xs
xsm
sm
md
lg

ขาเตียงยังแข็งแรง “นุ๊ก” แจงไม่เลิกผัว ยิ่งมีข่าวเลิกยิ่งรัก!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“นุ๊ก สุทธิดา” ยันไม่เลิกสามี ถ้าเลิกเดี๋ยวบอก แต่ยอมรับกังวลต้องห่างกัน หวั่นจะไม่กลับมา ลุ้นอีก 2 เดือน ตรวจอีกครั้งยังเหลือเซลล์มะเร็งมั้ย ทำใจถ้าเป็นก็รักษา ปลื้มลูกชายฮอต แต่ยังไม่พร้อมเป็นดารา ยังวิ่งหนีแฟนคลับ รับลูกไม่อยากอยู่ใต้เงาแม่ แต่สนใจงานในวงการ

แม้จะดูชิลๆ หลังกลืนแร่รักษามะเร็งต่อมไทรอยด์ แต่ “นุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา” ก็ระทึกอยู่ไม่น้อย เพราะอีก 2 เดือนข้างหน้า ต้องไปตรวจอกครั้งว่ายงหลงเหลือเชื้อมะเร็งอยู่หรือไม่ โดยในงานแถลงข่าว “โลกทั้งใบให้นายคนเดียว เดอะซีรีส์” นุ๊กเผยว่าทำใจไว้แล้ว ถ้าเป็นก็แค่รักษา

รออีก 2 เดือนก็จะได้ไปตรวจอีกครั้งนึงว่ายังเหลือเซลล์มะเร็งหรือเปล่า ถ้ายังหลงเหลืออยู่ก็ต้องกลืนแร่เป็นรอบที่ 2 ตอนนี้ปกติดี อาจจะมีเหนื่อยง่ายนิดหน่อย น่าจะเป็นผลพวงมาจากที่เราเป็นไทรอยด์อยู่ด้วย

ตอนผ่าตัดไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ตอนที่กลืนแร่มันจะคล้ายๆ กับการให้คีโม มันก็ค่อนข้างที่จะเหนื่อยมาก ต้องอยู่คนเดียวเพราะว่าเรามีแร่กัมมันตภาพรังสีอยู่ในตัวทำให้ไม่สามารถเจอใครได้แม้แต่หมอ พยาบาล คือต้องดูแลตัวเอง มันค่อนข้างจะใช้ร่างกายพอสมควร อยากจะอาเจียน ทานอะไรไม่ค่อยได้ เหมือนคนเมารถตลอดเวลาประมาณ 4 วัน

คนที่ตัดไทรอยด์ไปแล้ว จะไม่มีต่อมไร้ท่อ ไม่มีฮอร์โมนชนิดนึงที่ต่อมไร้ท่อผลิต ก็จะต้องกินยาไปตลอดชีวิต เป็นยาที่กินสำหรับทดแทนฮอร์โมนที่หายไป ส่วนมะเร็งตอนที่เรากลืนแร่ จะทำให้ 6 เดือนเว้นครั้งนึงถึงจะกลืนได้อีกครั้ง คุณหมอเลยยังไม่ได้ตรวจว่ามีมะเร็งหลงเหลืออยู่ไหม ก็รอไว้กลืนได้ก็ตรวจเลย

ตอนผ่าตัดคุณหมอก็บอกว่าพยายามจะเอาออกไปให้หมด แต่ด้วยเซลล์มะเร็งมันอยู่ในต่อมไร้ท่อ มันก็จะปล่อยทั้งเลือดทั้งฮอร์โมนต่างๆ ไปทั่วร่างกาย ต้องรอตรวจหลายๆอย่างอีกทีนึง”

