"บีม กวี" เผยสาเหตุโพสต์ชี้แจงยาวเรื่องรักลูกไม่เท่ากัน ลั่นไม่อยากให้ลูกโตมาแล้วอาจเห็นข้อความเปรียบเทียบ ป้องกันลูกเข้าใจผิดในอนาคต วอนชาวเน็ตไตร่ตรองก่อนคอมเมนต์
กำลังแฮปปี้กับการเฝ้าสังเกตพัฒนาการลูกแฝด แต่ก็มีเรื่องให้อารมณ์สะดุด หลังจากที่ชาวเน็ตกล่าวหาว่าถ่ายรูปลูกคนนั้นเยอะกว่าคนนี้ ทำนองรักลูกไม่เท่ากัน ร้อนถึงคุณพ่อ "บีม กวี ตันจรารักษ์" ต้องออกมาโพสต์ข้อความยาวเพื่อชี้แจง
"ลูกแฝดกำลังน่ารักครับ กำลังอยากรู้อยากเห็นอยากทดลอง เริ่มซน เริ่มจะเดินไปเดินมาอยากจะเล่นโน่นเล่นนี่ อยากรื้อของ เราก็ต้องดูแลใกล้ชิดหน่อย เรื่องระวังก็คงต้องตามให้อยู่ในหูในตาของเรา พยายามเปิดให้เขาได้สำรวจแหละเพราะเราก็อยากให้เขามีประสบการณ์แต่ว่าเราก็ไม่อยากปล่อยจนเกินไปจนกระทั่งเขาเกิดอุบัติเหตุอันตรายขึ้นมาได้ ลูกสองคนนิสัยต่างกัน พี่ธีร์เขาจะเป็นคนร่าเริง เรียกว่าน่ารักแล้วกัน ส่วนน้องพีร์เขาจะนิ่งๆ หน่อยเหมือนใช้ความคิด เขาจะนิ่งๆ สายขรึมละมุนๆ หน่อย ก็ต่างกันครับ"
เผยโพสต์แจงเพราะชาวเน็ตเปรียบเทียบลูก ยันรักลูกเท่ากัน
"เรียกว่าเขาเปรียบเทียบแล้วกัน คือปกติผมจะถ่ายคลิปลูกลงในเฟซบุ๊กในไอจีบ้าง บางทีเราถ่ายคนหนึ่งอีกคนหนึ่งเขาหลับอยู่ คนหนึ่งเขางอแงอยู่อีกคนเขากำลังทำกิจกรรมที่ดูน่ารักซึ่งเราอยากจะแชร์อยากจะเก็บไว้เป็นเหมือนบันทึกของเราของคุณพ่อคุณแม่ของลูกเองด้วย มันยากที่จะบาลานซ์ให้ลูกสองคนเท่ากัน
คือเราอยู่กับลูกเขาน่ารัก เราก็อยากจะแชร์ความน่ารักให้ทุกคนได้เห็น พอมีคนเข้ามาเปรียบเทียบมันอาจจะทำให้ผิดวัตถุประสงค์ของเราไปหน่อย เราไม่อยากให้เขาเปรียบเทียบลูกสองคน เขาบอกคนนี้ขี้งอแงนะ คนนี้เก่งกว่า คนนี้ดีกว่าคนนั้น ปัญหาก็คือเป็นการเปรียบเทียบอย่างหนึ่ง บางทีมันอาจจะสร้างความเข้าใจผิดให้กับเขาได้
สมมติเขาโตขึ้นมาดูมาอ่านข้อความในอดีต เขาอาจจะรู้สึกว่าทำไมมีเขาน้อยกว่า ก็ต้องพูดกับลูกแบบนี้เผื่อลูกเปิดคลิปมาดู จริงๆ พ่อกับแม่อยากบอกว่าเรารักลูกเท่ากัน ไม่มีทางที่เราจะเปรียบเทียบลูกสองคนได้ และผมเชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกคนที่มีลูกหลายๆ คนก็ต้องรู้สึกแบบนั้นอยู่แล้ว
แต่ว่ามันยากมากจริงๆ ที่เราจะแชร์ประสบการณ์กับลูกทุกๆ คนให้มันเท่าๆ กันในสื่อโซเชียลมีเดีย มันยากมากที่จะบาลานซ์ให้เท่าเทียมกัน เพราะว่าบางทีมันเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า เราไม่สามารถควบคุมอะไรได้ เราอยากจะมีแต่ภาพดีๆ ของลูกเราทั้งสองคนให้ออกไปด้านหน้า บางทีลูกร้องไห้เราก็ไม่อยากจะถ่ายออกไป
ก็เลยอยากจะบอกกับทุกคนที่เข้ามาดู เราคงจะไม่สามารถห้ามความคิดทุกคนได้ อยากบอกตรงนี้ว่าเรารักเท่ากัน แต่ว่าเราขอความร่วมมือแล้วกันว่า อย่าเขียนอะไรแบบนั้นลงไป เวลาคุณคอมเมนต์พยายามคิดก่อนที่จะคอมเมนต์หน่อยนึง ช่วยคุณพ่อคุณแม่ด้วยระวังตรงนี้ให้ด้วย แค่นี้แหละที่เราอยากจะอธิบาย”
