เข้าเส้นไปแล้ว “เคน” คลั่งต้นไม้หายาก หาซื้อทั่วประเทศ 300 ต้น ขนาด “เอสเธอร์” ยังสะพรึง แต่ไม่ห้าม แม้ราคาสูงถึง 3 แสน โวฝรั่งขอซื้อ เป็นที่ต้องการของตลาดโลก ยังตัดใจขายไม่ลง แย้มเตรียมแหวนแต่งงานไว้เซอร์ไพรส์แล้ว มั่นใจต้องเป็นคนนี้
กลายเป็นอีกคนที่หลงเสน่ห์ต้นไม้ไปเรียบร้อย สำหรับพระเอกหนุ่ม “เคน ภูภูมิ พงศ์ภาณุภาค” ซึ่งเจ้าตัวเผยถึงเรื่องนี้ในงาน JD CENTRAL จับมือ Xiaomi เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด POCO X3 NFCณ คริสตัล บ็อกซ์ ชั้น 19 อาคารเกษรทาวเวอร์ บอกว่าลงทุนถึงขั้นสร้างเรือนเพาะชำไว้แล้ว เพราะมีมากถึง 300 ต้น ด้านแฟนสาว “เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา”ที่ร่วมลงทุนด้วยก็เห็นชอบ ไม่ได้ว่าอะไร
เอสเธอร์ : “ตั้งแต่มีโควิดก็ไม่ได้ออกงานเลยค่ะ ก็เพิ่งกลับมาถ่ายละครตามปกติค่ะ”
เคน : “แต่งานคู่วันนี้คือว่างตรงกันพอดีครับ และวันนี้น้องไม่มีถ่ายละครก็เลยได้ครับ แต่ช่วงโควิดที่ผ่านมาก็เจอกันบ้าง ไม่เจอบ้างครับ ได้ไปทำอย่างอื่นมากกว่า”
เอสเธอร์ : “ไปดูต้นไม้ตามสวนค่ะ”
เคน : “แต่ตอนนี้ผมอินกว่าแล้วครับ ตอนนี้ออกไม่ได้แล้ว (หัวเราะ) มันเข้าเส้นไปแล้วครับตอนนี้ ถ้าใครที่ได้เริ่มปลูกต้นไม้หรือเริ่มเก็บสะสมต้นไม้ มันอธิบายยาก มันเหมือนหลงเข้าไปแล้ว ก็ศึกษาตั้งแต่การปลูก การผสมดินทุกอย่างเลย ผมว่าตอนนี้น่าจะมีประมาณ 300 กว่าต้นแล้วครับ”
เอสเธอร์ : “ตอนนี้พี่เคนทำเป็นโรงเรือนเลยค่ะ”
เคน : “คือผมชอบมากครับ ผมพยายามเก็บพวกต้นไม้หายาก ต้นไม้ที่ลายสวยมากๆ ก็จะพยายามเก็บมาทีละ 1-2 ต้น ตอนนี้ก็ประมาณ 300 กว่าต้นแล้ว คือตอนนี้ไปทั่วประเทศแล้ว ถามว่าอยากจะเพาะขายมั้ย จริงๆ ตอนนี้เราเหมือนหนึ่งในนักสะสม แต่ต้นไม้มันก็มีการเจริญเติบโต แต่ถ้าต้นไหนเรามีเยอะ เราก็สามารถยนำไปขายได้ ซึ่งต้นไม้พวกนี้ความต้องการคือทั่วโลกนะครับ ไม่ใช่แค่ประเทศเรา ตอนนี้ก็เริ่มมีตัดไว้บ้างแล้วครับ”
เผยลงทุนหนักต้นละ 3 แสนก็ยอมจ่าย เพื่อหวังผลในอนาคต
เคน : “ถามว่าลงทุนไปเท่าไหร่ คือต้นไม้พวกนี้แพงนะครับ ที่แพงที่สุดก็น่าจะมีเป็นแสนครับ มันคือต้นมอนสเตอร่า ครับ ส่วนใหญ่มอนสเตอร่าที่ลายสวยๆ จะราคาประมาณ 1-4 แสน ของเราก็ประมาณ 2-3 แสนครับ”
