“โทนี่” อีก 1 เดือนแต่ง “แก้ว” รับเพื่อนเจ้าสาว 18 คน ไม่มีแอลกอฮอล์ เชิญแขก 200 คน แต่งที่เขาใหญ่วันเดียวจบ พร้อมเป็นหัวหน้าครอบครัว เตรียมตอบแทนแฟนคลับทำหนังสั้น “วันสุดท้าย” ฉายในงานแต่ง
อีกแค่ 1 เดือนก็จะถึงงานวิวาห์แล้ว งานนี้เจ้าบ่าวป้ายแดง “โทนี่ รากแก่น” เผยตอนนี้เริ่มอินงานแต่งงาน ดูแลเรื่องดีเทลเอง รับอยากให้งานแต่ง “แก้ว จริญญา ริมงคลสกุล”เรียบง่าย น่ารัก เชิญแขกแค่ 200 คน
“ก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ ครับ ผมก็ไม่แน่ใจว่างานคนอื่นเป็นอย่างไรนะครับ แต่ด้วยความที่เราเป็นงานเอาต์ดอร์ด้วยมั้ง มันก็เลยมีองค์ประกอบหลายๆ อย่างครับ เรื่องโลเกชันด้วย ตอนนี้สิ่งที่คอมพลีตไปแล้วก็คือใจเราครับ ใจเราคอมพลีตนานแล้วครับ ถ้าแต่งตอนนี้เลยก็ได้ครับ ไม่ต้องรอเลยก็ได้ (หัวเราะ)
1 เดือนต้องทันครับ คืองานแต่งเราก็ทำขึ้นมาเพื่อให้ถูกต้องตามประเพณี แล้วก็ทำให้กับผู้ใหญ่ ส่วนที่มันจะทันมันต้องทันแน่นอน ต้องเกิดขึ้นแหละครับอยากให้มีความน่ารักเล็กๆ ของครอบครัว เหมือนกับวันที่เราได้ขอกัน”
พิธีเช้าเป็นชุดไทย จากฟินาเล่ ดีเทลสุดยอด ส่วนงานเย็นเป็นสไตล์ฝรั่งจากหมู อาซาว่า
“ได้ทางทีมฟินาเล่ เวดดิ้ง สตูดิโอนะครับที่เขาทำชุดแนวไทยๆ เพราะตอนกลางวันเราจะมีงานแบบไทยๆ ด้วยครับ สวยมาก ขอบคุณมาก ดีเทลสุดยอดมากๆ เหนือความคาดหมายมากๆ แล้วเขาก็จัดให้ทั้งครอบครัวเลยครับ ส่วนชุดงานเย็นสไตล์ฝรั่งหน่อย ก็จะเป็นของทางพี่หมู อาซาว่า (พลพัฒน์ อัศวะประภา) จัดให้ ทั้งหมดก็รวมเป็น 2 ชุดครับ”
เพื่อนเจ้าสาว 18 คน
“เพื่อนเจ้าสาว 18 คนครับ ฝั่งเราก็พยายามหามาให้เท่ากันอยู่ เพราะเพื่อนเราไม่เยอะมาก เราไม่ได้ตั้งใจว่าจะเชิญแขกกี่คน หรือจำกัดจำนวนครับ เราแค่รู้สึกว่าอันดับแรกครอบครัวให้ครบก่อน แล้วก็เป็นเหมือนผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายมาเจอกันอันนั้นคือสำคัญที่สุดสำหรับเรา ก็น่าจะประมาณ 200 คนครับ
ส่วนโลเกชันเขาใหญ่ครับ จัดที่นั่นภายในวันเดียวเลยครับ ก็ต้องขอบคุณทางคุณแม่ของหมอเจี๊ยบด้วยครับ เขาก็เป็นเหมือนแม่ผมคนหนึ่ง ก็แนะนำมาแล้วก็ช่วยดูแลให้”
หวังว่าจะโชคดี ไม่มีแพลนรับมือฝน
“ไม่มีครับ ก็หวังว่าเราจะโชคดีนะครับ เพราะว่างานเราก็ทั้งวัน มันก็จะเจอทั้งแดด ทั้งสภาพอากาศตามธรรมชาติ เราเลยรู้สึกว่าคนที่มาเราเกรงใจมากๆ เพราะไกลด้วย เขาต้องดูแลตัวเองหลายอย่าง เราก็เลยขอเป็นงานเล็กๆ น่ารัก เน้นครอบครัวแล้วกัน
ส่วนเรื่องเซอร์ไพรส์เราเพิ่งคุยกัน แก้วก็ถามว่าเราต้องมีเซอร์ไพรส์อะไรหรือเปล่า เราก็บอกว่าไม่ต้องหรอก เราอยู่ในวงการเราได้ทำมาหลายอย่างมาก เราอยู่เฉยๆ เถอะ ให้ทุกคนเอนจอยในงานก็พอ ให้พิธีทุกอย่างมันสำเร็จ แค่นั้นเราก็แฮปปี้แล้ว”
