“หนิง ปณิตา” ลั่นยังไม่ได้รับหมายศาลจาก “ไฮโซแชมป์” บอกไม่รู้ฟ้องจริงไหม เพราะเห็นแค่ตามข่าว แต่ถ้าฟ้องตนก็พร้อมชี้แจง เผยถอนฟ้องคดี “ไฮโซน้ำหวาน” น้องสาวฝ่ายชายหมดแล้ว พัวพัน 8 ปีปลดล็อกในใจ
เป็นคนที่มีเรื่องพัวพันเป็นคดีความสองพี่น้อง “ไฮโซแชมป์ จิรัฏฐ์ เพชรนันทวงศ์” และ “ไฮโซน้ำหวาน วรพรรณ พันธุ์คงชื่น” สำหรับผู้จัดสาว “หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ” ที่เพิ่งเคลียร์คดีกับฝั่งน้องสาวจบ ไม่ทันไรก็มีข่าวว่าหนิงเป็นหนึ่งในรายชื่อที่ไฮโซแชมป์จ่อฟ้องกรณีพูดพาดพิงถึงข่าวคดีเอาแก้วฟาดหน้า “รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น” ซึ่งพอได้เจอสาวหนิง เจ้าตัวก็เผยว่ายังไม่ได้รับหมายศาลใดๆ และไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะฟ้องจริงหรือเปล่า เพราะเห็นแค่ตามข่าวเท่านั้น
"คือจริงๆ หนิงต้องเรียนแบบนี้นะคะที่มีการนำเสนออะไรก็แล้วแต่ เราก็ไม่แน่ใจหรอก เอาแบบนี้ทางคุณแชมป์เองเขาก็ไม่ได้ออกมาพูดว่าเขาจะฟ้องใคร เขาไม่ได้ออกมาสัมภาษณ์หรืออะไร มันเป็นข่าวที่ถูกเขียนขึ้นมา ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วทางคุณแชมป์ได้ทำแบบนั้นแล้วหรือเปล่า ในส่วนหนิงเองก็ยังไม่ได้รับหมายศาลหรือหมายเรียกอะไรนะคะ
ถ้าถามว่ามีการคุยกับเพื่อนๆ ที่มีลิสต์รายชื่อไหม ก็มีการคุยกันนะคะ แต่ในดีเทลก็ยังไม่ได้มีใครเห็นหมาย ตรงนี้ก็เลยไม่รู้ว่าเรื่องจะเป็นยังไง แต่ถ้าหมายส่งมา เราก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่จะต้องทำ ต้องไปชี้แจง เราต้องทำให้ถูกต้องตามขั้นตอนอยู่แล้ว คงไม่ได้จะหนีหรืออะไรหรอกค่ะ"
บอกตนได้ถอนฟ้องคดีแพ่งทั้งหมดกับ “ไฮโซน้ำหวาน” ไปหมดแล้ว
“ถามว่าจุดไหนที่เขาจะฟ้องเรา มันอาจจะด้วยความที่เราทำงานอยู่ในวงการ ก็มีการอ่านข่าว มีการเล่าข่าว เอาจริงๆ ตรงนี้เราก็ยังไม่ได้ยินจากปากทางคุณแชมป์เอง หนิงเลยคิดว่าน่าจะยังไม่มีอะไรสำหรับตัวหนิงเองนะคะ ต้องบอกว่าเรื่องของคดีความมันมีเรื่องพัวพันกันมาตั้งแต่ 8 ปีที่แล้วอยู่แล้วกับคุณน้ำหวานเองนะคะ และวันนี้หนิงกับคุณน้ำหวานเองก็เคลียร์กันจบแล้ว คดีความทั้งหมดมันมีตั้งแต่เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ซึ่งล่าสุดก็มีการขึ้นในส่วนของศาลอาญา ได้ตัดสินเรียบร้อยแล้ว และมีขึ้นในส่วนของศาลแพ่ง ส่วนเรื่องผลสรุปก็คือหนิงถอนฟ้องทั้งหมดค่ะ
