“โทนี่” ยันอนุญาตภรรยา “แก้ว” ทำสีผม ใช้ชีวิตซะ อยากทำอะไรก็ทำ เล็งผันตัวเป็นเกษตรกร อยากกินอะไรก็ปลูกเอง ไม่บอกคำสัญญา รู้กันอยู่ในใจสองคน อยากเที่ยวรอบโลกก่อนมีลูก แจงไม่เคารพแม่ย่านาง ยันไม่ได้เชิญแม่ย่านางมาไว้ในรถ แล้วแต่ความเชื่อ
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีแต่งงาน “แก้ว จริญญา ศิริมงคลสกุล” และ “โทนี่ รากแก่น”ก็ได้เปิดใจกับสื่อมวลชน ถึงความรู้สึกในวันวิวาห์ครั้งนี้ รวมถึงดรามาต่างๆ ที่มีเข้ามา ทั้งเรื่องวางเท้าคอนโซลหน้ารถไม่เคารพแม่ย่านาง และดรามาสีผม ที่มีการท้วงติงว่าไม่เหมาะที่จะใส่ชุดไทย
โทนี่ : “พิธีเช้าก็จะมีเฉพาะแขกผู้ใหญ่ของเราทั้งคู่เลย ก็จะเป็นห้องเล็กๆ เราก็จัดแบบไทยๆ แต่ก็มีลดทอนพิธีกรรมอะไรไปบ้าง”
แก้ว : “อบอุ่นดีค่ะ”
โทนี่ : “ที่เลือกต้นพยุง (ของรับไหว้) แรกเริ่มเป็นไอเดียของคุณแม่เมย์ และเราก็รู้สึกชอบไอเดียนี้ เมื่อมอบเสร็จแล้ว เราจะเอาไปปลูกด้วยกันที่เขาใหญ่ เผื่อวันนึงเราจดจำได้ว่าเราเคยมีการปลูกต้นไม้ต้นนี้ด้วยกัน อนาคตเราจะไปดูจะรู้สึกว่ามันเติบโต จริงๆ เราเลือกเป็นไม้ใหญ่ยืนต้น ก็หวังว่าเราจะเห็นมันโตครับ ผู้ใหญ่อวยพรก็เน้นเรื่องความสุขกับสุขภาพ เท่าที่เราจำได้ เรารู้สึกว่าก็จริงที่สุดแล้วแหละ ถ้าเราดูแลสุขภาพของเราดี ของกันและกันดี เราก็คงมีความสุขอะไรอย่างนี้”
แก้ว : “คุณพ่อก็บอกว่าถ้าเราทำอะไรสำเร็จแล้ว ถ้ามีพอเหลือก็ช่วยเหลือคนอื่นเขา ก็เป็นคำอวยพรที่ดีมากๆ”
เผยทรงผมเจ้าสาวตั้งใจผมทองมาเลยในวันนี้เพราะไม่ได้อยากโฟกัสว่าเป็นวันแต่งงาน เลยอยากจะทำอะไรก็ทำ
แก้ว : “ตอนที่ตัดผมสั้นคนก็เริ่ม เฮ้ย จะแต่งานทำไมตัดผมสั้น เราก็รู้สึกว่าเราไม่ได้อยากไปโฟกัสเรื่องงานแต่งขนาดนั้น เพราะว่าเราก็คิดว่ามันเป็นวันๆ นึงที่จัดขึ้นมาเพื่อให้คนได้รับรู้ว่าเราจะใช้ชีวิตด้วยกันแล้วนะ รู้สึกว่าอยากทำอะไรก็ทำ และอยากย้อมผมก็ปรึกษาพี่โท ว่าทำดีไหม อะไรอย่างนี้ (หัวเราะ) เขาก็บอกว่าทำเลย ใช้ชีวิตไป”
โทนี่ : “ตามใจภรรยา เรียกว่าภรรยาได้แล้ว”(หัวเราะ)”
เล่าแพลนอนาคตหลังจากแต่งงาน เตรียมผันตัวเป็นเกษตรกร แต่งานในวงการบันเทิงก็ยังรับอยู่
แก้ว : “แก้วว่าจริงๆ แล้วมันก็ยังไม่ได้มีการวางแผนอะไรขนาดนั้นมันคงเหมือนเดิม เป็นแบบที่เราเคยเป็นมา”
โทนี่ : “ยังทำงานในวงการเหมือนเดิม”
แก้ว : “ก็มีบ้าง จริงๆ เราก็มีแพลนจะไปทำฟาร์มกัน ทำสวนกัน ก็อาจจะไปทุ่มเวลาตรงนั้นให้มากหน่อย”
