"ต่อ ธนภพ" เผยเบื้องหลังช็อตแซ่บ ต้องเพิ่มน้ำหนักถึง 12 กิโล เปลี่ยนไซส์เสื้อผ้าแค่ท่อนบน รับไถทวีตฯ นั่งอ่านทุกความคิดเห็น บอก "พี่แอฟ ทักษอร" กังวลฟีดแบ็ก ห่างละครนานถึง 8 ปี
แค่อีพีแรกก็ถูกใจแฟนๆ แล้ว สำหรับ "ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร"กับละครขอเกิดใหม่ใกล้ๆ เธอ แสดงคู่ "แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ"โดยเฉพาะช็อตแซ่บหนุ่มต่อต้องอวดเรือนร่างโชว์กล้าม ทำสาวๆ กรี๊ดกระจาย งานนี้เจ้าตัวเปิดใจว่าประทับใจมากๆ กับฟีดแบ็กที่ได้ แม้จะมีทั้งคำชมและคำติก็ตาม
“สนุกดีครับ เป็นตอนแรกที่ประทับใจ เพราะผมนั่งอยู่ทั้งหน้าจอทีวีและหน้าจอโซเชียลไปพร้อมกับแฟนๆ จริงๆ แล้วผมต้องดูอยู่กับพี่แอฟนะเมื่อวานแต่เรากลัวว่าจะทวีตฯ อะไรไม่ทันเขา เลยกลับบ้าน”
ขอบคุณแชร์ช็อตอวดหุ่นกระจาย รับเพิ่มน้ำหนัก 12 กิโลเพื่อเรื่องนี้
“ขอบคุณช่องวันครับ ไม่รู้จะพูดยังไงเลย จริงๆ ไม่ใช่แค่โปรเจกต์ละครขอเกิดใหม่ใกล้ใกล้ๆ เธอ เป็นโปรเจ็กต์ภาพยนตร์ด้วย ผมเพิ่มน้ำหนักขึ้นมา 12 กิโล ด้วยคาแรกเตอร์จำเป็นที่จะต้องขึ้นไปที่ตัวเลขนั้น ด้วยงานแสดงในปีนี้ เมื่อก่อนหนัก 60 กิโล ตอนนี้ 72 กิโลมันขึ้นจากออกกำลังกาย ไม่ได้ขึ้นจากกินอะไร และโชคดีที่ได้หยุดช่วงมีสถานการณ์ ตรงนั้นทำให้ถึง 12 กิโล
เราเล่นเองที่บ้านครับ เรื่องกินผมเป็นคนเผาผลาญเยอะอยู่แล้วเลยไม่ต้องเลือก เรื่องออกกำลังกายผมก็เล่นอยู่ไม่กี่ชิ้น ก็มีห้องอยู่ที่บ้าน ถามว่าใช้เวลาเท่าไหร่กับ 12 กิโล ไม่ถึงเดือนครับ ผมว่าเรามีจุดหมายที่เราต้องทำเวลาเลยไม่ใช่ปัญหาขนาดนั้น เราตั้งใจจริงๆ ช่วงนั้นผมไม่หยุดเลยแม้วันที่เราปวด มันคอนตินิวมาจากโปรเจกต์ภาพยนตร์ ปลายทางคือ 12 กิโลแต่ระหว่างถ่ายน้ำหนักต้องค่อยๆ ไล่ขึ้น"
เปลี่ยนไซส์เสื้อผ้าแค่ท่อนบน
“เสื้อผ้าเปลี่ยนแค่ครึ่งบน ครึ่งล่างไม่ (น้ำหนักอยู่ข้างบน?) ข้างล่างก็หนัก (ยิ้ม) กางเกงเท่าเดิม แต่สูทยกทั้งแผง ใส่ไม่ได้แล้ว เหมือนไหล่หนาขึ้น”
ไถทวิตเตอร์แล้วชื่นใจ หายเหนื่อย
“ไถทวิตเตอร์ดูแล้วชื่นใจมาก มันก็ไม่ได้มีแต่ผมถอดเสื้อ มีพี่แอฟ หมอเน๋ง (ศรัณย์ นราประเสริฐกุล) ริชชี่ (อรเณศ ดีคาบาเลส) ต้องขอบคุณแฟนๆ เจอในทวิตเตอร์บอกว่ามันเป็นการรวมของแฟนคลับของหลายๆ คน มันพลังมาก ขอบคุณทุกคนมากมัน made my day ทำให้คนทำงานอย่างเราหายเหนื่อยมีกำลังใจทำต่อต่อให้เราจะรู้แล้วว่าเราไม่ได้ทำแล้วมันออกมาดีที่สุดเนื่องจากไม่ว่าจะงบประมาณหรือเวลาที่เรามีอยู่จำกัดแต่เราเชื่อว่า ที่มันออกมาเราทำเต็มที่ตามสิ่งที่เรามีแล้ว”
รับ "แอฟ" ไม่มั่นใจกับละครเรื่องนี้ เพราะห่างละคร 8 ปี ยินดีกับวันนี้
