“เปา-เอิร์ธ” เปิดค่ายเพลง ธุรกิจในครอบครัว โต้ออกหน้าเป็นศิลปินไม่ได้หวั่นมีปัญหาแกรมมี่โกลด์ ตกใจปล่อยเพลง “ตั๊ก ศิริพร” ชน “ค็อกเทล” แต่ไร้ปัญหากัน โอดยังไม่ท้อง กินยาบำรุง หาหมอแมะ ทุกศาสตร์แล้ว
เปิดธุรกิจค่ายเพลงใหม่ในนามบริษัทสองสามตัว จำกัด โดยจะเป็นดนตรีแนวใหม่ที่เปิดกว้าง ภายใต้การทำงานของ เอิร์ธ กานต์ กิจเจริญ, เปาวลี เฟื่องฟุ้ง, ป๋ากิ๊ก กิจเจริญ, แม่อี๊ด กนกวรรณ กิจเจริญ และ ศุภวิญญ์ มุ่งมาตร ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจครอบครัว ล่าสุด “เปาวลี” ควง “เอิร์ธ” สามี เผยถึงแรงบันดาลใจ ณ ร้านหลานกลมกิ๊ก
เอิร์ธ : “อย่าเรียกว่าค่ายเพลงเลย เรียกว่าสตูดิโอเพลงดีกว่า เพราะว่าเป็นเล็กๆ มีแค่เอิร์ธ ป๋ากิ๊ก เปา แม่อี๊ด และพี่อีกหนึ่งที่เป็นโปรดิวเซอร์กิ๊กดู๋อยู่แล้ว ทำกันแค่นี้ 4-5 คน”
เปา : “ทำกันในครอบครัว ก็เลยทำสตูดิโอเพลงเล็กๆ เลยชวนคนใกล้ๆ ตัว มาทำเพลง อย่างเพลงแรกที่ปล่อยไปชื่อเพลงว่า สักวัน ได้ อาตั๊ก (ศิริพร อยู่ยอด) มาร้องให้ เป็นการเชื้อเชิญของพ่อกิ๊ก ซึ่งเขาทำงานร่วมกันอยู่แล้ว ตอนแรกก็ยังไม่รู้หรอกว่าจะให้ใครร้อง แต่ว่าคนหนึ่งที่อยากได้มากๆ ก็คือ อาตั๊ก พ่อก็ไปถามว่าสนใจไหม ก็เอาเพลงให้ฟัง พอได้ฟังอาตั๊กก็รีบตกปากรับคำ”
เอิร์ธ : “เขาไม่ได้ร้องเพลงนานแล้วครับ เหมือนเป็นความท้าทายของเขาด้วยครับ เพราะเป็นอีกสไตล์หนึ่งเลย เป็นแนวร็อก แต่อันนี้จะเป็นแบบดีว่า”
เปา : “ก็เป็นศิลปินเบอร์แรกที่เรียนเชิญมาร้อง”
เปาขอเป็นเบื้องหลัง
เปา : “ของเปาเป็นเบื้องหลังค่ะ อย่างเราเป็นสายเอ็นเตอร์เทนเนอะ บ้านเอิร์ธเขาทำบันเทิง ทำรายการอยู่แล้ว พอเพิ่งจะได้มาทำเพลง ค่าย สองสามตัว เราก็อยู่ในส่วนช่วยเรื่องดนตรี ช่วยเรื่องการร้องเล็กๆ น้อยๆ”
เอิร์ธ : “ถามว่าคาดหวังยังไง จริงๆ อย่างเพลงสักวัน ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรนะครับ แค่อยากทำเพลงออกมาให้ผู้ฟังทางบ้านฟังแล้วก็ชอบ ได้รับกำลังใจ อย่างช่วงนี้ก็มีแต่คนท้อ เศรษฐกิจก็ไม่ดี เราเลยทำเพลงนี้ขึ้นมาประมาณนี้
แรงบันดาลใจมาจากโควิดเลยครับ เรารู้สึกว่าเราก็เป็นคนหนึ่งที่เอฟเฟกต์กับยุคโควิดเหมือนกัน เศรษฐกิจไม่ดีแบบนี้ เราเลยอยากส่งพลังบวกให้กับคนอื่นๆ บ้าง ถามว่าเราไม่กลัวเหรอเปิดสวนกระแส ไม่กลัวนะ เหมือนว่าอยากทำอยู่แล้ว ก็คิดไม่นานนะ ก็ช่วงโควิดด้วย”
