เป็นประเด็นฮือฮาชั่วข้ามคืนจากเพจบันเทิงชื่อดังเม้าท์ไฮโซข้ามเพศหมื่นล้าน ใช้เงิน 30 ล้าน บินไกลไปทำลูก หวยออกเป็นใครไม่ได้นอกจาก “แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” ซีอีโอ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN และนี่คงเป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศ ช็อคกันทั้งวงการที่ข้ามเพศมีลูกโดยสายเลือดของตัวเอง งานนี้เจ้าตัวออกมาเผยผ่านรายการ “Real Anne” พร้อมลงรูปลูกเผยความอึดอัดใจที่ต้องเก็บความลับเรื่องนี้ไว้นานแรมปี ล่าสุดรายการเจาะใจ รีบคว้าตัวมาสัมภาษณ์ที่เจ้าตัวเผยหมดเปลือกจากปากทุกประเด็นที่คนอยากรู้ ในรายการเจาะใจแบบเอ็กคลูซีฟเพื่อไขความกระจ่างให้กับชาวโซเชียลอย่างรวดเร็ว
เรื่องลูกคงจะมีหลายคนสงสัยว่าทำไมแอนอยากมีลูก?
”ทั้งสองคนเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของแอน เป็นความตั้งใจที่อยากมีลูก ณ ตอนนั้นที่บริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์มีมูลค่า 7-8 พันล้าน เรียบร้อย เราถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว เราก็คิดว่า เราอยากได้อะไร คำตอบคือลูก เพราะอยากเป็นผู้หญิงเต็มตัว ถึงจะผ่าตัดแปลงเพศแล้ว แต่แอนไม่มีมดลูก จึงต้องใช้วิธีการอุ้มบุญ และกว่าจะมีลูกสองคนนี้ คือน้องแอนดรูว์ และ แองเจลิก้า ไปขอใช้บริการไข่จากหลายประเทศ บินไปมาหลายที่ แต่ไม่ได้รับการยอมรับ จนสุดท้ายไปจบที่สหรัฐอเมริกา และ ใช้เวลานานหลายปี มีอุปสรรคหลายอย่าง แต่ไม่ยอมแพ้ บอกตัวเองว่าต้องสู้ และครอบครัวก็เป็นอีกกำลังใจที่ดีมากในเวลานั้น”
ถามถึงพัฒนาการของน้องทั้งสองคน?
พัฒนาการน้องฉลาดทั้งคู่เลย คนหนึ่งคือพีชฟูล คือน้องแองเจลิก้าลูกสาว ส่วนอีกคนนึงคือ เพลย์ฟูลคือลูกชาย น้องแอนดรูว์ น้องแองเจลิก้าก็จะไนซ์มาก จะสวีท คือจะแบบหวานหวาน อยู่ด้วยแล้วมีความรู้สึกว่าเหมือนเลี้ยงตุ๊กตาหมีเลย ลูกชายก็จะน่ารักตามวัย ยังพูดไม่ได้แต่เดินเก่งมาก อายุเพียง 1 ปี 4 เดือน ก็สูง 92 เซ็นติเมตรแล้ว ลูกสาวก็จะสูงใกล้กันแล้ว ทั้งที่ห่างกันประมาณ 8 เดือน เรามีความรู้สึกว่าพัฒนาการทางด้านร่างกายเค้าโตเร็วมาก ส่วนการพูดเนี่ยก็คงจะเร็วเร็วนี้ เขาก็เริ่มประสมคำแล้ว เริ่มสั่งอะไรเริ่มรู้การแล้ว เอ็นจอยในฐานะเป็นแม่คน แล้วก็ยังตื่นเต้นอยู่เลย ว่าเราเป็นแม่คนแล้วจริงจริงนะ”
เห่อลูกไหม?
“เห่อค่ะ หนักมาก พยายามจะหาเวลาอยู่กับเขาด้วยนะ เพราะเราก็ทำงานเยอะ ลูกเราก็น่ารัก เสาร์อาทิตย์ จะพยายามอยู่ด้วยทั้งวัน เพราะเราก็จะอยู่ในบ้านเดียวกัน เราก็เป็นคนทำงานในฐานะเป็น ซีอีโอ บริษัทก็ต้องการเรา วันจันทร์ถึงศุกร์ ก็มาทำงานที่บริษัท กลับไปถ้าเจอเขาได้ก็ได้ก็จะเจอ แต่ถ้าดึกมากก็จะไม่อยากจะปลุกเขา เพราะเขายังเป็นเด็กก็ต้องการนอน”
หลังจากนี้วางแผนอนาคตลูกไว้หมดแล้วใช่ไหม?
