคอมาก แม้กระทั่งอนาคตไกลๆ ที่เคยขยับเยอะๆ อย่างที่ทราบคุณตูนเต็มที่ทุกคอนเสิร์ต การขยับค่อนข้างเยอะ ก็อยากให้ถนอมตรงนี้ไว้ ฉะนั้นสไตล์การร้องเพลงอาจต้องเปลี่ยนไปบ้างในอนาคต ไม่ถึงขนาดห้าม แต่ถ้าทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีใน 2 เดือน ก็ค่อยๆ กายภาพคุณตูนให้กลับมาเหมือนเดิมมากที่สุด แต่ว่าท่าที่เอ็กซ์ตรีมมากๆ ในอนาคตต้องงด เพื่อไม่ให้มันกลับมาเป็นซ้ำอีก

คนไข้รับได้ แต่ตูนก็คือตูน
พันเอกหญิง ปริยนันทน์ : คิดว่าคนไข้ยอมรับได้นะคะ แต่คุณตูนก็คือคุณตูนค่ะ อนาคตคุณตูนก็เต็มที่อยู่แล้ว แต่อันนี้คือหน้าที่ของแพทย์ที่จะดูแลคุณตูนต่อไป

ภายใน 2 เดือนหากผลรักษากลับมารปกติ ตูนจะกลับไปมีกิจกรรมทุกอย่างได้ตามปกติ แต่ต้องห้ามโยกคอ
พันเอกหญิง ปริยนันทน์ : อันนี้อยู่ที่ผลการรักษาของเราในช่วง 2 เดือนนี้ ถ้าทุกอย่างกลับมาปกติคิดว่าคุณตูนจะกลับมามีกิจกรรมทุกอย่างได้ปกติ เช่นท่าที่เราห้ามมากๆ คือการโยกคอเยอะๆ เราไม่อยากให้มีการบิดคอ แม้กระทั่งในปัจจุบันเด็กๆ ก้มศีรษะเยอะ ดูไอแพด ดูโทรศัพท์ทั้งวัน ท่านี้ก็เป็นท่าที่เราไม่อยากให้ทำด้วย อะไรที่มีการก้มๆ เงยๆ มากๆ บ่อยๆ แต่ถ้าอยู่ในท่าไม่ได้เอ็กซ์ตรีมหรือเป็นมากขนาดนั้น ก็อยู่ในเกณฑ์ที่แพทย์รับได้ ที่จะให้คุณตูนใช้ชีวิตตามปกติ

ถามว่าเดือนหรือสองเดือนนี้ เขาไม่ควรเล่นคอนเสิร์ตไหม ขอรอดู 2 อาทิตย์นี้ก่อนได้มั้ยคะ ถ้า 2 อาทิตย์นี้ตอบสนองดี งานคอนเสิร์ตเบาๆ ก็น่าจะพอได้ แต่ไม่สามารถโยกศีรษะได้เยอะ

เผยเป็นอาการเสื่อมโดยธรรมชาติ ทุกคนเป็นได้
พันโท ปวิณ : จริงๆ ส่วนหนึ่งโรคหมอนกระดูกต้นคอไปเบียดเส้นประสาท ส่วนหนึ่งก็มาจากการเสื่อมถ้าเราอายุเพิ่มขึ้นก็มีความเสื่อมโดยธรรมชาติ ทุกคนเป็นได้อยู่แล้ว

ตูนกำลังใจดี ห่วงแฟนเพลง ห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเอง
พันเอกหญิง ปริยนันทน์ : กำลังใจดีมากค่ะ คุยทุกวัน วันละหลายรอบ เขาเป็นห่วงแฟนเพลงที่สัญญากันไว้ว่าก่อนปีใหม่จะมีงานคอนเสิร์ตอยู่หลายงาน คุณตูนดูเป็นห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเองด้วยซ้ำ ส่วนเรื่องกำลังใจในการรักษาดีเยี่ยมค่ะ

กังวลเรื่องเสียงร้องเพลง กลัวไม่เหมือนเดิม ย้ำสไตล์การร้องต้องเปลี่ยน
พันเอกหญิง ปริยนันทน์ : กลัวว่าจะกลับมาไม่เหมือนเดิม มีบ้าง แต่เราได้อธิบายทุกอย่างแล้วว่าโอกาสที่จะกลับมาเหมือนเดิมก็เกือบๆ ยกเว้นท่าที่มันมีความเอ็กซ์ตรีมมากๆ อาจจะให้เลี่ยงกังวลเรื่องเสียงร้อง กังวลเรื่องเสียงร้องไม่เหมือนเดิม ในฐานะที่ดูแลพี่ตูนมานาน เรื่องนี้ไม่มีปัญหา แต่ท่าทางที่เปลี่ยนไป บางอย่าง สไตล์อาจต้องเปลี่ยนไปบ้างนิดนึงเท่านั้นเอง เขาก็ยอมรับได้

พันโท ปวิณ : ถ้าตอบสนองดีด้วยการรักษาไม่ผ่าตัด มีการพักฟื้น 2 เดือน ทุกอย่างดี ก็อาจกลับไปวิ่ง ซึ่งไม่ได้อยู่ในท่าเอ็กซ์ตรีม ก็กลับไปวิ่งได้ปกติ มือที่ชาข้างซ้ายขยับได้ แต่อ่อนแรงลง 50 เปอร์เซ็นต์

ขอให้มั่นใจ ทีมแพทย์จะดูแลให้ดีที่สุดเท่าที่เทคโนโลยีในโลกนี้มี
พันเอกหญิง ปริยนันทน์ : ทราบว่าทุกคนเป็นห่วง แต่ขอให้มั่นใจ ทีมแพทย์รพ.พระมงกุฏเกล้า จะดูแลพี่ตูนให้ดีที่สุดเท่าที่เทคโนโลยีในโลกนี้มี ทีมแพทย์คิดว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนอยู่แล้ว เรามีขั้นตอนอยู่ สองสัปดาห์เราก็จะมีขั้นตอนต่อไป

ทาง อ.ทิพชาติก็มั่นใจมากว่าจะดูแลคุณตูนได้อย่างดีที่สุด ก็ขอให้ทุกท่านคลายกังวลไประดับหนึ่งก่อน โรคนี้หลายคนอาจคิดว่าเป็นโรคน่ากังวล เพราะมือชาและไม่มีแรง เป็นเรื่องเราเจอบ่อยๆ ในเคสหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เมื่อการรักษาได้ผล ส่วนการชาและการขยับจะกลับมาปกติ กรณีตอบสนองต่อการรักษาเบื้องต้นใน 2 อาทิตย์นี้ หลังจากนี้ ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลง ทางสื่อมวลชนให้การสนใจก็สามารถนัดเข้ามาสอบถามได้