เดือดกลางศาล “ครูชลธี” ประจันหน้า “ครูปุ้ม” อดีตภรรยา เปิดฉากฉะกันแหลก ไกล่เกลี่ยเป็นวันแต่ไม่สำเร็จ บอกสนุกดีแต่เหนื่อย ลั่นเรื่องอะไรจะยอมอีกฝ่ายต้องการสมบัติทั้งหมด รวมถึงค่าลิขสิทธิ์เพลงของตน เชื่อมีคนคอยยุยง ย้ำอยากหย่าแต่ก็ยังอยากให้มาเผาผีกันอยู่ ไม่โกรธลูกแท้ๆ ที่เข้าข้างครูปุ้ม ยังไงก็ลูกในไส้ พร้อมยันไม่ได้หย่าเพื่อไปแต่งงานกับสาวคราวลูกที่ชื่อ “เกด”
ยืดเยื้อกันข้ามปี สำหรับปัญหาที่ “นายสมนึก ทองมา” หรือ “ครูชลธี ธารทอง” นักแต่งเพลงลูกทุ่งชื่อดัง วัย 83 ปี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องหย่า “ครูปุ้ม” นางศศิวิมล ทองมา อายุ 53 ปี ภรรยาที่อยู่กินกันมากว่า 30 ปี ก่อนแฉสนั่นว่าครูชลธีไปมีรักใหม่กับเด็กคราวลูกที่ชื่อ “เกด” น.ส.สกุลนัฐธิดา แจ้งประสงค์ อายุ 30 ปี จนเรื่องราวบานปลายอีรุงตุงนัง
ด้านครูชลธีได้ออกมาโต้กลับว่าไม่เป็นความจริง ความสัมพันธ์กับเกดเป็นแค่ครูกับศิษย์เท่านั้น พร้อมซัดตนเคยโดนครูปุ้มทำร้ายจนเลือดออกเป็นขันๆ เรียกว่าเปิดศึกสาดโคลนกันไปมา ก่อนที่สุดท้ายครูชลธีและครูปุ้มสามารถไกล่เกลี่ยกันได้ ครูชลธียอมถอนฟ้องไปเมื่อกลางปี 2562 แต่แล้วก็มาคุขึ้นมาอีกรอบ เมื่ออยู่ๆ ครูชลธีลุกขึ้นมาฟ้องครูปุ้มอีกรอบ โดยครั้งนี้เป็นการฟ้องหย่า แบ่งสินสมรส ขับไล่ส่งมอบทรัพย์สิน เพื่อหวังจะให้ทุกอย่างจบแล้วต่างคนต่างอยู่
โดยเวลา 09.00 น. วันนี้ (21 ต.ค. 63) “ครูชลธี” ได้เดินทางมายังศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยทนาย “ดนุเดช ศิริวงษ์ตระกุล” หลังศาลนัดสืบพยานโจทก์ โดยมีน้องเขยครูชลธี ซึ่งเป็นผู้เห็นบาดแผลที่ครูชลธีอ้างว่าโดนครูปุ้มทำร้าย นอกจากนี้ยังมี “นก บริพันธ์ ชัยภูมิ” นายกสมาคมนักเพลงลูกทุ่งแห่งประเทศไทย มาเป็นพยานฝ่ายโจทก์ เนื่องจากครูชลธีขอให้เจ้าตัวช่วยเป็นพยานให้ในฐานะที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนทั้งคู่ทะเลาะกันในงานคอนเสิร์ต 8 ทศวรรษตำนานแห่งสายน้ำ ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2561
