“นนนี่” ยอม “แม่แอน” เกือบ 50 แต่ยังแซ่บเวอร์ สู้ไม่ได้ ก่อนเปิดใจเรื่องสามี ไม่มีอะไรคืบ เป็นยังไงก็ตามนั้น ลั่นทำดีที่สุดแล้ว ยันโพสต์เครียดในไอจีไม่เกี่ยวเรื่องชีวิตครอบครัว แค่อยู่เมืองไทยนานที่สุดในชีวิต ความคิดเปลี่ยนไป รีดหุ่น 15 กิโล พร้อมเข้าวงการ
ระยะหลังๆ มักเห็นภาพครอบครัว “แอน สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์” และ “จัสติน” สามี รวมถึง “น้องนนนี่ นนลนีย์” ลูกสาวออกงานคู่กันถี่ขึ้น ล่าสุดออกงานทั้งครอบครัว โดยแอนเผยว่าตนให้นนนี่มาดูแลคิวให้ ซึ่งตอนนี้นนนี่รีดหุ่นไปแล้ว 15 กิโล พร้อมเข้าวงการ
แอน : “วันนี้พร้อมหน้าพร้อมตามากๆ คุณจัสตินก็ตื่นเต้นมากอัดรายการค่ะ ก็เลยได้มาพูดคุยกันวันนี้ ช่วงหลังสามีออกสื่อเยอะขึ้น เป็นเพราะนนนี่มาดูคิวให้แอน เลยต้องทำงานโยงเป็นครอบครัวด้วย แล้วเนื่องจากว่าสถานการณ์ที่ผ่านมาเรื่องของโควิดด้วยเลยทำให้ครอบครัวได้เป็นครอบครัวมากขึ้น คืออยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตามากขึ้น
ตอนนี้ก็รับงานมากขึ้นค่ะ พอดีช่วงนี้แอนค่อนข้างมีงานเยอะขึ้นนิดนึง งานครอบครัวก็พอมีบ้างค่ะ แล้วก็เป็นแม่ในละครหลายเรื่องค่ะ สามีก็หายเกร็งขึ้นค่ะ”
นนนี่ยอมแม่ ทริปทะเลภูเก็ตสู้แม่ไม่ได้
แอน : “สนุกมากค่ะ คือเราไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันนานมากแล้วค่ะ เป็นทริปกะทันหันนิดนึง นอกจากครอบครัวก็ชวนเพื่อนที่สนิทไปด้วยอีก 2-3 ครอบครัว เรื่องความแซ่บ แม่ต้องยอมแพ้ให้ลูกค่ะตอนนี้”
นนนี่ : “ใครจะสู้แม่ได้ สู้แม่ไม่ได้หรอกสวยตลอดกาลขนาดนี้”
แอน : “วิธีการดูแลตัวเอง จริงๆ แล้วต้องบอกว่าพอเราอายุมากขึ้นผิวก็แห้งแล้วแอนก็เป็นลูกครึ่งมันก็จะทำให้ค่อนข้างผิวแห้ง จุดด่างดำ กระฝ้า ก็เยอะ แต่ว่าโชคดีที่เราเป็นคนใส่ใจแล้วก็ดูแลตัวเองพอสมควร ก็ใช้ครีม ใช้ทองคำทาผิว ล้ำหน้าเกินไปไหม (หัวเราะ)”
ได้ทริกความสวยจากแม่
นนนี่ : “ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องดูแลตัวมากกว่า ออกกำลังกาย แล้วก็ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวค่ะ”
แอนฟุ้ง 50 ยังแซ่บเพราะจำเป็น นนนี่ได้ทริกออกกำลังกาย น้ำหนักลด 15 กิโล