ถามว่าทำไมถึงถอนฟ้อง หนิงว่าสำหรับตัวหนิงเองมันมีเรื่องราวที่ทำให้เวลาที่เราจะต้องขึ้นศาล หรือจะต้องมานั่งปวดหัวกับเรื่องอะไรก็ตามที่ผ่านไปแล้ว มันเหมือนเป็นพลังงานลบที่อยู่ในใจเรา และวันนี้เราโตขึ้น เราเป็นแม่คน เราต้องสอนลูก ต้องดูแลน้องๆ มันมีอะไรหลายอย่างที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราอยากหลุดจากสิ่งเหล่านี้
จริงๆ ถ้าพูดมันก็จะดูเหมือนนางเอก เหมือนนางฟ้า คือมันไม่ได้ง่ายหรอกนะที่จะทำให้ทุกอย่างมันหลุดไปจากสิ่งเหล่านี้ที่เราเคยเจอมา แต่พอเราปลดล็อกมัน ความรู้สึกเราก็คือมีความสุข สบายใจ เรื่องมันผ่านไปแล้ว มันถูกตัดสินไปแล้ว มันไม่จำเป็นต้องมาเอาถูกเอาผิดกัน สุดท้ายมันก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมากับชีวิต แต่พอมันปลดล็อกไป ก็ทำให้รู้สึกว่าตัวเราก็สบายใจ เจอหน้าคุณน้ำหวานเองก็รู้สึกสบายใจ
หลังจากนี้ก็สามารถพูดคุยกันได้ค่ะ เพราะเมื่อวันที่เคลียร์กันก็เป็นอะไรที่จบลงด้วยดีทั้งสองฝ่าย ถามว่า ณ วันนี้ไม่ได้ติดใจทางฝั่งเขาแล้วใช่ไหม สำหรับตัวหนิงเอง หนิงมีจุดที่รู้สึกว่าบางอย่างหนิงยังติดใจ แต่ในส่วนที่หนิงติดใจทางน้ำหวานเองเขาก็ได้ทำให้หนิงมีความรู้สึกว่าหนิงสบายใจ พอหนิงสบายมันก็ทำให้อะไรที่อยู่ในใจเหมือนปลดล็อก ทั้งหมดทั้งมวลหนิงต้องบอกว่ามันก็ใช้เวลาเนอะ แต่พอมันปลดไปได้ก็รู้สึกว่ามันคือดี มันคือดีสำหรับเราด้วย ดีสำหรับทุกๆ ฝ่ายด้วย"
บอกตนไม่อยากมีเรื่องอะไรให้ต้องติดใจกันอีกแล้ว
"คือหนิงต้องบอกว่าไม่มีใครหรอกที่จะมาอยู่ในวังวนตรงนี้ มันไม่ใช่แค่ตัวเราที่ทุกข์ คนรอบข้างเราก็ทุกข์ไปด้วย และที่สำคัญคือเอาชนะกันขึ้นมาแล้วมันได้อะไร แล้วมันก็เอาชนะกันไปเรื่อยๆ มันกลายเป็นว่ายิ่งผูกความแค้น ผูกความอยากจะเอาชนะเข้าไปเยอะๆ แต่ถ้าเราสามารถปลดออกมาได้ ถามว่าต้องใช้เวลาไหม มันต้องใช้เวลา มันก็มีกระบวนการต่างๆ ที่เป็นดีเทล แต่ขออนุญาตเรื่องส่วนตัวไม่พูดแล้วกันว่าเป็นเพราะอะไร แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่ทำให้เราตัดสินใจแบบนี้เลยก็คือลูกเรา วันนี้เราเป็นแม่คนเนอะ เราจะสอนลูกเราในอนาคตยังไง เราก็เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเขาก่อน
ถ้าในอนาคตมีหมายศาลจากฝั่งคุณแชมป์เข้ามา เราพร้อมรับมือสู้ไหมเหรอ เอาจริงๆ วันนี้อย่าใช้คำว่าจะสู้กันเลยดีกว่า ถ้ามันเกิดอะไรขึ้น เราก็ดำเนินการในส่วนที่เราดำเนินการและชี้แจงในส่วนที่เราต้องชี้แจงดีกว่า คงไม่ถึงขั้นจะไปเอาชนะกันแบบเขาฟ้องมาจะฟ้องกลับ คือไม่ ถ้าเขาฟ้องมา เราก็แค่ชี้แจงและดำเนินการในส่วนของเราแค่นั้นพอ ส่วนสายตรงโทร.ไปถามเลยไหมก็ไม่เป็นไรค่ะ ถ้ามีโอกาสเจอกันก็คุยกันดีกว่าค่ะ"