แต่ปรากฎว่ามีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ “ครูปุ้ม” ได้บุกมาประจันหน้ากับครูชลธี ทั้งที่ศาลนัดให้ฝ่ายครูปุ้มมาสืบพยานจำเลยในวันพรุ่งนี้ (22 ต.ค.) โดยมี “ทนายธีระพงษ์ ปีตวัฒน์” ซึ่งเป็นทนายความส่วนตัวมาด้วย ทำเอาบรรยากาศระอุขึ้นทันที เมื่อครูปุ้มเปิดฉากฉะอดีตสามีหน้าห้องพิจารณาคดี ขู่ให้ถอยซะเพราะตนมีหลักฐานทุกอย่าง ก่อนจะมีการโต้เถียงกันเล็กน้อย จนต้องห้ามปรามเพราะกลัวจะเดือดไปมากกว่านี้ ศาลจึงให้ทั้งคู่เข้าไปไกล่เกลี่ยกันในห้องพิจารณาคดีแต่ตกลงกันไม่ได้ เป็นเหตุให้ศึกนี้ยาวนานมาราธอนหลายชั่วโมง กว่าศาลจะเริ่มสืบพยานฝ่ายโจทก์ได้ กระทั่งล่วงเลยมาถึงเวลา 18.30 น. จึงแล้วเสร็จ ปรากฎว่าไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ โดยวันพรุ่งนี้(22 ต.ค.) ศาลนัดสืบพยานจำเลย ซึ่งครูปุ้มต้องเดินทางมาศาลอีกครั้ง ขณะที่ “ครูชลธี” ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวล ยันไม่ได้หย่าเพื่อจะไปแต่งงานกับสาวรุ่นลูก
“วันนี้ก็สนุกดี เหนื่อยหน่อย เป็นการสืบพยานที่ทรหดมาก ตั้งแต่เช้ายันมืดเลย ก็เป็นเรื่องของการซักระหว่างสองทนาย ว่าต้นเหตุมันเป็นอะไรยังไง ก็สืบไป พยานของผมก็คือคนที่ยืนข้างๆ ผมนี่แหละ พยานคนสำคัญ (เห็นครูปุ้มมาที่ศาลด้วย ทั้งๆ ที่วันนี้ศาลไม่ได้นัด ทราบมาก่อนไหม?) ครับ ทราบว่าเขาต้องมา ก็ถามผู้รู้ เขาว่าจำเลยต้องมา เขาต้องมาสังเกตการณ์อยู่ดี เหมือนพรุ่งนี้เราก็ต้องมา เจอวันนี้ก็ไม่ได้ตกใจนะ
เมื่อเช้าก็โต้เถียงกันนิดหน่อยหน้าห้องพิจารณาคดี พอเป็นกระษัย (หัวเราะ) ก็เรื่องไม่รู้ใครถูกใครผิดอะไรอย่างนี้ เรื่องการไปโพสต์ในโซเชียล ซึ่งก็บอกเขาว่าไม่น่าไปโพสต์เลย เสียหายหมด เขาก็หัวเราะ เขาบอกไม่ได้เจตนา คุณไม่เจตนาแต่ฉันเสียหายนะ แต่ก็ไกล่เกลี่ยไม่จบ ไกล่เกลี่ยตั้งแต่เช้ายันบ่ายโมง ท่านพูดจังเลยผู้พิพากษา พยายามจะไกล่เกลี่ยให้ได้ ผมก็บอกว่า ท่านครับ ผมตั้งใจมาหย่า ไม่ได้ตั้งใจมาไกล่เกลี่ย หรือว่าเลิกรา จะมาหย่าโดยเฉพาะเลย ไม่ต้องไกล่เกลี่ยครับ เสียเวลาเปล่า คือผมอยู่ด้วยกันไม่ได้ก็คืออยู่ไม่ได้ คนอยู่ด้วยกันไม่ได้ก็ต้องแยกทางกันเท่านั้นเอง อย่าไกล่เกลี่ยเลยครับ ผมก็บอกท่านผู้พิพากษาตรงๆ“
บอกไกล่เกลี่ยไม่ลงตัวเพราะ “ครูปุ้ม” ต้องการทรัพย์สินทั้งหมดและค่าลิขสิทธิ์เพลงของตน ซึ่งยอมไม่ได้ เชื่อต้องมีคนยุยง
