หลังจบสัมพันธ์รัก 13 ปีลงดูเหมือน “โจวซิงฉือ” วัย 58 ปี กับ อดีตคนรัก” อวี๋เวิ่นเฝิง” วัย 40กว่าๆ ที่โบกมือลากันไปเมื่อปี 2010 จะยังไม่สามารถหาข้อยุติด้านธุรกิจลงได้ง่ายๆ หลังมีการฟ้องร้องเรียกเงินกว่า 70 ล้านเหรียญฮ่องกง หรือประมาณ 271 ล้านบาท
ตามรายงานจากเอกสารฟ้องร้องระบุว่า อวี๋ เป็นลูกสาวของนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อ อวี๋จิ้งโผ และเธอยังเป็นพาร์ทเนอร์ด้านธุรกิจให้กับ โจวซิงฉือ ด้วย
ระหว่างที่ทำงานกับ โจวซิงฉือ เธอได้รับเงินรายได้เป็นจำนวน 20,000 เหรียญฮ่องกงต่อเดือน ในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านอสังหาฯ และเธอยังช่วยเขาดำเนินการเรื่องลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ และการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์
โจวซิงฉือ นักแสดงตลกชื่อดังที่ผันตัวมาเป็นผู้กำกับ มีชื่อเสียงมากมายในด้านการกำกับภาพยนตร์จากเรื่อง Kung Fu Hustle (2004), CJ7 (2008) และ The Mermaid (2016)
เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา อวี๋ ได้ให้การในชั้นศาลระบุว่า เธอกับโจวซิงฉือ ได้ทำข้อตกลงร่วมกันเมื่อวันคริสต์มาสอีฟปี 2002 โดยตอนนั้น โจวซิงฉือ เสนอว่าเขาจะมอบจักรยานให้เป็นของขวัญ แต่เธอเรียกร้องขอเป็นค่าคอมมิชชัน 10% จากการลงทุน รวมถึงที่พักสุดหรู 3 ยูนิตพร้อมที่จอดรถ 5 คันและมีส่วนร่วมในโครงการภายใต้มูลนิธิของโจวซิงฉือ
และเมื่อศาลถาม อวี๋ ว่าเหตุใดจึงไม่ทำข้อตกลงเหล่านี้อย่างเป็นทางการ ทำหนังสือเซ็นสัญญาให้เรียบร้อย เธอได้บอกต่อศาลว่า ที่เธอไม่ทำเพราะเวลานั้นเธอเชื่อใจเขาเป็นอย่างมาก
อวี๋ ระบุว่า ที่ผ่านมาเธอไม่ได้รับเงินแม้แต่เซนต์เดียวในส่วนของค่าคอมมิชชันที่เธอควรจะได้จากเงินทั้งหมดมากกว่า 70 ล้านเหรียญฮ่องกง
ทางด้าน โจวซิงฉือ ที่ยังไม่ได้มาให้การในชั้นศาล เคยยอมรับว่า เขาเคยทำสัญญาปากเปล่ากับ อวี๋ จริง ตามเอกสารยื่นฟ้องต่อศาล อย่างไรก็ตามเขาบอกต่อศาลว่า สัญญาดังกล่าวมันเกิดขึ้นเมื่อตอนที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาอยู่ในจุดสูงสุด และรักกันมาก สัญญาดังกล่าวจึงไม่สามารถนำมาบังคับใช้ตามกฎหมายได้เหมือนกับสัญญาทางธุรกิจ
นอกจากนั้น เขายังกล่าวหาอดีตคนรักว่า เป็นพวก เลือกที่รักมักที่ชัง เพราะแสวงหาผลประโยชน์ที่ได้จากกำไร แต่ไม่ยอมพูดถึงการขาดทุนกว่า 13 ล้านเหรียญฮ่องกงที่ต้องเสียไปจากการลงทุนที่เธอเคยให้คำปรึกษาไว้
โจวซิงฉือ ยังเผยอีกด้วยว่า เขาได้เคยให้เงิน อวี๋ เป็นจำนวนถึง 21.6 ล้านเหรียญฮ่องกง ซึ่งการให้ทั้งหมดล้วนเกิดจากความรัก ความเต็มใจ ไม่ได้มีเหตุจูงใจอื่นๆแต่อย่างใด