เคยเป็นนางเอกดังละครรุมตอม แต่อยู่ดีๆ "เมย์ บัณฑิตา ฐานวิเศษ" ก็ถูกถอดจากนางเอกกลายมาเป็นนางร้าย โดนลดบทบาทในวงการลงอย่างน่าเสียดาย ท่ามกลางกระแสข่าวเมาท์ว่าเป็นเพราะเจ้าตัวศัลยกรรมหนักจนหน้าเปลี่ยน ล่าสุดสาวเมย์มาเปิดใจเคลียร์ประเด็นดังกล่าวทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องวัน31 พร้อมเผยเส้นทางในวงการบันเทิง 20 ปี จากนางเอกสู่นางร้าย
"อยู่ในวงการมาจะ 20 ปีแล้ว เล่นหนังเรื่องแรกในชีวิตได้เป็นนางเอกเลย ไม่น่าจะใช่เพราะความสามารถ น่าจะเป็นโชคมากกว่า ตอนนั้นถ่ายหนังอยู่ประมาณ 3-4 เดือน ก็มีแคสนักแสดง ตอนนั้นหนังยังไม่ออนแอร์เลยนะ ก็ไปแคสละคร ไปถ่ายรูป แนะนำตัว อีกหนึ่งสัปดาห์ผ่านไปช่อง(ช่อง7)เรียกไปเซ็นสัญญา พอวันที่เซ็นสัญญาก็ถามคุณแดง(สุรางค์ เปรมปรีดิ์)ว่าจะต้องไปเรียนการแสดงไหม เพราะว่าหนังก็อีกแบบนึง ละครก็อีกแบบนึง คุณแดงบอกไม่เป็นไร ไปถ่ายเลย"
"ละครเรื่องแรกชื่อเรื่องขุมทรัพย์แม่น้ำแคว (พ่อ-แม่สั่ง ไม่ว่าจะดังขนาดไหนห้ามทิ้งการเรียนจริงไหม?) ใช่ เพราะมาจากครอบครัวที่คุณพ่อ คุณแม่เป็นอาจารย์ ทุกอย่างอยู่ในกรอบหมดเลย แล้วเรารู้สึกว่าถ้าลูกสาวอาจารย์ไม่ประสบความสำเร็จเรื่องเรียนแล้วแม่จะไปสอนใครได้ ก็เป็นความกดดันอย่างนึง (ละครที่ดังมากๆ คือชะชะช่า ท้ารัก?) ดีใจมาก เป็นละครเพลงอีกหนึ่งเรื่องที่เรางงๆ กับตัวเองเหมือนกันที่อยู่ๆ ได้ลงละครเพลง"
"ชีวิตช่วงนั้นสัปดาห์นึงถ่ายละคร 3 เรื่อง แล้วเป็น 3 เรื่องที่อยู่เต็มๆ เช้ายันเย็นๆ เพราะเป็นนางเอก เหนื่อยมาก เพราะขับรถเองด้วย เรารู้สึกว่าถ้าเราจ้างคนขับรถมาเขาต้องไม่ได้กลับบ้านแน่เลย สงสารเขา"
ดังเปรี้ยงปร้างอยู่ดีๆ เดินไปบอกผู้บริหารว่าไม่เอาแล้ว จะลาออกจากวงการ
"คือเรามีความฝันตั้งแต่เด็ก เรารู้สึกว่าเราอยากไปเรียนเมืองนอก อยากไปใช้ชีวิต เรารู้สึกว่าการมาทำงานในวงการบันเทิงมันอาจจะไม่ใช่ที่ของเรา ถามว่าเราทำได้ไหม เราทำได้ ตอนนั้นละครถ่ายอยู่ปีละ 4-5 เรื่อง เราก็ไปบอกผู้บริหารว่าขออนุญาตไปเรียนต่อ เขาก็บอกว่าไม่ต้องไปหรอก อยู่นี่แหละ ทำงานก่อน แล้วหลังจากนั้นละครมาเยอะมาก เห็นแก่เงินก็อยู่ต่อไป แต่ก็ยังค้างคาใจอยู่ว่าอยากไปใช้ชีวิตเมืองนอก แพลนไว้ว่าจะเล่นละครแค่ 4 ปี จริงๆ ไม่ได้คิดว่าจะได้เล่นด้วย อยากจะอยู่แค่ 4 ปี เรียนจบแล้วเอาเงินที่เล่นละครไปต่อปริญญาโท แล้วกลับมาทำงานแบบคนปกติเขาทำ"
ยอมรับคิดมากที่ชีวิตพลิกผัน จากนางเอกต้องเล่นไปเป็นนางร้าย
"คิดมาก แล้วรู้เลยว่าครั้งแรกเราทำไม่ดี ไม่เต็มที่ แต่เรื่องต่อไปคือนางทาส เราเล่นเป็นบุญมี"
โต้เพราะไปทำศัลยกรรม เลยดวงร่วงถูกปลดจากนางเอก
"ไม่จริง อันนี้ขอเถียงเลย ทุกคนรู้ แฟนคลับรู้ แต่แม่ไม่รู้ จริงๆ เรื่องความสวยความงามชอบตั้งแต่ตอนเป็นนางเอกแล้ว คนก็มาเขียนโน่นนี่นั่นเยอะ แต่จริงๆ ณ วันนั้นทำแค่อย่างเดียว คือทำคางแล้วเอาออกแล้ว"
แอ่นรับทำจมูกใหม่ เปล่าเสพติดศัลยกรรม