แอน : “ขอบคุณที่ถามนะคะ ใกล้ 50 พอดีเลย ก็ปีนี้ถือว่าเป็นวันเกิดที่ดีอีกทีหนึ่ง เราก็ 49 ย่าง 50 เต็มที่แล้ว ก็เหมือนโตเต็มที่ ส่วนที่บอกว่า 50 ยังแซ่บก็มันจำเป็นเนอะยุคสมัยนี้ผู้หญิงก็ต้องทำหลายหน้าที่หลายบทบาท แล้วเรากลับมาแสดงด้วย แล้วครอบครัวกิจกรรมตอนนี้แอนก็เรียนรู้การออกกำลังกายมาจากคุณจัสตินด้วย ว่าต้องทำยังไงให้เป็นรูทีน ลูกสาวก็มาออกเยอะขึ้น น้องนนนี่ผอมลง”
นนนี่ : “ทริกการออกกำลังกายก็ทั่วไปแหละค่ะ วิ่งเผาผลาญไขมันแล้วก็เวทอะไรแบบนี้ แล้วก็กินน้อยลง จากที่ทานวันละ 6 มื้อก็เหลือแค่ 2 มื้อ ลดไป 15 โลค่ะ ก็พยายามลดเรื่อยๆ อยู่”
ดูแลงานให้แม่เต็มตัว ส่วนตัวเองไม่ปฏิเสธงาน แต่ยังไม่มีติดต่อ
นนนี่ : “ใช่ค่ะ ก็ดูคิว จัดตารางงาน รับงาน เรื่องงานในวงการตอนนี้ก็เหมือนเข้ามาครึ่งหนึ่งแล้ว ตอนนี้ก็พยายามลดน้ำหนัก ถ้ามีโอกาสก็ไม่ปฎิเสธนะคะ ตอนนี้ยังไม่มีติดต่อเข้ามาค่ะ”
แอน : “ไม่ถึงกับประกาศว่าลูกพร้อมเข้าวงการขนาดนั้นหรอกค่ะ คือจริงๆ เวลาน้องพูดกับแอนเขาก็จะบอกว่า ยังไม่ตัดสินใจอะไรแน่นอน แต่ตอนนี้ได้เข้ามาดูคิวงานตรงนี้ด้วย บางทีได้มีโอกาสทำโน่นนี่ ก็คงใช้เวลาในการตัดสินใจ เราก็ไม่ได้ปิดกั้นหรอกค่ะ จริงๆ แล้วถ้ามีอะไรที่เหมาะสม แล้วเขารู้สึกว่าเขาทำแล้วเขามั่นใจเต็มที่ เขาก็ยินดีที่จะทำ”
แอนรับไปมาสองประเทศ แฮปปี้ได้ใช้ชีวิตกับนนนี่ นานที่สุดแล้ว
แอน : “คือจริงๆ แอนก็อยู่สองประเทศนะคะ แต่ลูกก็เรียนจบแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่นานที่สุด ที่นนนี่ได้โต แล้วก็ได้ใช้เวลาอยู่ที่เมืองไทย แล้วเขาก็ชอบ คืออย่างเราไปเที่ยวภูเก็ตมา เราก็รู้สึกว่าเราไม่เคยเห็นน้ำทะเลที่สวยที่สุดในช่วงที่ผ่านมา มันก็ทำให้มีความสุข แล้วก็รักประเทศไทย แพลนหลังจากนี้ก็ยังไม่ได้คิดอะไรที่แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ทำปัจจุบัน ณ ตอนนี้ให้ดีที่สุดค่ะ
ส่วนชีวิตคู่ก็ไม่มีอะไรนะคะ เขาก็เป็นสามีที่ดี คอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน อย่างที่แทมมารีนวิลล่า เราก็ได้รับผลกระทบเยอะเหมือนกัน ในเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจตรงนี้ เพราะทุกอย่างมันเปลี่ยนไป เราก็ต้องปรับตัว ก็พยายามบริหารจัดการให้ดีที่สุด เราอยากคีฟพนักงานทุกคนเก็บไว้”
ครอบครัวมีความสุข