ไม่รู้อนาคตอะไรจะเกิดขึ้น หากลูกได้กลับมาอ่าน
“คือเราก็ไม่รู้หรอก ผมเชื่อว่าผมกับคุณออยจะพยายามเลี้ยงให้เขาไม่คิดอะไรแบบนี้อยู่แล้ว เราอยู่กับเขาเราให้เวลาให้ความรักเท่าๆ กันอยู่แล้ว แต่ว่ามันก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น บางทีการมาอ่านอะไรทีหลังในอนาคตมันก็อาจจะทำให้เข้าใจผิดขึ้นมาได้
จริงๆ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย อยู่ดีๆ ก็ลุกขึ้นมาเขียน เพราะว่าประมาณอาทิตย์ที่แล้วเราลงไปหลายคลิปที่มันมียอดคนดูเยอะ พอยอดคนดูเยอะก็จะมีคนเข้ามาให้ความเห็นเป็นความเห็นด้านบวกดีๆ ก็ดี แต่ผมไม่อยากเห็นคนเข้ามาแล้วมาทะเลาะกัน มันผิดวัตถุประสงค์ตอนแรก เราอยากให้เขาแฮปปี้ที่จะได้ดู เราไม่อยากให้เขาเข้ามาทะเลาะกันมาสร้างความขุ่นเคืองใจกันในการเข้ามาในเพจผม ก็เลยเขียนชี้แจงดีกว่า แล้วอีกอย่างเพื่อป้องกันลูกของเราเองด้วยจากความเข้าใจผิดทั้งหมด
เดี๋ยวนี้ยิ่งรับมือได้ง่ายขึ้นเพราะว่าเราสามารถบอกได้ เราสามารถสื่อสารได้สองทางแล้ว เขาก็บอกเราได้ เราก็บอกเขาได้ และอีกอย่างผมมีครอบครัวที่น่ารักมากๆ คอยซัปพอร์ต แฟนผมก็มาให้ความเห็นด้วย คือเราก็ไม่ได้คิดคนเดียวแล้วเวลาเจอปัญหาแบบนี้”
ไม่ถึงขนาดโพสต์คลิปลูกในสื่อโซเชียลน้อยลง
“มันก็ไม่ได้ถึงขนาดนั้น เราก็อยากให้ทุกคนเข้ามาดูแล้วคิดถึงใจของคุณพ่อคุณแม่บ้างนิดนึง เวลาจะเขียนอะไรก็ระวังให้นิดนึงแค่นี้เองไม่มีปัญหา
การทำคอนเทนต์ของเราก็มีคุยกับคุณออย เราก็แก้ปัญหา มีคู่คิดมีคนที่ช่วยเราคิดว่าจะจัดการกับปัญหานี้ยังไง ก็เลยคิดว่าเราเขียนอะไรสักหน่อย ปกติผมจะปล่อยไป คนที่เข้ามาในเพจเราเขาจะเขียนบวกหรือลบเราก็จะปล่อย นอกจากเขาเข้ามาด้วยคำหยาบคายเราก็จะลบ ถ้าเผื่อว่าเขาไม่ได้ด่าว่าอะไร เขาให้ความเห็นอะไรนิดหน่อย ก็ปล่อยไปไม่เป็นไร เรื่องนี้มันเป็นเรื่องธรรมดาที่คนเราต้องเจออยู่แล้ว
ก่อนโพสต์ก็คุยครับ ก็นั่งอยู่ด้วยกัน ก่อนหน้าวันที่ผมจะโพสต์ก็มีคนเข้ามาทะเลาะกันเหมือนต่อล้อต่อเถียงกันยาวเลยในเพจ แฟนน้องสองคนเขาอาจจะรักคนนี้มากกว่าคนนี้เขาก็จะเถียงกัน ฉันรักคนนี้ คนนี้ไม่น่ารัก คนนี้น่ารัก มันก็เลยเป็นการเถียงกันยาว คุณแม่ก็คือคุณออยก็เลยเข้าไปตอบ เขาก็พิมพ์ตอบยาวเหมือนกันเป็นการสร้างความเข้าใจในเพจเท่านั้นเอง เราก็มองว่าสิ่งที่แฟนเราทำมันก็ดี เราก็เลยว่าถ้างั้นเอามาโพสต์ให้เป็นกิจลักษณะก็เลยพิมพ์แบบนั้นลงไป
ตอนนี้ก็พร้อมรับมือครับ ต้องขอบคุณทุกคนมากเลยที่ติดตามเป็นกำลังใจกับการเลี้ยงลูกของเราสองคน น้องๆได้รับความรักเยอะมาก ขอบคุณมากๆ ครับ”