“พีช พชร” เปิดใจ รักหวาน “มินนี่” หมวยอินเตอร์ ไม่อยากลงรูปให้หวือหวา ขอสวีตแบบไพรเวต บอกเปิดมาเยอะ เจ็บมาเยอะ โลกไม่จำเป็นต้องรู้ ฟุ้งพาเจอครอบครัว เขาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปแล้ว เผยถอนตัวจากละครคู่เวร ทั้งที่ฟิตติ้งไปแล้ว เพราะตัวละครไม่ตรงกับที่คิด มั่นใจมีคนที่ดีกว่า
เพิ่งจะเปิดตัวรักหวานก่อนเจอโควิด สำหรับ “พีช พชร จิราธิวัฒน์” กับนางแบบหมวยอินเตอร์ “มินนี่ ภัททิยา วัชรอำนวย” ที่มีผลงานทั้งบนรันเวย์แบรนด์ใหญ่อย่าง Asava , Vatanika, Milin นอกจากได้ร่วมงานกับแบรนด์ชั้นนำในประเทศแล้วยังรวมถึงแบรนด์ระดับโลกอีกมากมาย อาทิ Chanel, Louisvuitton โดยในงาศิลป์ I SEE YOU เพื่อน้องมูลนิธิเด็กโสสะฯ (งานประมูลศิลปะ ของคนในแวดวงศิลปะและบันเทิง) เพื่อนำทุนทรัพย์สนับสนุนมูลนิธิเด็กโสสะฯ พีช เปิดใจว่า รักชอบใครไม่ใช่เรื่องผิดบาป ตนจะมีความสุขก็ไม่แปลก ก่อนลั่นไม่อยากเปิดตัวให้หวือหวาอีกแล้ว โลกไม่จำเป็นต้องรู้
“หัวใจตอนนี้ก็ดีครับ ผมว่าแฮปปี้ดีนะ เหมือนเดิม ผมไม่รู้ว่าเยอะน้อยยังไง แต่มันก็แฮปปี้แหละ ส่วนที่ไม่มีรูปคู่ ผมว่าบางอย่างมันอยู่เป็นไพรเวตมันก็ดี ถ้าพลับบลิคไปมันก็ลำบาก คือถ่ายรูปก็ถ่ายแหละ แต่เราก็ไม่ได้ลง ถ้าถามว่าทำไมรักครั้งนี้ถึงดูเงียบๆ ผมก็อยากมีชีวิตในแบบของผม แล้วผมรู้สึกว่าอะไรที่มันเกิดขึ้น หรือเหตุการณ์ที่ผ่านๆ มา ที่มันเกิดขึ้น เราก็ไม่ได้อยากจำ ผมเลยรู้สึกว่าอย่าไปมีอะไรที่มันลำบากเลยดีกว่า มีความสุขแบบของตัวเองก็พอ ผมก็ใช้ชีวิตปกติของผม นักแสดงก็เป็นอาชีพหนึ่ง เราเลิกงาน เราก็มีชีวิตส่วนตัวของ ก็ยังไปไหนมาไหนปกติครับ ไม่ได้เป็นเรื่องปกปิดนะ มันไม่ใช่เรื่องผิดบาป คนเราจะชอบกัน จะมีความสุข มันไม่ใช่เรื่องแปลก ผมว่ามันก็เป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะมีแหละ
คบกันยังไม่ถึงปีครับ ก็เริ่มแป๊บหนึ่งแล้วเจอโควิดกระทืบเลยครับ (หัวเราะ) อะไรประมาณนั้น แต่ครึ่งปีที่ผ่านมามันก็โอเค ก็แฮปปี้แหละ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลยนะ ไม่เคยต้องมานั่งวุ่นวายทะเลาะอะไรมาก ชิลมาก ผมถือว่าแบบนี้แหละ แฮปปี้แล้วแหละ”
ยันไม่ได้ปิด แต่ไม่อยากลงรูปให้มีดรามา ขี้เกียจต้องทะเลาะกับใคร เหนื่อย
“คือผมไม่ได้ปิดไง ใครจะเห็นก็เห็น อะไรก็ได้ แต่เรารู้สึกว่าพอลงแล้วมันก็จะต้องดรามาโน่นนี่ เดี๋ยวก็มีคนคอมเมนต์อีก แล้วก็จะมีเหตุการณ์ต่างๆ ตามมา เป็นข่าวเยอะแยะไปหมด คือยังไม่โดนนะ แต่ผมรู้สึกว่าเดี๋ยวมันก็จะตามมา เหตุการณ์แบบนี้มันก็จะเกิด เราอ่านข่าวดาราเราก็เห็นดาราหลายคนแฮปปี้ก็แฮปปี้ พอเลิกก็ต้องมานั่งทะเลาะกัน เราเองก็ผ่านมา เราก็ขี้เกียจมานั่งทะเลาะกับใครแล้ว เหนื่อย (ประสบการณ์ที่ผ่านมามันสอนเราไหม?) ผมว่าผมก็คงโตขึ้นแหละมั้ง ก็แฮปปี้ในแบบของผมแล้ว”
เปิดมาเยอะ เจ็บมาเยอะ ไม่จำเป็นที่โลกต้องรู้