“วันก่อนออนวันหนึ่ง เขาก็พูดว่าเขาไม่มั่นใจ เราก็พยายามให้กำลังใจเขา เราเป็นพาร์ตเนอร์คุณนะ เราเชื่อว่าคุณจะกลับมา แล้ววันนี้ก็มีบอกไปว่า welcome back แบบยินดีด้วย สู้กันต่อเรายังถ่ายไม่เสร็จ ถามว่าเขากังวลเหมือนกันไหม คือผมว่ามันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้คือ 8 ปีครับ อย่างผม ผมยังตื่นเต้นเลยคิดถึงพี่แอฟแล้วน่าจะตื่นเต้นสุดๆ ไปเลย
ผมว่าความกังวลมันมี แต่ผมไม่รู้สึก เพราะผมไม่เคยทำงานกับเขามาก่อน เพราะฉะนั้นจะไม่รู้ปกติธรรมชาติว่าเวลาพี่แอฟทำงานจะประมาณไหน แต่ผมรู้ว่าเขาน่าจะผ่านความเครียดความกดดันอะไรกับตัวเองมาเยอะแล้ว”
ลั่นเปิดตัวกระแสดี แต่ยังวางใจไม่ได้
“วางใจอะไรไม่ได้เลย สำหรับผมเปิดตัวดีไม่ได้แปลว่าดี สุดท้ายแล้วจะบอกว่าพวกผมเป็นแค่คนทำ เราวัดเกณฑ์อะไรไม่ได้เลยว่าสิ่งนี้จะดีจริงๆ ไหม คนดูจะชอบไหม เพราะสุดท้ายวันนี้ที่กระแสตอนแรกมันดีไม่ใช่เพราะพวกเรามันเพราะคนดูมากกว่าสิ่งที่อยากขอบคุณที่สุดคือคนดูทั้งแฟนในประเทศ แฟนต่างประเทศยอมมาดูแบบไม่รู้เรื่อง แต่ละซีนไม่ปล่อยผ่าน ผมก็จะมีความเชื่อในแบบตัวเองเวลาแสดง เราอยากสู้เพื่อตัวละครตัวเองเพราะเราอยากให้ออกมาดีจริงๆ”
ยิ่งถูกวิจารณ์เรื่องซีจียิ่งขอบคุณ
“ขอบคุณมากครับ ยิ่งทุกคนพูดถึงเรายิ่งขอบคุณ เราบอกแล้วว่าเรารู้ว่าสิ่งที่เราทำมันไม่ใช่ 100% แล้วทุกคนไม่รู้หรอกว่า เบื้องหลังกองถ่ายจากสถานการณ์ต่างๆ ที่เราเจอ เราผ่านกันมาแล้วโดนอะไรบีบกันบ้างแต่เราขอบคุณจริงๆ มันดีแล้วมันดีกว่าที่สิ่งที่ออกมามันไม่ดีแล้วคุณบอกว่าดี เราเสียใจนะ
เรื่องพลาดตอนนี้ยังไม่ได้คุย เพราะว่าวันนี้พี่สันต์ (สันต์ ศรีแก้วหล่อ) น่าจะไปถ่ายอีกเรื่องหนึ่งเดี๋ยวน่าจะได้คุยกันวันจันทร์ที่ได้เจอ จริงq ขอบคุณทุกคอมเมนต์ทุกอย่างทุกความเห็น ผมชอบอย่างหนึ่งเจอคนรีวิวความรู้สึกตัวเอง พอดูจบปั๊บแล้วก็มานั่งพิมพ์ว่าวันนี้เป็นยังไง เอาจริงๆ ผมชอบอ่านมากเลย ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีมันคือผลพลอยได้ของผมทั้งหมด เพราะดีเราก็ชื่นใจ ถ้าไม่ดีก็ขอบคุณมากเพราะคุณกำลังบอกให้เราแก้”
ไถทวีตฯ ดูคำติชมด้วยตัวเอง
“วันนี้ด้วยตัวเองหมด เพราะมันเป็นแอคเคาต์ที่ผมพิมพ์เล่นด้วยกันกับผู้จัดการ จริงๆ หลายๆ application หลังๆ จะเริ่มเล่นผู้จัดการเพราะมันยากเหมือนกัน
ส่วนที่จิ้นกับหมอเน๋ง เอาจริงๆ นะผมว่าถ้าไปคุยกับพี่หมอ พี่หมอก็น่าจะช็อกเหมือนกันเพราะว่าตอนถ่ายเราก็ไม่ได้รู้สึกกันขนาดนี้แต่เข้าใจเลยเพราะเราเห็นภาพแล้ว เออ..เพราะอะไรอันนี้เป็นสิ่งที่นอกเหนือความรู้สึกนักแสดง เข้าใจแล้วเพราะมีโอกาสได้คุยกับพี่หลายคนที่เขาดูเทปนี้บอกว่าชอบแก๊งเพื่อนนี้ ทั้ง ริชชี่ ทั้งพี่หมอ ยิ่งพอพวกเราต่างกันเจอกันมันยิ่งสนุก ไม่ได้คิดว่าจะมีมุมจิ้นได้ เป็นมุมใหม่ๆ ของผมเหมือนกัน”