เปา : “เป็นช่วงที่ทำให้เราคิด ลองทำอะไรต่างๆ นานา อย่างที่เราทำ สองสามตัว ขึ้นมานี้ ก็เป็นสตูดิโอที่ทำกันเองด้วย แล้วก็เริ่มจากแนวคิดของพ่อกิ๊ก แล้วก็พี่ๆ ที่อยู่เบื้องหลังกิ๊กดู๋ คือมีน้องๆ หลายคนที่มาแข่ง มาร้องเพลง แต่เขาไม่ได้โอกาส เราก็เลยอยากมอบโอกาสให้เขา ถ้าเกิดใครที่อยากเป็นนักร้อง มีเพลงเป็นของตัวเองก็มาที่เราได้ ก็จะเป็นสถานที่ซัปพอร์ต ส่วนพวกเราก็เป็นเบื้องหลังนี่แหละ ที่คอยซัปพอร์ตคนอื่น คือเราทำกันเอง ก็ทำเท่าที่ทำได้ หลายๆ อย่าง โปรโมตก็ช่วยกันโปรโมตหลายๆ อย่าง”
โต้ไม่ออกหน้าเป็นศิลปิน เพราะติดสัญญาแกรมมี่ โกลด์ แค่ช่วยครอบครัว อยากซัปพอร์ตคนที่มีความฝัน
เปา : “ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ คือเราตั้งใจจริงๆ ว่าในด้านหน้าเวทีหรือการแสดงเปาก็เต็มที่ เราอยู่กับบ้านแกรมมี่โกลด์ แต่อันนี้ขอมาช่วยครอบครัว ช่วยอยู่เบื้องหลังอะไรที่ทำได้ เราตั้งใจอยากจะซัปพอร์ต อยากจะช่วยให้คนที่มีความฝันได้ทำตามความฝัน เพราะเห็นน้องๆ หลายๆ คนที่มาเขามีศักยภาพ เขามีความสามารถกันทุกคนเลย แต่เขาขาดโอกาสอยากจะช่วยตรงนั้น”
สัญญาอีกนานเลยค่ะ เพราะเพิ่งเซ็นต่อสัญญาไป (หัวเราะ) คือที่มาทำตรงนี้เปาไม่ได้ว่าอยากจะมาร้องเพลงในค่ายตัวเองหรือจะผันตัวอะไร แค่อยากเป็นคนผลักดันบ้าง เพราะว่าเราเองก็ได้รับโอกาสมาเยอะมากๆ ค่ะ”
มีศิลปินเบอร์ต่อไปแล้ว
เอิร์ธ : “จริงๆ ก็มีน้องๆ จากรายการกิ๊กดู๋ที่เราได้คุยไว้บ้างแล้วครับ ศิลปินเบอร์ต่อไปจะเป็นน้องหมิว ปาริชาติ เป็นสาวเหนือมาจากน่านเลย น้องไม่ได้แชมป์อะไรนะ แต่เราแค่รู้สึกว่าเราคุยแล้วมี passion ร่วมกัน มีอุดมการณ์เดียวกันที่ว่าอยากมีเพลงของตัวเองสักวันนึง น้องๆ ที่ไม่ได้มาจากการประกวด แต่อยากมีเพลงของตัวเอง ก็มาได้เลย เราไม่ได้ปิดกั้นอะไร”
เปา : “แค่ช่วงนี้เป็นช่วงเริ่มก็เลยหาคนใกล้ตัวมาลองทำก่อน”
เอิร์ธ : “ช่วงนี้ก็มีปล่อยเพลงคัฟเวอร์อยู่เรื่อยๆ ครับ ปล่อยทุกวันจันทร์ แต่อย่างน้องหมิวก็จะมีผลงานต่อไปในอีกเดือนนึงครับ”
ร้านอาหารให้พ่อแม่ดูแล
เอิร์ธ : “ใช่ครับ ช่วยๆ กันหมด อย่างตอนนี้ก็มีร้านอาหาร และร้านขนมร้านนี้ที่เปิดใหม่ pink & co. และเราก็มีทำรายการทีวีอยู่แล้วที่ทำเป็นหลักของที่บ้าน แล้วก็มีอีก 2-3 นี่แหละครับ สตูดิโอลงทุนไม่เยอะครับ เราลงสมองกันมากกว่า เราพยายามทำให้อยู่ในงบที่ไม่สูงมาก ถามว่า 8 หลักไหม ไม่ถึงครับ เล็กๆ ครับ”
เปา : “ทำด้วยใจเท่าที่ทำได้ เพราะว่าเราเองก็ไม่อยากทุ่มอะไรซะขนาดนั้น เพราะว่าเราเองยังมือใหม่ แค่อยากให้เพลงออกไปโดนใจคนฟัง และให้เพลงสักวัน เป็นเพลงแรกไปให้กำลังใจสำหรับทุกคนค่ะ”
เอิร์ธ : ”ติดตามได้ทางช่องยูทิวบ์ 222 official หรือพิมพ์คำว่าสักวัน ก็ได้ครับ”