ไม่กังวล หากเป็นอีกครั้งก็พร้อมรักษา อย่างน้อยยังรอดชีวิตมาได้เล่นโลกทั้งใบฯ อีกเป็นครั้งที่ 2
“ไม่กังวลค่ะ คุณหมอบอกหายก็คือหาย ถ้าเป็นใหม่ก็ค่อยรักษาอีกทีนึง ก็ยังไม่รู้เลยว่ามันจะเป็นยังไงต่อไป แต่วันนี้ก็ดีใจที่ได้รอดชีวิตมาเล่นโลกทั้งใบให้นายคนเดียวเป็นครั้งที่2 (หัวเราะ) ไม่ได้นอยด์เลย เราทำใจตั้งแต่วันที่เรารู้ครั้งแรกว่าเราเป็นมาแล้วว่าเราจะทำยังไงต่อไป ต้องยกความดีให้กับลูก นุ๊กมีลูก เหมือนเรารู้ว่าเราจะต้องอยู่เพื่อใคร อยู่ยังไง เลยรู้สึกว่าเราไม่ได้นอยด์ ไม่ได้กลัวกับการใช้ชีวิตมากนัก ลูกช่วยให้ทุกอย่างมันดีขึ้น

ถ้าถามว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ด้วยเรื่องของอาหาร ความผิดปกติของเซลล์เรา สมัยนี้ในอาหารมีทั้งสารเร่งโต ยาฆ่าแมลง สารเคมีหลายอย่าง พืชผักก็ตัดแต่งพันธุกรรมเยอะขึ้น ก็น่าจะเป็นเหตุผลนึง แต่นุ๊กก็ไม่ได้ออร์แกนิคอะไรขนาดนั้นนะคะ เราก็รับประทานอาหารปกตินี่แหละ เราไม่มีฮอร์โมนไทรอยด์ เราก็ต้องพยายามทำให้ร่างกายแข็งแรงคือทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ อาจจะมีออกกำลังกาย ทำกิจกรรมบ้างแต่เบาๆ อาศัยว่าเรามีความสุขความสบายใจในการใช้ชีวิต ทำให้ชีวิตมันง่ายขึ้น”

ขอบคุณมะเร็ง ทำให้ลูกดื้อน้อยลง เปลี่ยนตัวเองในทิศทางที่ดี แค่นี้ถือว่าคุ้มแล้ว
ด้วยความที่ลูกนุ๊กเป็นผู้ชายหมดเลย เขาก็ไม่ได้มาให้กำลังใจอะไรเรามาก แต่ทุกคนรู้เรื่องและพยายามจะรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเอง อะไรที่แม่สั่งก็พยายามจะทำมากขึ้น แล้วก็ดื้อน้อยลง เราเห็นพัฒนาการของเขาตรงนี้ได้อย่างชัดเจน ก็ขอบคุณมากๆ ที่เป็นมะเร็งนะคะ ทำให้ลูกดื้อน้อยลง อันนี้ถือว่าคุ้มแล้วค่ะ เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองกันอย่างใหญ่หลวงมาก อาจจะด้วยวัยเขาด้วย บางทีพอเราบ่นเราว่ามากๆเขาก็จะหยุด ไม่ค่อยเถียง”

รับสภาพ ยาฮอร์โมน - ไทรอยด์ทำให้ผมร่วง
“ใช่ค่ะ ยาฮอร์โมนไทรอยด์ทานช่วงแรกๆจะมีปัญหานิดนึง มันขึ้นอยู่กับทั้งน้ำหนัก ทั้งความพอดี ทั้งอะไรหลายๆ อย่างของเรา แต่ละคนกินไม่เท่ากัน มันก็ต้องมาหาจุดพอดี ระหว่างนั้นมันก็จะเจอผมร่วง ผิวแห้ง นอนไม่หลับ น้ำหนักลด น้ำหนักเพิ่ม คือกว่าจะหาบาลานซ์ลงตัวนี่ผมร่วงไปเยอะเหมือนกัน กว่าจะกลับขึ้นมาใหม่ ตอนนี้กินวันละ 1เม็ด”

ลั่นยังไม่เลิกสามี ถ้าเลิกจะบอก
“ตอนนี้สามีไปอยู่มาเลเซีย ด้วยความที่ตอนช่วงโควิดสามีพาสปอร์ตหมดอายุ แล้วมันติดโควิดทำให้เขาไม่สามารถเดินทางได้ จนเดือน 9 รัฐบาลก็มีกำหนดแล้วว่าใครก็ตามที่เป็นชาวต่างด้าวที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทย พาสปอร์ต วีซ่าหมดอายุแล้วต้องเดินทางออกภายในเดือน 26 กันยายน สามีก็เดินทางออกไปในวันนั้น