เอสเธอร์ : “ก็ไม่ได้ห้ามค่ะ คือเรามองในระยะยาวค่ะ มันเหมือนเป็นการลงทุนเพื่อที่เราจะไปเก็บเกี่ยวในระยะยาว ก็คิดว่ามีแรงลงทุนก็ลงทุนไปก่อน ตอนที่รู้ว่ามี 300 ต้นก็ไม่ได้สะพรึงค่ะแต่รู้สึกว่ามีสวยๆ ก็เก็บไว้เถอะ เพราะเป็นต้นไม้หายากจริงๆ ค่ะ มันไม่พอความต้องการ ตอนที่พี่เขาจ่าย 3 แสนเพื่อต้นไม้เราไม่ปรี๊ดค่ะ คิดว่ามันก็คุ้มค่าราคา ก็เห็นด้วย เหมาะแก่การลงทุนมาก”
เคน : “ผมต้องอธิบายก่อนว่าที่ผมซื้อมามันมีแต่คนแย่งกันซื้อนะครับ ไม่ใช่ว่าใครจะไปซื้อก็ได้นะ มีเงินบางทีก็อาจจะไม่สามารถซื้อได้ เพราะต้นไม้จะเป็นคนเลือกเองว่าจะไปอยู่กับใคร แต่ 300 ต้นนี่ก็มีรวมของน้องเอสเธอร์ด้วยนะครับ แต่ถามว่าเป็นการลงทุนร่วมกันมั้ย หลังๆ นี่เหมือนผมจะซื้ออยู่คนเดียว (หัวเราะ) คือเอสเป็นคนพาผมเข้าไปในวงการของต้นไม้ เริ่มจากไปซื้อยางอินเดีย ซื้อไปซื้อมาเรื่อยๆ แล้วเอสเขาก็ทำงานถ่ายละคร แต่ผมก็ยังไม่หยุด ไปทุกวันเลย จนตอนนี้มันเยอะมากครับ
มือขึ้นกับการปลูกต้นไม้มั้ย เรียกว่าเราศึกษาดีกว่าครับ เพราะการปลูกต้นไม้มันก็ต้องศึกษาไปทีละนิด เพราะแต่ละที่ก็บอกวิธีปลูก 100% ไม่ได้ แล้วแต่คน และตอนนี้ก็มีคนติดต่อมาซื้อเยอะมากครับ จนตอนนี้ไม่มีต้นไม้ขายแล้วครับ ทั้งในและต่างประเทศ ต้นไม้ขาดตลาดโลกมากครับ แต่ 300 กว่าต้นผมยังไม่ขายนะครับ ผมยังไม่สามรรถตัดใจขายได้เลย คือผมก็อยากดูการเจริญเติบโตของมันด้วย และมันหายากมาก ถ้าปล่อยไปแล้วมันก็จะไม่มีแล้ว เราก็ต้องเก็บไว้ดูก่อนเพื่อความสบายใจ และถ่ายรูปอัปให้ทุกคนเห็น
ก็แอบหวงนิดนึงครับ เพราะว่าลงรูปทีไรก็จะมีชาวต่างชาติทักมาถามตลอดว่าขายมั้ย เขาก็ให้ราคาสูงนะครับ เป็นราคาสากลทั่วโลกครับ ยิ่งคนต่างชาติเขายิ่งมีกำลังซื้อมาก เขาก็ยิ่งอยากได้ทุกต้นเลย จะคืนทุนเมื่อไหร่เหรอ ก็เมื่อตัดใจขายครับ (หัวเราะ) ก็ยังมีเวลาไปถ่ายละครนะครับ เพราะต้นไม้ถ้าเราเลี้ยงอยู่ตัวแล้วก็ดูแลไม่ยากครับ”
เผยตอนนี้เตรียมรับละครของช่องวัน แต่เพราะบทน่าสนใจ ไม่ใช่เพราะ “เอสเธอร์”
เคน : “ตอนนี้ก็มีละครเข้ามาแล้วครับ แต่รอบทอยู่ครับ ก็เป็นของช่องวันครับ บทน่าจะกำลังทำอยู่ ถามว่าได้คุยกับเอสในฐานะเจ้าบ้านมั้ย คือผมรู้สึกว่าวงการละครทั่วไปก็จะมีระบบการทำงานที่ไม่แตกต่างกันสักเท่าไหร่ แค่บางทีอาจจะมีการเวิร์กช็อปมากขึ้น มีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในการแสดงมากขึ้น แต่อันนี้ไม่ได้เซ็นสัญญาครับ ยังเป็นนักแสดงอิสระครับ ที่ตัดสินใจรับเพราะบทน่าสนใจครับ และแนวทางของเรื่องพอเราได้คุยกับผู้ใหญ่ก็รู้สึกว่าแบบนี้มันท้าทายดี มันน่าสนใจที่จะเล่น จุดเปลี่ยนที่ตัดสินใจเป็นอิสระก็ไม่รู้สิครับ ผมรู้สึกว่ามาถึงจุดนึงเราก็อาจจะเปลี่ยนที่ทำงาน ไม่มีอะไรเป็นจุดเปลี่ยนครับ”