แอน : “ก็ต้องขอบคุณลูกและคุณสามี พอเราโตมาถึงอายุเท่านี้ เราทุกคนก็โตขึ้นด้วยกัน เราก็รู้สึกว่การที่ดูแลความรู้สึกของกันและกันมันเป็นสิ่งที่ดี คือลูกก็ซัปพอร์ตเรา นนนี่ก็นอกจากจะเป็นผู้จัดการดูแลคิวให้แอนแล้ว เวลากลับบ้านมาเหนื่อยๆ ยังเตรียมอาหารให้ คุณสามีเองก็จะคอยถามตลอด ว่าเหนื่อยไหม เราได้ยินแค่นี้เราก็มีความสุขแล้วค่ะ สำหรับครอบครัว”
ขอสามีเองอยากทำงาน อยากกระปรี้กระเปร่า
แอน : “อันนี้เราขอเขาเองค่ะ เรารู้สึกว่าการได้กลับมาทำงานชีวิตมันสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้น สำหรับสาววัย 50 เราก็ดีใจที่ยังมีงานอยู่”
นนนี่เผยสถานะสามียังเหมือนเดิม คุยกันน้อยลง
นนนี่ : “สถานะตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิมค่ะ แต่ว่าตัวพี่เขาก็คือกลับไปสักพักใหญ่ๆ แล้ว ก็คุยกันน้อยลง ถ้าถามความชัดเจน ตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไร เพราะที่อังกฤษก็เพิ่งล็อกดาวน์รอบสอง ทำให้ทางโน้นเขาก็ค่อนลำบากเหมือนกัน”
แอน : “เรื่องห่างมันก็ต้องห่างกันเนอะ”
นนนี่ : “ไม่กลัวค่ะ คือถ้าจะเป็นยังไงก็ต้องตามนั้น เพราะว่าเราก็ทำดีที่สุดแล้ว ทั้งสองฝ่าย แล้วเราก็ตัดสินใจที่จะมาอยู่เมืองไทย เราก็บอกเขาตั้งแต่ตอนที่เขาจะกลับไปแล้ว เขาก็โอเคค่ะ เพราะว่าเราก็ได้กลับมาอยู่กับคุณแม่ด้วย เรื่องชีวิตคู่จริงๆ ก็ยังไม่ได้เพลนอะไรค่ะ เพราะว่าเหมือนหลายๆ อย่างตั้งแต่ที่ผ่านมา มันก็ค่อนข้างยังเอาแน่เอานอนไม่ได้มากกว่า ก็ทำตอนนี้ให้ดีที่สุด”
แอน : “ก็รอให้สถานการณ์ทุกอย่างมันดีขึ้น ในเรื่องของโรคหรือว่าอะไรต่างๆ เดี๋ยวก็คงต้องดูกันว่าเป็นอะไรต่อไป”
นนนี่ : “ก็ปรึกษาคุณแม่ค่ะ”
แอน : “ปรึกษาปกติค่ะ แต่ด้วยความที่แต่ละคนก็โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นทั้งคู่ ก็ค่อยๆ เติบโตกัน เดี๋ยวรอดูว่ามันจะเป็นยังไงค่ะ แต่ที่แน่ๆ ยังไงเราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ลูกเขาโตแล้วค่ะ เรื่องบางเรื่องมันก็ต้องใช้เวลา”
ยันโพสต์เครียดในไอจีไม่เกี่ยวเรื่องสามี แค่กลับมาอยู่ไทยนานสุดในชีวิต ความคิดเปลี่ยนไป
นนนี่ : “คือจริงๆ เราอาจจะไม่ได้เครียดเรื่องนี้ก็ได้ (หัวเราะ) คือมันก็มีหลายอย่างให้เราคิด เรากลับมาอยู่เมืองไทย นานที่สุดในชีวิต มันก็ต้องเปลี่ยนความคิดหลายๆ อย่าง ก็มีเครียดบ้าง คนรอบข้างก็ให้กำลังใจดีมากค่ะ ก็ไม่เครียดแล้ว ก็ดีใจที่คนเป็นห่วงเรา ถ้ามีอะไรอัปเดตเกี่ยวกับความสัมพันธ์ ก็ไม่ได้ปิดบังอะไรอยู่แล้วค่ะ (ยิ้ม)”
