“เอ พศิน” และอดีตภรรยา “แตงกวา” ตัดสินใจกลับมาใช้ชีวิตร่วมบ้านเดียวกันอีกครั้งเพื่อลูก ด้านแตงกวาเผยตอนนี้ตนได้กลายเป็นทอมไปแล้ว โวชีวิตครอบครัวมีความสุขกันดีในแบบผู้ชาย 3 คน
หย่าร้างกันมาได้2ปี ล่าสุด “เอ พศิน เรืองวุฒิ” และอดีตภรรยา “แตงกวา จิราพร” ก็กลับมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน เพื่อเติมเต็มความอบอุ่นให้ลูกชาย “น้องเลโก้” แถมแตงกวายังเซอร์ไพรส์ โพสต์สถานะตนเองตอนนี้ให้ทุกคนทราบว่าเธอกลายเป็นทอมไปแล้ว
แตงกวา : “สถานะคือเป็นพี่ชายคนหนึ่ง น้องสาวคนหนึ่ง ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันมานานแล้ว”
เอ : “ในทางกฎหมาย ก็เกือบ 2 ปีแล้ว แต่ในทางพฤตินัยเราก็ยังดูแลกัน เหมือนว่าการแยกกันทางกฎหมาย คือการคืนอิสรภาพในการตัดสินใจให้กัน ให้เกียรติในการตัดสินใจของเราทั้งสองฝ่าย แต่ว่าการดูแลกันมันเหมือนจะมากกว่าเดิม เราไปไหนมาด้วยกันบ่อยนะครับ โดยมีลูกไปด้วย มันมีภาพนี้โดยไม่ได้ปิด ก็ยังอยู่ด้วยกันมาตลอด เพราะว่าเรามีเป้าหมายเดียวกัน คือทำให้ลูกมีความสุข”
เผยต้องอยู่ด้วยกัน สงสารลูกหากใครคนใดคนหนึ่งหายไป
เอ : “ไม่เชิงแบ่งหน้าที่กันดูลูกครับ ในส่วนของศักยภาพของลูก คือแตงกวาเขาจะมองเห็น เขาอ่านลูกออกหมดเลย ลูกอยากร้องเพลง อยากวาดภาพ อยากทำอะไร เวลาปล่อยให้อยู่กับผม ผมไม่ค่อยรู้เรื่อง ไม่ค่อยรู้ใจลูก บ้านแตงกวาอยู่เพชรบูรณ์ บ้านผมที่เคยอยู่เป็นคอนโดอยู่ห้วยขวาง แต่บ้านเลโก้อยู่พระยาสุเรนทร์ ซึ่งเราอยู่ที่นั่นมาโดยตลอด ไม่มีใครออกไปจากบ้านเลย ยังอยู่ที่บ้านเดียวกัน งงใช่ไหม”
แตงกวา : “เหมือนเพื่อนค่ะ”
เอ : “เราก็เป็นพ่อ แต่มันไม่ใช่เรื่องของการทำหน้าที่นะครับ คำว่าหน้าที่ตัดไปเลย เพราะเราทำเพื่อเขา เราคุยกันว่าบ้านนี้บ้านลูกนะ เราอยู่เพื่อลูก ทำยังไงก็ได้ ให้เขามีความสุข อย่าให้เขาขาด แต่ถ้าเขาเกิน เราก็ต้องดูให้พอดี”
แตงกวา : “คือเอาตรงๆ เราต้องอยู่ด้วยกัน ถ้าคนใดคนหนึ่งหายไป ไม่สงสารลูกเหรอ ใช่ไหมคะ ลูกก็ต้องการพ่อต้องการแม่กันทุกคน”
เมื่อถามว่าทำไมไม่กลับมาคืนดีกัน ในเมื่อกลับมาอยู่บ้านเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ทั้งคู่แจงว่า....