“อือ เปิดมาเยอะ ตอบมาเยอะ (ยิ้ม) เขาก็ไม่ได้ซีเรียสไง ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่โลกจะต้องรู้ขนาดนั้น สำหรับผม ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ คือเรารู้ คนอื่นรู้ คนรอบข้างรู้ โอเคแล้ว ถามว่าขาน้อยใจไหม ผมว่ามันต้องเหมือนกันนะ ถ้ามางอนว่าทำไมเธอถึงไม่ลงรูปฉัน ซึ่งเราแฮปปี้กันอยู่แล้ว”
พาเจอครอบครัวแล้ว เป็นส่วนหนึ่งในชีวิต
“ก็ใช้ชีวิตปกติแหละ ก็เจอ เขาก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเราไง ไปไหนมาไหน ที่บ้านเขาก็ไม่ได้คอมเมนต์อะไรนะ คุณแม่ก็ชิลๆ เรื่อยๆ เปื่อยๆ ไม่มีอะไรดรามา คืออินสตาแกรม ไม่ใช่สาระสำคัญในชีวิตผม สำหรับผมนะ ผมรู้สึกว่าโซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตผมแล้ว แค่นั้นเอง มันก็แค่ลง บางอย่างเราอยากแชร์ให้คนอื่นรู้ว่าฉันทำอะไรอยู่นะ ฉันออกกำลังกายนะ ฉันก็เลยถอดเสื้อนะ (หัวเราะ)”
ปัดโชว์เก่ง แค่อยากอวดสักหน่อย ข่มผู้กำกับ
“ไม่เก่งเลย รอบที่แล้วนานเหมือนกันนะ ก่อนโควิดอีกนะ ตอนนี้ฟิตแล้ว กองถ่ายเริ่มกลับมาทำงานแล้ว เราก็มีโปรเจกต์ที่เราต้องรับผิดชอบแล้ว ฟิตแล้วก็อวดสักหน่อย ข่มให้ผู้กำกับเห็นว่าเราพร้อม ฟิตมาแล้วก็รู้สึกสุขภาพดีขึ้นเยอะเลย ร่างกายเราพร้อมทำงานแล้ว พอคนเข้ามาแซวเราก็รู้สึกดี ว่าแบบสิ่งที่เราทำอยู่มันถูกต้อง การออกกำลังกายของเราเนี่ยเวิร์ก ซิกแพ็กมันขึ้น ถ้าออกแล้วไม่ขึ้นเนี่ย แปลก”
เฉไฉไม่ตอบ ฟิตหุ่นเพื่อละครรากแก้ว แค่เตรียมตัวให้พร้อม
“ใช่ครับ (ใช่เรื่องรากแก้วหรือเปล่า?) ไม่รู้ เหรอ ใช่เปล่า ไม่บอก เราก็ต้องเผื่อเตรียมความพร้อมไง มันก็เป็นตามคาแรคเตอร์ที่เราอยากให้มันเป็น แล้วมันมีผลต่อเสื้อผ้าของตัวละคร แล้วมันก็มีผลกับซีนบางซีน ถ้าเกิดว่าเขาไม่ได้เขียนว่าถอดเสื้อ แต่เวลาถ่ายแล้วเรารู้สึกว่า เดินมาจากห้องน้ำ เพิ่งอาบน้ำเสร็จ อาจจะไม่ได้ใส่เสื้อออกมาหรือเปล่า เราก็จะมีอิสรภาพในการเล่นมากขึ้นกว่าเดิม ผมว่าเป็นนักแสดงก็ต้องเตรียมความพร้อมเพื่อตัวเองมากที่สุดแหละ”
เผยถอนตัวจากละครคู่เวร ทั้งที่ฟิตติ้งไปแล้ว เพราะตัวละครไม่ตรงกับที่คิด คิดว่ามีคนที่ดีกว่า
“เหตุผลตามที่พี่คิง (สมจริง ศรีสุภาพ) บอกเลยครับ พอทำงานด้วยกันแล้วเรารู้สึกว่าตัวละครไม่ตรงกับไดเร็กชั่นที่เราคิดว่าเป็น เหมือนเราทดลองแล้วไม่ตรงกับทางทีมที่อยากได้ เราก็เลยรู้สึกว่าน่าจะมีคนที่ดีกว่าแหละ เคลียร์เรียบร้อยครับ ไม่ได้เป็นเรื่องทะเลาะอะไรกันเลยครับ ผมว่ามันก็เกิดเรื่องแบบนี่ได้บ่อยแหละ บางทีพอเราเริ่มทดลองทำงาน แล้วตัวละครกับเราไม่เหมาะกันจริงๆ ก็เปลี่ยนครับ
ผลงานปีนี้เดี๋ยวจะมีถ่ายแล้วครับ แต่ผมคิดว่าคงไม่ทันดูปีนี้ น่าจะได้ดูกันปีหน้า ละครมี 1 เรื่องครับ เพราะอยากถ่ายทีละอัน ส่วนหนังก็มีโปรเจกต์คุยอยู่ครับ แต่ยังไม่เรียบร้อย”
กลัวโควิดมาก ไม่กล้าออกจากบ้าน หวั่นติดแล้วคนในบ้านจะซวย
“กลัวมากครับ คือเราไม่ได้กลัวเราเป็นนะ แต่กลัวคนอื่นเป็นมากกว่า คือเราไม่อยากไปติด เพื่อไปติดคนอื่น มันก็จะเป็นปัญหาไปอีก คือผมวิตก สมมติว่าผมไปหาคุณปู่ แล้วผมไม่รู้ตัวว่าผมเป็น แล้วไปทำให้เขาเป็น ซวยเลยนะ เราก็อยากดูตัวเอง เพื่อดูแลคนรอบข้าง ผมก็ไม่ค่อยไปไหน ทำงานอยู่บ้าน”