ปัญหาในครอบครัวไม่มีค่ะ มีข่าวเลิกกันทุกช่วงเลย ทุก 3 เดือนเลย เรายังไม่ได้เลิกกันนะคะ ถามว่าข่าวมาได้ยังไง อาจจะฟังผิดหรือเปล่า หรืออาจจะจั่วหัวไว้ก่อน เพราะตอนนี้เราก็แยกกันอยู่ ยังไม่มีกำหนดการว่าจะกลับมาเจอกันเมื่อไหร่ เพราะเขาก็ยังกลับมาไม่ได้ เขายังรอทำพลาสปอร์ต ตอนนี้กัวลาลัมเปอร์ก็ล็อกดาวน์อยู่ เขาก็ไม่สามารถไปทำพาสปอร์ตได้ เรายังไม่เลิกกันค่ะ ถ้าเลิกจะบอกค่ะ”

เรื่องที่เขาถูกต่อว่าตอนเราป่วย เขาไม่รู้ค่ะ เขาไม่รู้ ก็เลยไม่ค่อยได้มีปัญหาอะไร ตัวเขายังปกติ ถือว่าโชคดีด้วยค่ะ เพราะก่อนหน้านี้เกือบจะเช่าที่เปิดยิมอีกรอบนึงแล้ว พอดีว่าเขาต้องเดินทางกลับไปก่อน เกือบจะได้เซ็นสัญญาจ่ายล่วงหน้าแล้ว”

ลึกๆ กังวลกลัวไม่กลับมา
“ลึกๆ ก็กลัวนะคะ เพราะเขาก็เป็นเหมือนพ่อบ้าน เลี้ยงลูกตลอด อดัม (ลูกชายคนเล็ก) เขาก็ดูแลทุกอย่างเลย พอเขาไม่อยู่ก็ไม่รู้ว่าใครจะดูลูก ตอนนั้นก็เลยแอบกังวล นอยด์ๆ ว่าจะกลับมาไหม ด้วยความที่เขาเป็นคนติดบ้าน เป็นเด็กน้อยมากๆ เขาไม่เคยห่างพ่อแม่ ตอนที่เขามาเขาก็จะบ่นเสมอว่าเขาคิดถึงบ้าน คิดถึงอาหาร อยากกลับบ้านทุกเดือน ด้วยความที่เราทำธุรกิจ เขาก็เลยกลับได้ไม่บ่อย ก็ปีละครั้งค่ะ เราก็กลัวว่าเขากลับไปเขาจะร่าเริง คือตอนนี้กลับไปเขาอ้วนมาก จากที่ผอมๆ คงเอ็นจอยกับอาหาร เขาปาร์ตี้ทุกวันเลย”

ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้เจอกัน ไม่ได้อธิบายลูก
“ยังไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ เพราะเราก็รู้ว่าทางโน้นล็อกดาวน์ คือเราประเมินไว้ว่าต้องปีหน้าแน่นอน จะปีหน้าเมื่อไหร่ด้วยซ้ำที่เราจะได้เจอกัน จริงๆ คนที่น่าสงสารไม่ใช่นุ๊ก น่าจะเป็นอดัม เขาจะมีเอฟเฟกต์มาก เขานอนกับพ่อ อยู่กับพ่อตลอด แม่ยังเป็นคนทำงานนอกบ้าน