"ตอนนี้ที่มีก็ทำจมูก แต่ทุกคนชอบมาเถียงเมย์ตลอด ชอบบอกว่าเมย์ทำตา แต่จริงๆ เมย์ไม่ได้ทำ เราไม่รู้สึกว่าการไปทำสวยมันไม่ได้เสียหาย ถ้าคุณมีลิมิตในการทำ ถ้าคุณทำแล้วคิดว่าเหมาะสมโดยเฉพาะอาชีพที่มันใช้หน้าตา (เรียกว่าเราเสพติดศัลยกรรมได้ไหม?) ไม่ค่ะ ทรีตเมนท์ นวดหน้า เลเซอร์ อันนี้ทำประจำ แต่ถ้าไม่ได้ทำงานตรงนี้จะไม่ทำเลย เพราะว่าขี้เกียจมาก เพราะมันเสียเวลา เสียเงิน"
เผย 2 ปีก่อน เฟดออกจากวงการย้ายไปอยู่อังกฤษ ไปค้นหาตัวเอง
"ไปค้นหาตัวเองที่อังกฤษ ด้วยความที่ทำงานเจอผู้คนเยอะมาก แล้วเมย์ก็รู้สึกว่าการอยู่ในสังคมทุกคนชอบคาดหวังให้เราทำอย่างโน้น อย่างนี้ แล้วก็ทำอะไรให้เราตลอดเวลา แล้วเราไม่รู้ว่าปกติเราชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เราเป็นคนยังไง เพราะว่าทุกคนมาบอกเราตลอด จำได้เลยวันนั้นต้นเดือน วางแผนเลยว่าไม่อยู่แล้ว ซื้อตั๋วแล้วไปปลายเดือนนั้นเลย ทิ้งบ้าน ไปคนเดียวกับกระเป๋าลากใบนึง"
"ไปอยู่ 6 เดือน อ่านหนังสือ ลงเรียนภาษาบ้าง เดินดูศิลปะ แล้วไปช่วยงาน เป็นเด็กโบสถ์ที่โน่นก็มี ตอนนั้นเราใช้เงินเก็บค่ะ เพราะว่าเราไม่ได้เรียนเมืองนอกไง พอได้ไปอยู่มีความสุขมาก ไม่อยากกลับมาเลย ถ้าเป็นไปได้อยากอยู่ยาวๆ"
"พออยู่ได้ 6 เดือนก็กลับมาเมืองไทย เพราะเพื่อนแต่งงานพอดี เราสัญญาว่าเราจะมางานแต่งงานของเขาเพราะเป็นเพื่อนสนิทกัน ก็เลยกลับมา แล้วกลับมาเป็นจังหวะ ละครเรื่องก่อนตะวันแลง เขาติดต่อเรามาพอดี เราอ่านบทแล้วแบบโอเค พี่ๆ นักแสดง มันเป็นส่วนผสมที่เคมีลงตัว น่าสนใจ เราก็กลับมา"
แง้มเรื่องหัวใจ เคยชีช้ำเพราะแฟนเจ้าชู้
"แต่ก่อนจะเป็นความรักแบบลาเวนเดอร์กับม้าโพนี่ สวยงามมาก แม่เราก็จะพูดเสมอว่าเวลาเรามีความรัก หรือมีแฟน เราจะต้องดูที่เขาเป็นคนดี แล้วเราก็ต้องเป็นคนเข้าอกเข้าใจ ยอมรับอะไรอย่างนี้จะได้อยู่กันยาวๆ ทีนี้เขาไปเที่ยวเลาจ์ มีผู้หญิง ก็ไม่เป็นไร เราเข้าใจ เพราะว่าเราจะรักกันที่ใจ แต่มันมีเรื่องผู้หญิงบ่อยมาก แต่เรารู้สึกว่าไม่เป็นไรหรอกเรารู้สึกว่าเราคิดไปเอง เราต้องเข้าใจ จนกระทั่งวันนึงเราจับได้ เราก็ให้อภัย 3 ครั้ง เราก็เอาประสบการณ์มาเรียนรู้ไปเรื่อยๆ"
เจ็บสุดเคยถูกเพื่อนแย่งแฟน เจอคนเจ้าชู้บ่อยจนไม่อยากแต่งงาน
"มีคนนึงเราคบนานประมาณ 4 ปี ก็เป็นคนที่ไปเที่ยวนี่แหละ จนมีวันนึงเกิดไม่ไว้ใจ ก็เปิดดูเอ๊ะ คุ้นๆ หน้าเพื่อน หน้าเพื่อนอยู่ในบ้านเขา เราก็ถามเขานะ ถ้าเขายอมรับเราก็ให้อภัย แต่เขาไม่ยอมรับ เราก็เลยรู้สึกว่าต้องจบแล้ว เสียเวลา แล้วหลังจากนั้นคนก็เข้ามาจีบ แต่เรารู้สึกว่า ด้วยสังคมที่นี่ วัฒนธรรม ค่านิยม รู้สึกว่าการจีบซ้ำซ้อน การคบซ้ำซ้อน มันเป็นเรื่องปกติหรือเปล่า แล้วเราก็จับได้บ่อยมาก บางทีไปเดินสยามมากับผู้หญิง แล้วเขาก็เห็นเราพอดี"
"ตอนนี้ไม่อยากแต่งงาน เพราะคุณแม่ชอบบอกว่า ถ้าเมย์แต่งงานแล้ว เมย์จะต้องมีความอดทนนะลูก หนักนิดเบาหน่อยก็ต้องให้อภัย แล้วต้องมีความเข้าใจ อยากจะบอกแม่ว่าบางอย่างยุคนี้จะเข้าใจตลอดไม่ได้ มันจะต้องมีการตัดจบเหมือนกัน ความอดทนมันจะต้องมีขอบเขต ทุกวันนี้ไม่กล้าแต่งงาน เพราะกลัวว่าถ้าแต่งงานแล้วต้องอดทน แต่ตอนนี้มีคนคุยค่ะ"