เปา : “ของอาตั๊ก อันนี้เป็นเรียนเชิญมาร้องค่ะ ถ้าจะมาร้องอีกก็ดีเลยค่ะ”
เอิร์ธ : “ขึ้นอยู่กับอาตั๊กด้วยครับว่าเขาสนใจเพิ่มไหม เราก็พร้อมยินดีทำเลยครับ”
เปา : “แต่ตอนนี้เราก็ไปทาบทามอานุ้ย เชิญยิ้มแล้วนะคะ แต่อานุ้ยยังติดลีลา เรคคอร์ดอยู่ (หัวเราะ)”
ตกใจปล่อยเพลงทับซ้อนวงค็อกเทล ออกตัวไม่มีปัญหากัน
เปา : “เราก็ตกใจเหมือนกัน จริงๆ เป็นความใจตรงกัน ซึ่งก็เหมือนที่พี่ตั๊กให้สัมภาษณ์ไป ทางเราก็ไม่ทราบว่าเขามีฟีเจอร์ริ่งกับทางโน้น ทางโน้นก็ไม่ทราบว่ามามีเพลงกับเรา แต่ด้วยความที่หนูไม่ได้ซีเรียสอะไรเรื่องนี้เลย คิดว่าเป็นผลดีต่อคุณผู้ฟังมากกว่า เพราะว่าจะได้รับฟังทั้ง 2 เพลงเลย ซึ่งคิดว่าที่อาตั๊กรับงานเพราะเห็นว่าเป็นคนละแนวเพลงกัน คงไม่ชนกัน”
เอิร์ธ : “เราไม่มีปัญหาอะไรเลยครับ จริงๆ แล้วเราทราบว่าทางแกรมมี่จะออกวันที่ 14 แต่เราจะออกวันที่ 13 เพราะเป็นวันเกิดเอิร์ธพอดี เราก็เลื่อนไปก่อนเป็นอาทิตย์ถัดไป พอเราทราบอีกทีว่าเขาเลื่อนอีกเป็นอาทิตย์ถัดไป เราเลยขอกลับมาเป็นวันเดิมของเรา ถามว่าเคลียร์กันไหม จริงๆ แล้วไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยครับ มันแค่ทับวันเฉยๆ”
เปา : “หนูอยู่แกรมมี่อยู่แล้ว ร่วมงานกับแกรมมี่ได้ (หัวเราะ)”
เอิร์ธ : “ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันครับ แต่ทางเราก็ยังไม่ได้เจอพี่โอม”
เปา : “แต่ก็เจออาตั๊กแล้ว ตอนนี้ก็ไม่มีอะไร เพราะทั้ง 2 เพลง ได้ปล่อยมาเป็นที่เรียบร้อย คนละแนวด้วย”
ให้กำลังใจ “โอม ปัณฑพล ประสารราชกิจ”
เปา : “หนูก็เป็นกำลังใจให้เหมือนกัน เพราะว่าในช่วงที่เกิดเหตุการณ์นี้เราก็ตกใจ ว่าเกิดอะไรขึ้น เราก็เพิ่งทราบรายละเอียดเหมือนกัน พอเพลงเราปล่อย เราก็ลุ้นกับเพลงเราด้วย พอทราบวันที่ทางพี่โอมจะปล่อยเพลง เราก็ช่วยซัปพอร์ตด้วย ช่วยแนะนำว่าเดี๋ยวมีอีกเพลงหนึ่งนะ รอฟังกันด้วย”
ลั่นเรื่องลูก ทานยาบำรุง หาหมอแมะ ทำทุกศาสตร์แล้ว
เอิร์ธ : “เราก็ไม่ได้คุมอะไร ก็มีไปหาหมอ หมอก็บอกว่าปกติ เลยทานยาบำรุง มีไปหาหมอแมะ คือทุกศาสตร์ ทุกแขนง (ยิ้ม) ตอนมีข่าวว่าเขาท้องก็ไม่ตกใจนะ จริงๆ เปาก็เอารูปมาให้ดู มันก็แค่เสื้อผ้าที่พองๆ เลยดูเหมือนท้อง แล้วช่วงนี้เปิดร้านขนมก็เลยกินเยอะ ไม่ได้ถือเคล็ด 3 เดือน เพราะตอนนี้เปาก็ตรวจอยู่ ยังไม่มี ไม่ได้ถือเคล็ดอะไร ถ้าเกิดมีจะรีบบอก ไม่ปิด เพราะคุณพ่อก็รออยู่เหมือนกัน ถามทุกวัน กดดันทุกวัน เราก็คุยกันว่าจะยังไงดีเรื่องงาน แต่ว่าเปาเขาไม่อยากหยุดงาน เพราะถ้าหยุดงานก็เครียดกว่านี้อีกครับ”