“ก้อย” เผยพอได้ลองชุดแต่งงานเลยเริ่มตื่นเต้นว่าใกล้ถึงวันจริงแล้ว บอกชุดเจ้าสาวมีไม่เกิน 5 ชุด เป็นของไทยดีไซเนอร์ทั้งหมด ส่วนชุดของ “ตูน” ขออุบไว้ก่อน ให้รอดูพร้อมกัน เผยว่าที่เจ้าบ่าวขอธีมเป็นสวนสนุก เพราะเป็นสถานที่ที่ไปแล้วมีแต่ความสุข โบ๊ยให้ไปถามฝ่ายชายเรื่องลูกเอง แต่ก็มีคุยกันไว้บ้างแล้ว บอกที่ต้องจัดครอสเจ้าสาวออกกำลังกายอย่างหนัก เพราะต้องการให้พร้อมที่สุดทั้งกายและใจในวันงาน
ใกล้ได้ฤกษ์วิวาห์ในวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้เต็มทีแล้ว สำหรับว่าที่เจ้าสาวป้ายแดง “ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ”กับนักร้องขวัญใจคนทั้งประเทศ “ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย” ซึ่งสาวก้อยเผยถึงความคืบหน้างานแต่งในงานแถลงข่าว “เทศกาลไหว้พระจันทร์” ณ S&P Hall สุขุมวิท 26 เจ้าตัวก็เผยว่าได้ไปลองชุดเจ้าสาวจากดีไซเนอร์ชื่อดังของไทยอย่าง “หมู อาซาว่า” มาเรียบร้อยแล้ว
“เรื่องงานแต่งตอนนี้คือก้อยมีความชิลสูงมาก เราก็ค่อยๆ ทำกันไป เพราะตอนแรกเราก็รู้สึกว่ายังมีเวลาอีกค่อนข้างเยอะ แต่ตอนนี้ก็ไม่เยอะแล้ว ก็มีไปลองชุดกับพี่หมู อาซาว่า มาแล้วค่ะ เป็นการเจอกันครั้งแรกด้วย ก็ไปคุยเรื่องของไอเดียว่าเราอยากใส่ชุดแบบไหน พี่หมูก็ให้ลองฟิตติ้งดูว่าเหมาะกับทรงไหน แบบไหน ที่คิดไว้ก็น่าจะไม่เกิน 4-5 ชุดค่ะ เป็นของไทยดีไซเนอร์ทั้งหมดเลยค่ะ แต่ละชุดก็จะอยู่ในช่วงเวลาต่างๆ ตอนเช้ามีพิธีสงฆ์ พิธีรับไหว้ และมีชุดสำหรับเจอพี่ๆ สื่อด้วย แล้วก็มีชุดในพิธีแค่นี้ค่ะ”
“ตอนที่ไปลองชุดมันก็แปลกๆ เนอะ เพราะเราก็ไม่เคยแต่งงาน (หัวเราะ) คือ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะใส่ชุดที่ฟูฟ่องแบบนี้ได้ ไม่เคยเห็นตัวเองในภาพแบบนี้มาก่อน ส่องกระจกก็ตกใจ ตื่นเต้น ตอนที่ยังไม่ได้ลองก็ยังชิลๆ อยู่ แต่พอใส่ชุดแล้วมันก็ใกล้แล้วนี่นา พี่ตูนก็ไปลองด้วยกันค่ะ มีชุดของฝั่งเจ้าบ่าวด้วย ชุดพี่ตูนจะเป็นขาเดปไหมเหรอ อยากให้พี่ๆ คอยดูวันงานค่ะ จริงๆ ชุดผู้ชายไม่ยากเท่าผู้หญิงอยู่แล้ว ก็คงจะเป็นภาพที่คนไม่เคยเห็นทั้งก้อยและพี่ตูนค่ะ ก้อยก็ไม่เคยเห็นมาก่อน (หัวเราะ)”
บอกให้ลองลุ้นชุดของ “ตูน” ในวันแต่ง รับรองไม่เคยเห็นมาก่อนแน่นอน
“พี่ตูนเขาก็ชอบชุดของก้อยนะคะ เห็นแล้วเขาก็ร้องโอ้โห (ยิ้ม) อันไหนถ้าพี่ตูนไปได้เขาก็จะไปช่วยดูด้วยค่ะ ชุดเซอร์ไพรส์พี่ตูนมีไหมเหรอ ก็ไม่ถึงกับเซอร์ไพรส์หรอกค่ะ เพราะเขาจะรู้แหละว่าก้อยจะใส่แบบไหนบ้าง แต่ท้ายที่สุดแล้วแต่ละชุดก็จะมีคาแรคเตอร์ของดีไซเนอร์แต่ละท่าน ซึ่งก้อยก็ตื่นเต้น มันเป็นเหมือนงานศิลปะอย่างนึงที่พอดีไซเนอร์ที่เรารักเขาออกแบบมาให้ เรารู้แหละว่ามันจะออกมาประมาณนี้ แต่สุดท้ายผ้าจะเป็นแบบไหน ลายปักจะเป็นแบบไหน อันนี้ก็เป็นเรื่องที่เราเองก็ตื่นเต้นเหมือนกัน เพราะเราก็ยังไม่เห็นว่าพอสำเร็จแล้วจะเป็นยังไง”