แตงกวา : “มองในแง่ดีสิคะ ไม่ต้องมองในด้านไม่ดี พอมองด้านไม่ดีกันก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ ต้องโกรธกันใช่ไหม แล้วเราต้องมาเปลี่ยนความสัมพันธ์ แล้วทำความเข้าใจว่า นี่ต้องอยู่เพื่อลูกนะ เราทะเลาะกัน หรือเรามีปัญหากันที่เราต้องเลิกกัน คืออย่าให้ลูกขาด ต้องให้ความอบอุ่น เพราะแค่คนสองคนสร้างเลโก้ขึ้นมา สร้างลูกขึ้นมา เราอย่ามาทำลายเขาถูกไหม”
เอ : “เรื่องที่ไม่กลับมาคบกันมีทั้งเข้าใจถูก และเข้าใจผิด คือผมมีอาชีพเป็นนักแสดง เป็นคนสาธารณะ แต่ชีวิตของนักแสดงบางทีมันไม่สาธารณะ เพราะว่าเราเปิดเผยอะไรบางอย่างออกไป คนรู้ไม่ถูกต้องเขาก็มารอคอมเมนต์เราในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และเขาก็ไม่รู้ เราก็คุยกันว่าชีวิตเราต่อไปจะไม่สาธารณะแล้ว เพราะว่าความสุขของลูกเราจะเป็นสาธารณะ ก็คือทำให้เขามีความสุขที่สุด ไม่ต้องเก่งที่สุด ไม่ต้องดีที่สุด แต่เป็นเด็กที่มีความสุขที่สุด”
วอนอย่าโยงสาเหตุในเรื่องของความเชื่อในเรื่องทำให้มีผลต้องแยกกันอยู่
แตงกวา : “ไม่โยงดีกว่า”
เอ : “อันนี้มีคนเข้าใจผิดว่าผมนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์บางอย่าง แล้วทำให้ต้องอยู่เป็นโสด มันไร้สาระมาก มันเกิดจากความไม่เข้าใจ และก็เข้าใจไปเอง เขียนไปเอง ทำให้เกิดความเข้าใจผิด และเกิดเป็นบาปเป็นกรรม ก็ขอบอกไว้เลยว่ามันไม่เกี่ยว”
แตงกวา : “เหตุผลจริงๆ ไม่อยากพูดแล้ว เราพูดเยอะแล้ว เราอยากอยู่กับปัจจุบันแล้ว”
บอกอีกฝ่ายสามารถเริ่มต้นมีความรักใหม่ได้ แต่ต้องรักษากฎในการอยู่ร่วมกันให้ได้ เชื่อลูกเข้าใจ
แตงกวา : “ได้ นี่คือเรื่องส่วนตัว เราจะไม่ยุ่งเกี่ยวกัน”
เอ : “ทุกวันนี้เรามีเพื่อน เรามีสังคม แต่เวลาเรามีเพื่อนเราก็ปรึกษากัน ว่าอะไรยังไง ถ้าเพื่อนคนนั้นเป็นส่วนดีในชีวิตของเรากับลูกก็มาคุยกัน เราโอเพ่น และคนที่จะคิวซีทุกอย่างก็คือเลโก้”
แตงกวา : “มีแค่ 2 กฏค่ะ อย่างแรกคือต้องเข้าใจในความสัมพันธ์ และบ้านหลังนี้ก่อน ข้อที่สองคุณต้องเข้ากับลูก คุณจะมาเฟก ฉันรักเด็ก ไม่ได้อันนี้คือที่คุยกัน ก็อยู่กันไปอย่างนี้ค่ะ เพราะว่ายังไงคือลูกจะสับสน ไม่อยากให้ลูกขาด”
เอ : “เขายังเด็กมาก เด็กในเจนนี้ฉลาดและจะเข้าใจอะไรง่าย เขาอาจจะตัดสินใจอะไรแทนเราก็ได้ เราต้องรับฟังเขา เพราะเขาเป็นสมาชิกในครอบครัว”
แต่ตอนนี้ต่างคนต่างยุ่งกับงาน ยังไม่มีใครมีรักครั้งใหม่
แตงกวา : “ทุกคนก็ยุ่งแต่งานนะ ส่วนที่เขามาก็จะเป็นเพื่อนก่อน”
เอ : “เป็นเรื่องธรรมชาติ คนเราต้องมีเพื่อน ทุกวันนี้ เรายังเป็นครอบครัวของลูก เขายังเป็นแม่ ผมเป็นพ่อของลูก ไม่ใช่เรื่องทำหน้าที่นะ แต่มันเป็นเรื่องของความรัก เพราะฉะนั้นถ้ามีบุคคลที่ 4-5 เข้าต้องมาเป็นครอบครัวเรา ไม่ใช่มาสร้างปัญหา และเขาต้องรักลูกชายมากว่าเรา”
อนาคตรอให้น้องโตก่อน และให้เขาตัดสินใจเองว่าจะให้ครอบครัวเป็นเช่นไรต่อไป
แตงกวา : “ต้องรอวันที่เลโก้ตัดสินใจเองว่าจะยังไง”
เอ : “เราต้องการทัศนคติ และความคิดเห็นของลูกด้วย เพราเราคือครอบครัว แต่ละครอบครัวก็จะมีปัญหาไม่เหมือนกัน ผมว่าบางสิ่งที่สื่อรู้ หรือสื่อไม่รู้ บางทีอาจจะยังไม่ได้เปิดเผยก็ได้ ในบางครอบครัว เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว เพราะฉะนั้นเราก็คงต้องให้เกียรติเขา และให้กำลังใจเท่านั้นเองครับ”
โวตอนนี้ชีวิตครอบครัวมีความสุขกันดีในแบบผู้ชาย 3 คน
เอ : “มีความสุข ทุกวันนี้เขาค้นพบศักยภาพอะไรบางอย่างในตัวเอง จากที่เขาค้นหามานาน ไม่ใช่เรื่องของภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไปนะ ตอนนี้เริ่มหล่อ”
แตงกวา : “ไม่ได้ เราอยู่บ้านเดียวกัน เราต้องเข้ากันได้ คือผู้ชาย 3 คน ทุกวันนี้”
เอ : “แล้วเขาก็ถ่ายภาพเก่งมาก กำลังจะเบนเข็มเป็นช่างภาพ”