เขาก็จะมีคำพูดที่ทิ่มแทงอย่างเช่น ให้บ๊ายบายแด๊ดดี้สิ เขาก็จะฮัลโหลสวนขึ้นมาเลย หรืออย่างที่เขาถามพ่อเขาว่าทำอะไรอยู่ พ่อบอกกำลังจะกลับบ้าน เขาก็จะถามว่าแด๊ดดี้ไม่กลับบ้านนี้แล้วเหรอ คือน้องเล็กมาก น้องไม่รู้ ถามว่าเราคุยกับน้องยังไง เราก็ไม่ได้อธิบาย เพราะเขายังไม่เข้าใจ แต่ก็พยายามทำให้เขารู้สึกว่าพ่อเขาอยู่ทุกครั้งที่โทร.มา ก็จะมีงอนกันบ้างนะถ้าโทร.หาเขาแล้วไม่รับสาย คือเราอยากให้ลูกได้เจอพ่อทุกครั้งที่อยากจะเจอ”

ยันติดต่อกันเหมือนเดิม ไม่อยากพูดว่ารักเหมือนเดิม เพราะจะทะเลาะกันทุกที แต่มั่นใจอีกฝ่ายไปไหนไม่รอด
“ยังติดต่อกันเหมือนเดิม จริงๆไม่อยากจะพูดว่ารักกันเหมือนเดิมนะ เพราะทุกครั้งที่มีข่าวรักกันเหมือนเดิมจะทะเลาะกันทุกทีเลย (หัวเราะ) ช่วงที่มีข่าวว่าเลิกกัน จะรักกัน เขาไปไหนไม่รอดหรอกค่ะ เรื่องระยะเวลาที่คิดว่าเขาจะกลับมา คิดว่าน่าจะมีหลัง 4 เดือนหลังจากนี้ค่ะ”

ปาแปง ลูกชายฮอต ทำให้ยอดฟอลโลว์ตนขึ้นไปด้วย
“มีแฟนคลับที่ติดต่อฟอลโลว์เข้ามา ก็หลายหมื่นอยู่นะคะที่มาจากน้อง น่าจะประมาณ 175k ขึ้นมาเป็น 208k หลายหมื่นอยู่ค่ะ ส่วนใหญ่มาจากปาแปงนะคะ เพราะน้องปาแปงไม่มีไอจี เขาเป็นเด็กที่ไม่เล่นไอจี ไม่ชอบโซเชียล เขาติสต์มากค่ะ เป็นเด็กติสต์ๆ

เขาไม่อยากออกรายการนะคะ จริงๆ แล้วเขาไม่ชอบทำอะไรที่เกี่ยวกับแม่เท่าไหร่ค่ะ เขาจะรู้สึกว่าอยากทำอะไรด้วยตัวเขาเอง เหมือนช่องยูทิวบ์เขาก็ทำอาหารทำกับ Nook Family จริงๆ ปาแปงจะมียูทิวบ์ช่องที่เขาทำเอง แล้วไม่ยอมบอกแม่ด้วยว่าเป็นช่องอะไร เพราะเขาอยากให้คนตามเขาในส่วนของเกม เขาบอกว่า ถ้าคนไม่ได้ชอบเขาที่เล่นเกม ตามเขาก็ไม่มีประโยชน์อะไร”

ลั่นลูกไม่อยากมีชื่อเสียงเพราะแม่
“เราก็ชอบนะคะ แต่ว่าจะมีความคิดชัดเจน เหมือนไม่อยากมีชื่อเสียงเพราะแม่ แต่ว่าก็จะเห็นได้จากความตั้งใจ อย่างเวลาทำอาหารมันถ่ายทีหลายเทปเขาไม่เคยบ่นเลย ไม่เคยบ่นว่าเหนื่อยให้เราได้ยินเลยค่ะ เขาจะทำอย่างเดียวเพราะว่าในส่วนอาหารก็เป็นส่วนที่เขาครีเอตเองว่าเขาอยากทำ แต่ถ้า สมมุติว่าเราไปถ่ายอย่างอื่นที่เป็นพาร์ตครอบครัว ปาแปงจะไม่ค่อยให้ความร่วมมือจะเป็นเด็กแบบ(ทำเสียงอ่อน) ไม่อยากถ่ายเลยแม่