เพิ่งถ่ายพรีเวดดิ้ง ฟีลเหมือนถ่ายรายการ
“เพิ่งไปถ่ายมา กลับมาเมื่อวานนี้ครับ เราอยากให้ภาพที่ออกมามันดูไม่ออกว่าเป็นที่ไหนเป็นพิเศษ แต่เราไปเจอช่างภาพคนหนึ่งในไอจี แล้วเราชอบมู้ดแอนด์โทนเขา เราสองคนติดตามเขาอยู่พอดี ก็เลยติดต่อไป เขาก็เลยชวนไปที่โลเกชันเขา ก็ขับรถไปเรื่อยๆ ฟีลเหมือนที่เราถ่ายรายการ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้ปล่อยรูปออกมาเลยครับ จะปล่อยเมื่อไหร่ก็ยังไม่รู้เลย (หัวเราะ) ก็มีคอนเซ็ปต์ครับ เดี๋ยวรอดูดีกว่า”
พร้อมเป็นหัวหน้าครอบครัว
“พร้อมครับ ที่แก้วบอกว่าอยากขอบคุณเราที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปหลายอย่าง เราก็เหมือนกัน คือเราก็ขอบคุณเขาเหมือนกัน ที่ทำให้เรามีเพื่อนคนหนึ่งที่มุ่งหน้าไปทางเดียวกัน เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเจอง่ายๆ กับคนที่สามารถลุยไปด้วยกันได้ทุกอย่าง แล้วก็พร้อมที่จะลำบาก
เรารู้สึกว่าวิถีชีวิตเรามันประกอบไปด้วยอะไรที่มันต้องเสียสละเยอะ อย่างเช่นเราเป็นวีแกนด้วยกันทั้งคู่ มันเกิดจากความสงสารแหละ เราไม่เอาแล้วดีกว่า แล้วถ้าผมเป็นวีแกนคนเดียว ผมก็คงยากลำบาก แต่เขาก็ชอบเหมือนกัน อยากจะทำสิ่งนี้ด้วยกัน แล้วก็หลายๆ อย่างที่เราพยายามที่จะทำต่อไปในอนาคต ทำรายการที่มันสอดคล้องกับการช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือสิ่งแวดล้อม เรารู้สึกว่ามันประกอบไปด้วยความเสียสละหลายอย่าง แต่เราไม่รู้สึกว่ามันลำบากนะครับ เราคุ้มมากแล้วที่เกิดมาชาตินี้แล้วคิดแบบนี้ แล้วจะร่วมกันทำแบบนี้ต่อไป”
ชีวิตเจอคู่แท้
“ก็แน่นอนอยู่แล้ว ไม่งั้นก็คงไม่เกิดงานแต่งขึ้นมา เราเป็นเด็กแสบกันทั้งคู่ก่อนหน้านี้ ถ้าในโต๊ะปาร์ตี้เราก็คือตัวเปิดทั้งคู่ แต่อยู่ดีๆ วันหนึ่งเรารู้สึกว่าการที่จะประคองความรักกันต่อไปสิ่งมึนเมาต่างๆ มันจำเป็นที่จะต้องหายไปจากเรา เพราะว่ามันทำให้เราขาดสติ การมีสติสำคัญสำหรับชีวิตคู่ อย่างนั้นเราก็เลยไม่เอาแล้วดีกว่าเนอะ แอลกอฮอล์ไม่แตะต้อง สิ่งต่างๆ ที่ทำให้เราขาดสติได้ เราจะไม่เอาแล้ว เราชวนกันทำ เพราะไลฟ์สไตล์เราอยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง ก็คือเลิกถาวรเลยครับ
ส่วนในงานแต่งถามว่าไม่มีแอลกอฮอล์ใช่ไหม คือไม่ใช่ว่าไม่มีเลยครับ แต่คือเราบอกว่า เราขอไม่จัดให้มี แต่ถ้าเกิดเพื่อนๆ อยากจะสนุกสนานกันก็เอามากันเอง จริงๆ แล้วประหยัดแหละ(หัวเราะ)”
อยากแต่งงานให้ธรรมดาที่สุด