“เงื่อนไขของเขาที่ทำให้ตกลงกันไม่ได้ ก็สมบัติไง ทรัพย์สิน ไม่มีอะไรหรอก ต้องการทรัพย์สิน คือเราก็ยินยอมสุดๆ แล้วนะ ให้มากกว่าอยู่แล้ว เขาต้องการอะไรเราก็ให้มากกว่าอยู่แล้ว ส่วนแบ่งเราก็เอามาน้อยอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังไม่เอาอยู่ดี แต่เขาต้องการมากกว่า คือจะเอาทั้งหมดเลย จะเอาลิขสิทธิ์เพลงผม เรื่องอะไรล่ะ ผมแต่งมาตั้งแต่หนุ่มจนแก่ จะมาเอาไปทั้งหมดแล้วทำไงล่ะ เรื่องนี้ก็ยอมไม่ได้สิ ทำไมเขาต้องการทั้งหมดขนาดนั้น ก็ไม่รู้เขา ผมว่าเขามีแบ็กอยู่ข้างหลังมั้ง ก็เล่นตามบท (หมายถึงมีมือที่สามคอยยุยง?) ใช่ๆ ผมคิดว่าอย่างนั้นนะ จะใช่หรือเปล่าไม่รู้ ก็ไม่ว่ากัน
พรุ่งนี้นัดสืบพยานฝ่ายจำเลย ผมก็ต้องมาสังเกตการณ์ว่าเขาพูดยังไงกันบ้าง เราก็นั่งดู ตอนนี้ไม่กังวลหรอกครับ เพราะศาลคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ยุติธรรม ก็ว่าไปตามเนื้อผ้า ไม่กังวล ถามว่าทนายให้ความมั่นใจว่าเราจะชนะคดีหรือเปล่า ท่านไม่ได้บอกว่าชนะหรือไม่ชนะ ท่านก็ว่าไปตามรูปแบบของการว่าความ ก็ต้องรอทางผู้พิพากษาตัดสิน นั่นแหละคือท้าวมาลีวราช (หัวเราะ) ท่านจะว่าความยังไงก็รอท่าน”
ยืนยันขอหย่า และจะแบ่งทรัพย์สินให้ตามสมควร วอนหย่าดีๆ แล้วค่อยมาเผาผีกัน
“ถ้าถามส่วนตัวผมมั่นใจมาก เพราะจากการให้การ ให้ปากคำเท่าที่ทนายซักผม ผมก็พูดไปเยอะพอสมควร พูดตรงประเด็นกับทางท่านผู้พิพากษา ท่านก็บอกว่าหัวข้อที่จะทำให้หย่าร้างกันก็คือด่าถึงบุพการีอะไรอย่างนี้เป็นต้น แล้วก็ด่ารุนแรง ทำให้เสียเกียรติ เสื่อมเสีย ก็บังเอิญเรื่องพวกนี้อยู่ในใบว่าความพอดี คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันตรงพอดี ผมต้องการหย่า และแบ่งทรัพย์สินให้ตามสมควร แล้วก็หย่าขาดจากกันเลย ต่างคนต่างไป หย่ากันดีๆ แล้วค่อยมาเผาผีกันใหม่ อย่ามาอาฆาตมาดร้ายกัน”
ลั่นความสัมพันธ์ “เกด” แค่พี่น้อง ไม่คิดแต่งงานใหม่