“ชุดของพี่ตูนก็ช่วยกันดูค่ะ คือ พี่ตูนก็มาถามว่าจะยังไงดี เราเองก็พอจะรู้จักพี่ๆ ในวงการแฟชั่นหรือพี่ๆ ดีไซเนอร์ก็ช่วยกันแนะนำ ส่วนไหนที่ยังไม่เรียบร้อยเหรอ ตอนนี้การ์ดยังผลิตอยู่เลยค่ะ (หัวเราะ) ขั้นตอนต่อไปคือการรวบรวมจำนวนแขก ก้อยกับพี่ตูนก็คงต้องเดินสายไปเรียนเชิญแขกผู้ใหญ่ด้วยตัวเองค่ะ ตอนนี้กำลังดูจำนวนกันอยู่ค่ะ ให้เหมาะกับพื้นที่และเราก็คำนึงในเรื่องของสถานการณ์ด้วย ไม่อยากให้แน่นเกินไป และเราอยากให้ทุกคนมาแล้วรู้สึกสบายตัวค่ะ”
บอก “ตูน” รีเควสธีมงานสวนสนุก ส่วนเรื่องลูกก็มีคุยกันบ้างแล้ว
“ธีมงานเหรอคะ เป็นธีมที่พี่ตูนเขาเลือกค่ะ เป็นธีมสวนสนุก แต่งตัวเหมือนไปเที่ยวสวนสนุกกันได้เลยค่ะ (ยิ้ม) หมวกมิกกี้เม้าส์ พร๊อพต่างๆ มาได้เลยเต็มที่ค่ะ (ยิ้ม) พี่ตูนเขาชอบ เขามองว่างานแต่งงานเป็นพิธีที่เราได้รวบรวมครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงคนที่เรารักทุกคนมาพร้อมหน้าพร้อมตากัน และสวนสนุกเป็นสถานที่ทุกครั้งที่เราไปด้วยกันแล้วเรารู้สึกว่าเป็นที่ที่มีความสุข ก็เลยมองว่าอยากให้ทุกคนมาร่วมงานเราและมีความสุขไปกับเราค่ะ”
“วันที่ 28 พฤศจิกายนค่ะ ที่โรงแรม พลาซ่า แอทธินี ค่ะ เป็นพิธีจบในวันเดียว หมั้นเช้าแต่งเย็น เรื่องลูกเหรอคะ เดี๋ยวก่อน (หัวเราะ) อันนั้นไว้รอถามพี่ตูนดีกว่าค่ะ (ยิ้ม) ถามว่าก้อยพร้อมหรือยัง คือเราก็ค่อยๆ เรียนรู้เรื่องเหล่านี้กันอยู่ (หัวเราะ) คือมันก็เป็นเรื่องใหม่สำหรับเราทั้งคู่เหมือนกันค่ะ แต่ก็มีการคุยกันค่ะ (ยิ้ม)”
บอกตั้งใจฟิตร่างกายหนักขึ้นเพื่อวันแต่ง
“คอร์สเจ้าสาวทรหดใช่มั้ยคะ (หัวเราะ) คือ ก้อยรู้สึกว่าการแต่งงานก็เหมือนมาราธอน วันงานก็อยากจะเป็นวันที่เราพร้อมที่สุดทั้งกายและใจ เรื่องสุขภาพจึงสำคัญที่สุด วันนั้นเราต้องมีพลังค่อนข้างเยอะตั้งแต่เช้าจรดเย็น นึกภาพว่าต้องใส่ชุดทั้งวัน และเราต้องต้อนรับทุกคน มันเป็นวันที่เราอยากจะพร้อมที่สุด คือ มาราธอนอาจจะต้องวิ่ง แต่งานแต่งอาจจะไม่ต้องวิ่ง แต่ต้องยืนมาราธอน ก็เลยรู้สึกว่าสิ่งแรกสำหรับการเป็นเจ้าสาวคือต้องแข็งแรงค่ะ (ยิ้ม) ส่วนเรื่องเข้าครอสผิวก็มีบ้างค่ะ แต่เราก็มีผลิตภัณฑ์ของเราที่ดูแลเราอยู่ (หัวเราะ)”
บอกความแฮปปี้วันที่ฉลองครบรอบ 10 ปี คือ ความรู้สึกที่เหมือนเพิ่งคบกันผ่านมาไม่นาน
“ที่ฉลองครบรอบ 10 ปี ก้อยว่ามันก็เป็นอีกหนึ่งปีที่มันมากขึ้นค่ะ เรารู้สึกว่าการที่เราได้ใช้เวลากับคนๆ นึงมายาวนานถึง 10 ปี แต่เรากลับรู้สึกว่ามันเพิ่งผ่านไปไม่นาน ความพิเศษมันอยู่ตรงนั้นมากกว่า ก้อยรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็วจังเลย ลองนึกถึงว่าเราจะต้องอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปอีก 20 30 50 ปีข้างหน้า อันนั้นน่ะน่าตื่นเต้นว่าจะเป็นยังไง”