เอสเธอร์ : “หนูก็ไม่ได้ให้คำแนะนำอะไรค่ะ พี่เขาเห็นจากการทำงานของเรา เขาก็เลยไม่ได้ถามอะไรค่ะ”
เคน : “ถามว่าที่มาเล่นช่องวันเพราะเอสมีส่วนด้วยมั้ย ผมคิดว่าไม่มีนะ อย่างแรกคือบท เนื้อเรื่องและแนวทางที่ทาย รู้สึกว่ามันน่าสนุกในการที่เราจะก้าวต่อไปครับ แต่จะเห็นเล่นคู่กันมั้ย ไม่แน่ใจครับ”
เอสเธอร์ : “ต้องแล้วแต่ผู้ใหญ่ทางช่องค่ะ”
เคน “เขินมั้ยถ้าต้องกลับมาเล่นคู่กันเหรอ คือเราเคยเล่นซีรีส์เล็กๆ น้อยๆ ด้วยกัน อันนั้นบทก็ไม่ได้จริงจังอะไรขนาดนั้น แต่ถ้าเป็นละครจริงๆ ก็ยังนึกภาพไม่ออกว่าเล่นด้วยกันแล้วจะรู้สึกยังไง”
เอสเธอร์ : “ถามว่าจะเขินมั้ย ก็คงจะรู้สึกแปลกๆ มากกว่าค่ะ ไม่รู้ว่าภาพมันจะออกมาเป็นยังไง เพราะว่าไม่เคยเล่นละครด้วยกันแบบจริงจังมาก่อน”
เคน : “แต่ผมน่าจะเขิน (หัวเราะ) แต่ของผมคิดว่าน่าจะเปิดกล้องปลายๆ เดือนหน้า คิดว่านะครับ ไม่แน่ใจ แต่ยังบอกชื่อเรื่องไม่ได้ครับ”
เผยเตรียมซื้อแหวนไว้แล้ว รอเวลาที่พร้อม เตรียมเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน
เคน : “ผมเตรียมแหวนไว้แล้วครับ เอาไว้เซอร์ไพรส์”
เอสเธอร์ : “หนูก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า เพราะเขาทีเล่นทีจริง หนูก็ไม่รู้ว่าสรุปนี่พูดจริงหรือพูดเล่น แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหนูรอเซอร์ไพรส์ดีกว่าค่ะ พี่เขาก็เคยมีเซอร์ไพรส์บ้างตามโอกาสและเวลา แต่ไม่กดดันนะคะ เรายังอยากทำทุกอย่างให้พร้อม ทำงานเก็บเงิน รอว่าวันนึงถ้ามันพร้อมมากๆ จริงๆ โดยที่เราไม่ต้องกังวล ถ้าถึงเวลานั้นก็คงได้เห็นกัน ก็คงไม่ถึงกับแต่งตัวสวยรอทุกวัน เพราะเราเป็นผู้หญิง เราต้องสวยทุกวันอยู่แล้ว(หัวเราะ)”
เคน : “ไม่ได้หนีไปไหนอยู่แล้วครับ ก็ทำงาน ใช้ชีวิตกันไปก่อน คือสำหรับเราตอนนี้มันแทบไม่ต้องคุยกันแล้วว่ารายละเอียดเป็นยังไง ก็ขอว่าตอนนี้เราทำงานเต็มที่กันไปก่อน แล้วอีกสักพักถึงเวลาแล้วค่อยจัดการก็ได้ ภาพการใช้ชีวิตคู่ผมว่าก็ไม่น่าจะเปลี่ยนอะไรมากนะครับ เพราะพวกเราก็ค่อนข้างจะเป็นตัวของตัวเองกันมากๆ อยู่แล้วครับ ตอนนี้ก็แฮปปี้ครับ ก็ไม่ได้กดดันอะไร เพราะถ้าพร้อมมันก็ต้องพร้อมที่ตัวเรา ถ้าให้ใครทุกคนมากดดันมันก็ไม่ใช่เรื่อง เพราะมันก็จะไม่แฮปปี้ในตัวเอง เราเอาชีวิตเราไปฝากที่คนอื่นไม่ได้ แต่ก็มั่นใจว่าคนนี้แหละครับ”