โทนี่ : “เราไม่ได้ทำเป็นธุรกิจ มันเป็นไลฟ์สไตล์ เหมือนเราก็ยังเป็นนักแสดงเหมือนเดิม ก็เน้นเป็นพรีเซ็นเตอร์อย่างเดียว ล้อเล่น (หัวเราะ) ถ้าจะอธิบายก็ต้องคุยกันยาวเลยนะเรื่องนี้ เราสนใจวิธีการทำการเกษตรแบบผสมผสาน เรียกว่าโค้กหนองนา ไม่ใช่การเกษตรเพื่อธุรกิจครับ แต่เป็นเพื่อกิน เพราะว่าเราเป็นวีแกน เราไม่ได้ทานเนื้อสัตว์กันแล้ว ก็เลยรู้สึกว่าถ้าเรามีที่ปลูกอาหารเป็นของตัวเองก็คงง่าย ก็เลยอยากลองเป็นไลฟ์สไตล์อีกแบบ เมื่อก่อนไลฟ์สไตล์เราอาจจะไปแคมป์ปิ้งเยอะ ไปเที่ยวเยอะ ตอนนี้ก็มีเพิ่มเข้ามาอีกคืออยากกินอะไรก็ไปลูก อยากกินข้าวโพดไปปลูกข้าวโพด มันคือแพลนหลังจากที่แต่งงานไปแล้ว”
ฝันอยากเที่ยวด้วยกันรอบโลก ยังไม่โฟกัสการมีลูก
โทนี่ : “อาจจะเดินทางอีกสักพักหนึ่งก่อน อยากจะไปเที่ยวกันก่อน ถ้าเปิดประเทศก็อยากจะไปเที่ยวอีกครับ”
แก้ว : “รอให้บินได้ก่อนดีกว่า แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีนึงว่าจะไปเที่ยวให้รอบโลกเลยไหมแต่ก็พยายามไปให้ครบแหละ อยากได้ประสบการณ์ด้วย เรื่องลูกเดี๋ยวว่ากัน ปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติ”
โทนี่ : “ฮันนีมูนไม่มีครับ”
แก้ว : “เมื่อกี้แม่ก็ให้เป็นของขวัญ เหมือนให้ไปกระบี่มั้ง ยังในประเทศอยู่”
โทนี่ : “อยากไปอินเดียครับ”
แก้ว : “อยากไปอินเดียมาก เรารู้สึกว่ามีหลายคนบอกว่าต้องลองไปอินเดียสักครั้งในชีวิต เมืองเขาสวย น่าจะถ่ายรูปสนุก และน่าจะมันส์ถ้าได้เจอคนท้องถิ่น”
ไม่เผยคำมั่นสัญญา บอกรู้กันอยู่ในใจ
โทนี่ : “เรารู้ในใจครับ”
แก้ว : “ไม่อยากมานั่งสัญญากันเนอะว่าจะรักมั่นตลอดไป รู้สึกว่าตอนนี้เราเชื่อใจกันได้อยู่แล้ว ต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ตัวเองได้ดีที่สุด เราก็ดูแลตัวเอง และในส่วนที่เราต้องดูแลได้ดีเหมือนกัน”
ส่วนดรามารูปพรีเวดดิ้ง ลบหลู่แม่ย่านางรถนั้น บอกเป็นความเชื่อส่วนบุคคล และตนก็ไม่ได้เชิญแม่ย่านางไว้ในรถคันนี้ด้วย เพราะใช้รถคันนี้นอนเต็นท์
แก้ว : “แก้วว่ามันเป็นความเชื่อส่วนบุคคล เราก็จะไม่ก้าวก่ายกัน ใครเชื่อแบบไหน เขาก็จะเชื่อแบบนั้น เราสองคนเราเชื่อตัวเองมากที่สุด ถ้าการที่เราจะขับขี่อย่างปลอดภัยคือเราต้องมีสติและระมัดระวังตัว คือสิ่งที่เราเชื่อ”
โทนี่ : “อันนั้นคือแค่จอดรถถ่ายรูป รถเราไม่มีแม่ย่านาง เรานอนเต็นท์บนรถอยู่แล้ว เราต้องเดินขึ้นเดินลง ไม่กล้าเชิญท่านมา เราไปอ่านเหมือนกันนะ แต่เราไม่ได้คิดอะไร 99 เปอร์เซ็นต์ไม่ได้เห็นว่าเป็นอะไร อาจจะมีอย่างที่บอก สังคมเรากว้าง ยังมีคนที่เชื่อและไม่เชื่ออยู่เยอะ ก็ไม่ได้อะไรนะ”
แก้ว : “ก็ต้องดูที่เจตนาด้วยว่าเราทำเพื่อถ่ายรูป เราไม่ได้ไปพาดอยู่ตอนที่ขับรถจริงๆ เพราะฉะนั้นปลอดภัยแน่นอน ไม่ติดใจอะไรค่ะ”