“เราก็มองว่าอยากจะให้งานแต่งเป็นไปตามรูปแบบที่ควรจะเป็น ธรรมชาติ ธรรมดาที่สุด ก็คือมีพิธีการที่จำเป็นต้องมีก็มีให้ครบ เราคุยกันเลยว่า เรื่องงานแต่งงานมันไม่ใช่เรื่องของเราสองคน มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เป็นเรื่องของการที่ทำเพื่อคนรอบข้าง แต่เราต้องให้เขาสบายใจ ให้เขามีความสุขที่สุด ส่วนตัวเราเองมันจะเป็นแบบไหนก็ได้ ไม่ได้ซีเรียสเลย แล้วก็โชคดีที่ได้เพื่อนๆ ได้คนรู้จักดีๆ
จู่ๆ เห็นเขาไปถ่ายพรีเวดดิ้งกัน ก็ไปถ่ายบ้างดีกว่า พอไปถึงหน้างานก็เกิดไอเดีย เกิดคอนเซ็ปต์ขึ้นมา มันค่อยๆ เติม ค่อยๆ พัฒนาไปเรื่อยๆ เราก็เริ่มอินกับงานไปเรื่อยๆ เรื่องการตัดสินใจในรายละเอียดต่างๆ ก็ช่วยๆ กัน ยอมกันทั้งคู่ คือมันเป็นการช่วยกันคิด เพราะเราไม่สามารถคิดได้คนเดียว”
งานแต่งล่าช้าเพราะเปลี่ยนการ์ดบ่อย ไม่อยากให้เพิ่มขยะ
“ที่ช้าเพราะมันมีการเปลี่ยนแปลงครับ อย่างเรื่องการ์ด ก็เป็นเราเองนี่แหละที่เปลี่ยนแปลงเขาบ่อย ตอนแรกไม่อยากทำเพราะไม่อยากไปเพิ่มขยะ แต่มีรุ่นพี่ที่รู้จักกันเขาช่วยทำ หาวัสดุที่มันรักษาสิ่งแวดล้อมให้ เราก็เลยทำหลายๆ อย่างมันช้าก็ต้องขอโทษและขอบคุณทีมงานที่มีส่วนร่วมในการทำสิ่งนี้นะครับ เพราะเราดีเทลจัด ยิ่งอินเลยยิ่งเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ
เรื่องเชิญแขกทันไม่ทัน (หัวเราะ) มันจะมีอยู่สองเคสแหละ ถ้าเชิญไม่ทัน แขกก็ไม่มา บางคนก็อาจจะเปลี่ยนใจกะทันหันหน้างาน สุดท้ายแล้วผมเชื่อว่าผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายคือมาแน่นอน ส่วนเพื่อนก็เอาสะดวกแล้วกันเพราะเราไม่มีแอลกอฮอล์ด้วย ไม่รู้ปาร์ตี้จะมีหรือเปล่า หลายๆ อย่างมันอาจจะไม่เหมือนงานอื่นๆ ที่เขาเป็นกัน แล้วงานมันก็เล็กๆ เหมือนจัดกันหน้าบ้านครับ”
เตรียมตอบแทนแฟนๆ ทำหนังสั้นฉายในงานแต่ง ตั้งชื่อ “วันสุดท้าย”
“แต่มีเซอร์ไพรส์นี่หว่า ผมลืม คือผมกับแก้วได้คิดกันว่าในเมื่อเราเจอกันในงานแสดง แล้วเราก็เป็นนักแสดงกันทั้งคู่ เราเลยอยากจะตอบแทนแฟนๆ ด้วยการทำหนังสั้นขึ้นมาเรื่องหนึ่งเพื่อที่จะฉายวันงาน เป็นไลฟ์สดผ่านทางช่องยูทูปของเรานะครับ ได้พี่พงษ์เดชมาเขียนบทแล้วก็กำกับให้ เป็นอะไรที่โดนมากๆ เร็วๆ นี้จะปล่อยทีเซอร์ออกมาให้ได้ดูครับ ถ่ายเสร็จแล้ว รูปแบบทีเซอร์ที่จะปล่อยก็เพี้ยนๆ ด้วย อยากจะให้รอดูกันครับ ถ้าทำได้นะ แต่ถ้าไม่ได้ก็คงปล่อยตามไอจีทั่วไป
ชื่อเรื่อง วันสุดท้าย ครับ คอนเซ็ปต์คือเรารู้สึกว่าการแต่งงานมันไม่ใช่วันที่สำคัญที่สุด แต่การที่อยู่ด้วยกันก่อนหน้านี้และหลังจากนี้มันก็จะเหมือนเดิม เราทำงานแต่งงานขึ้นมา แล้วเราก็ใช้ชีวิตต่อไปเหมือนเดิม มันจะวนๆ อยู่ประมาณนี้มั้งนะ คิดว่า”