ก็ค่อนข้างลำบากนะคะเหมือนเราไปควบคุมศิลปินคนนึง มันยากมากอย่างเราไปออกรายการ เขาไม่โอเค เขาก็จะไม่ออกเลย เคยเจอในรายการสด แบบว่าผมไม่พร้อมครับ เขาก็ไม่ออก หรือว่าเวลาไปเจอคน เขาจะเป็นเด็กที่ไม่เคยให้นุ๊กถ่ายรูป เวลานุ๊กถ่ายรูปคือต้องแอบถ่าย เพราะว่าเราจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวเวลาส่วนตัว เวลาเขาไปเจอคนก็จะมีสตั้นบ้าง เหมือนกับเด็กไพรเวตอยู่เขายังไม่ได้คอนเน็กกับคนมาก อาจจะมีมองบ้าง แต่เขาก็ยอมให้ถ่ายรูป หรือเจอนักข่าวถ้าสัมภาษณ์เกี่ยวกับแม่ เขาก็จะรู้สึกว่ามัน ไม่เกี่ยวกับเขา แบบว่าผมให้พี่สามคำถามนะครับ แล้วถ้าครบเขาก็จะบอกว่า สามคำถามแล้วนะ แล้วเขาก็เดินไปเลย แต่ว่ามันไม่ได้ออกก้าวร้าวนะคะ”

เคยวิ่งหนีแฟนคลับ ต้องพยายามสอน
“เราก็พยามสอนในระดับหนึ่งนะคะ ว่าการทำอย่างนี้บางทีมันไม่ได้นะ ส่วนมากจะเป็นเรื่องคนมาขอถ่ายรูปมากกว่า แต่ว่าพี่ๆ นักข่าวจะเข้าใจอยู่แล้ว เวลาเขาพูดก็จะมีเสียงอ้อนอ้อนของเขาว่าครบสามคำถามแล้วนะ เขาก็จะไป แต่ถ้าเป็นแฟนคลับบางทีมันเจอกันแป๊บเดียว ก็ต้องบอกเขาว่าต้องให้ถ่ายนะ ครั้งแรกจำได้เลยวิ่งมาหลบหลังแม่ บอกแม่ๆ เขาจะขอถ่ายรูป เขาก็จะเขินเป็นเด็กที่ไม่ได้ชอบ

เขาไม่ค่อยรู้มั้งคะว่าคนชอบเยอะ เพราะน้องไม่ได้เล่นไอจี ไม่เล่นโซเชียลมาก น้องก็จะรู้แค่ว่าอยากทำอะไรในสิ่งที่อยากทำ แต่ก็เริ่มมีนะเริ่มมีความโตเป็นหนุ่ม มีแบบเก๊กๆ"

ชอบงานในวงการ แต่ไม่ชอบทำกับแม่
“เขาก็ชอบนะคะ ดูท่าทางเขา เพียงแต่ว่าอาจจะต้องเป็นเวย์ของเขา อย่างเช่นนุ๊กเคยได้ยินเขาพูดว่า เขาชอบทำงานในวงการบันเทิง แต่ไม่ชอบทำงานกับแม่ ถ้าเขาจะทำงานแบบตัวเองก็ได้ เราก็แบบ...อย่างกับฉันอยากทำงานกับเธอ

ไม่อยากอยู่ใต้เงาแม่
คงเป็นเหมือนลูกดาราหลายๆ คนที่รู้สึกว่าอยู่ใต้เงาพ่อแม่ค่ะ เขาคงไม่ได้อยากอยู่ในแบบนั้น เขาเป็นคนที่จะโกรธทุกครั้ง เวลามีคนเรียกชื่อเขาผิด ซึ่งนุ๊กรู้สึกว่าคาแร็กเตอร์นี้เขาเคารพในความเป็นตัวเองมาก แล้วเขาไม่อยากแบบโตใค้รอยใคร คิดว่านะคะ เดาเอา จริงๆ ก็มีงานติดต่อนะคะแต่ว่าน้องยังไม่โต เด็กมาก คือน้องไม่พร้อมที่จะทำงาน เพราะเรารู้สึกว่าน้องยังไม่สามารถที่จะถ่ายรูปกับทุกคนได้ น้องยังไม่เข้าใจ”






กำลังโหลดความคิดเห็น