“ก็ตามสายตาคนมองบางคนแหละ ไม่ใช่ทุกคนหรอก จริงๆ แล้วทุกอย่างไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอก ไม่ใช่ (ยืนยันว่าความสัมพันธ์กับเกดไม่ใช่เรื่องชู้สาว?) อันนี้ผมว่าดูกันเองก็รู้นะว่าไม่ใช่ ไม่มีปัญหาหรอกครับ ก็แล้วแต่ใครจะเข้าใจ แต่พวกเราอยู่กันอย่างพี่อย่างน้อง ข่าวที่ว่าหย่าแล้วจะไปแต่งกับเกด อันนี้นักข่าวเอาไปเขียนเอง ผมไม่ได้พูด ถามว่าจะไม่มีการแต่งงานใช่ไหม ไม่หรอก ตอนนี้ผมก็อยู่กับญาติของผม ก็ญาติผมทั้งนั้นแหละ พี่ๆ น้องๆ ที่ช่วยดูแล
พรุ่งนี้มันมีสืบจำเลย ผมก็ต้องมาสังเกตการณ์หน่อย เอาจริงๆ ผมไม่ต้องมาก็ได้ จากนั้นท่านจะตัดสินวันไหนก็ต้องรอหน่อย ส่วนเรื่องที่เขาจะพาลูกเรามาเป็นพยาน ก็ไม่ทราบครับ เพราะยังไม่ถึงพรุ่งนี้ และผมยังไม่ได้เจอลูกเลย ถามว่าน้อยใจไหมที่คนมองว่าลูกไปเข้าข้างเขา ผมไม่แปลกใจหรอก เพราะเด็กมันหัวอ่อน พูดยังไงมันก็ปลิวไปตามลิ้น ไม่แปลกใจหรอก เพราะลูกผมก็เป็นลูกผมอยู่ดี สายเลือดมันตัดไม่ได้ขายไม่ขาด เขาจะไปเป็นพยานให้ใครมันเรื่องของเขาครับ”
ด้าน “นก บริพันธ์” ผู้มาเป็นพยานให้กับครูชลธี เผยว่าที่ตนต้องออกโรงช่วยก็เพราะครูชลธีขอร้อง ยันมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง
“เมื่อสัปดาห์ก่อน ผมได้พบกับครูชลธี ธารทอง ในวันบันทึกเทปรายการ ชุมทางดาวทอง ที่สตูดิโอช่อง 7 ครูชลธีได้มานั่งปรับทุกข์ถึงกรณีฟ้องหย่าภรรยา โดยครูชลธีขอให้ผมที่อยู่ในที่เกิดเหตุช่วยเป็นพยานยืนยันว่าในวันงานคอนเสิร์ต 8 ทศวรรษฯ ปี 2561 นั้น ครูชลธีได้ถูกภรรยาชวนทะเลาะ ด่าทอต่อหน้าลูกศิษย์และศิลปินที่มาร่วมงานจริง ยืนยันว่าผมไม่ได้ออกโรงเพื่อมาปกป้องครูชลธีเพราะได้รับผลประโยชน์ใดๆ ลิขสิทธิ์เพลงที่นำมาใช้ในรายการผมก็จ่ายค่าลิขสิทธิ์เต็ม
สำหรับเรื่องของครูชลธี ผมแยกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งคือหน้าที่การงาน ครูชลธีท่านมีความสามารถด้านการแต่งเพลง จนได้รับเกียรติการยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ เป็นครูเพลงที่ลูกศิษย์ศิลปินเคารพรัก ท่านไม่ควรถูกด่าทอทำร้ายร่างกายในที่สาธารณะ ซึ่งถ้าเป็นเหตุสามีภรรยาด่าทอทะเลาะกันที่บ้านผมจะไม่ยุ่งเลย
ส่วนสองคือความรัก ผมไม่ได้ยุให้สามี-ภรรยาเลิกกัน แต่เมื่อหมดรักไม่อาจจะอยู่ร่วมกันได้แล้วก็ควรให้อิสระต่อกัน ส่วนการเจรจาแบ่งทรัพย์สินนั้นผมไม่ขอยุ่ง ปล่อยให้เป็นเรื่องของทั้งสองท่านที่จะตกลงกัน”