“จริง ๆ วางแผนไว้แล้วค่ะ ว่าควรจะเรียนอะไร ที่ไหน และถ้าในอนาคต เขาอยากจะเรียนอะไร อยากเป็นอะไร ให้เขาจัดการเลือกชีวิตเค้าเอง เราก็จะอยู่ใกล้ชิดเขาช่วยเป็นภาพสะท้อนให้เค้าเห็นว่า เขาน่าจะเหมาะกับอะไร แอนจะไม่บังคับลูกให้เป็นอย่างที่เราต้องการ เราจะไม่เอาความฝัน ความปรารถนาของเรา ไปใส่ไว้เป็นหน้าที่ของลูก ให้เขาเติบโตขึ้นมาแล้วเป็นคนดีกับสังคม ให้เป็นคนที่มีคุณภาพต่อประเทศชาติ เราก็จะใช้วิชาชีวิตของเราที่สะสมมาทั้งชีวิต ทั้งเรื่องส่วนตัว เรื่องความรัก และเรื่องการทำธุรกิจ สอนให้พวกเขาเติบโตขึ้นมา แล้วประสบความสำเร็จ เพื่อให้ไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ หรือโลกให้มันดีขึ้น โดยมีหน้าที่การงานของตัวเขา ธุรกิจของเขาเอง ก็ต้องให้กำลังใจคน ส่งเสริมแรงบันดาลใจคนอื่นได้เดินหน้าต่อไป ถามว่าตัวเราทำดีแล้วรึยัง ถ้าดีก็คือจบ แม่คนนี้ก็จะบอกว่า ทำไปเลย”
ถ้าน้องโต แล้วน้องโดนล้อ คุณแอนจะบอกน้องยังไง?
“เรื่องแบบนี้ มันก็เกิดขึ้นได้ แต่ว่าในอนาคตมันก็จะน้อยลงเรื่อยเรื่อย สถาบันการศึกษาที่จะส่งลูกไปเรียน มันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ถ้าสังคมมันไม่ดี จะพูดให้ตายยังไงเด็กมันก็เซ เด็กมันก็ถูกทำร้าย เพราะคนที่อยู่ในสังคมมันไม่ได้ถูกกลั่นกรอง ถ้าเราไปโรงเรียนดี และครอบครัวเรา สังคมเรามันก็ดี ให้ลูกได้อยู่ท่ามกลางความคิดดี คิดบวก การเกิดการบูลลี่มันจะน้อยลง เพราะเกิดจากสังคมที่เราเลือกให้เขา แอนจะสอนให้เรียนรู้เรื่องความความแตกต่าง ทำให้ลูกเราเติบโตขึ้นมามีทั้ง ไอคิว และ อีคิว ให้เข้าใจความแตกต่างของโลกใบนี้ที่มันไม่ได้เป็นเพียงแค่มีเหรียญสองด้าน มันมีหลายด้าน มากกว่าสองด้าน ให้ทุกคนเขาได้รับรู้ว่าโลกมันพัฒนาและเปลี่ยนแปลงมาขนาดนี้แล้ว มันเป็นเรื่องที่คุณต้องเล่าให้เด็กฟัง ถึงแม้ว่าจะเป็นครอบครัวชายจริงหญิงแท้ก็ต้องเล่า โลกใบนี้มันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว”
กลัวไหมถ้าน้องโต แล้วน้องจะรับไม่ได้?
“ไม่กลัวเลย เราคิดว่าทัศนคติมันต้องเริ่มสร้างกันได้ เขาอยู่ภายใต้คนที่คิดบวกอย่างครอบครัวพี่ ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่พี่ น้องสาวพี่ คนที่จะเข้ามาเป็นสามีของพี่ ทุกคนคือคิดบวก คิดสร้างสรรค์ และเขาได้พลังงานบวก เขาต้องได้สิ่งเหล่านี้เข้าไป แล้วต้องเปลี่ยนแรงกดดันหลายๆ อย่าง ให้เป็นแรงผลักดัน เขาจะยิ่งมีความแข็งแรงและมีความฉลาดทางด้านความคิด เพราะเขาเห็นอะไรที่มากกว่าคนอื่น วิชาชีวิตของเขามันยิ่งแข็งแกร่ง ทำให้เขาเรียนรู้ได้ว่ามันมีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ไม่ได้เป็นบทเรียนชีวิตหรือวิชาชีวิตที่ธรรมดา แต่ว่ามันแตกต่างคนอื่นนั่นเอง”
ถ้าน้องโตมาแล้วเป็นเหมือนคุณแอน รับได้ไหม?
“โอ๊ย!! ยิ่งดีใจใหญ่เลย เขาตั้งใจว่าเขาอยากจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ แล้วเขากล้าที่จะเป็น กล้าที่จะบอกสังคมว่านี่ ฮู ไอ แอม คือตัวตนฉันเอง อันดับหนึ่งก็ต้องบอกเลยว่า ลูกกล้าหาญดีมาก เพราะเรื่องพวกนี้มันบังคับกันไม่ได้นะ กินเหล้า สูบบุหรี่ มันยังเลิกกันได้ แต่การเกิดมาผิดร่างเนี่ยมันเลิกไม่ได้ เราจะไปซ้ำเติมเด็กทำไม ก็ในเมื่อเราให้เขาเกิดมาแล้ว และมันเป็นโดยธรรมชาติตั้งแต่เขาเกิด ไม่ใช่การเลี้ยงดู แล้วถ้าจะเป็น อะไรก็แล้วแต่ ก็ยิ่งเป็นเรื่องของเขา ตราบใดที่เขามีความรักที่ดี ที่บริสุทธิ์ เจอคนที่ดี แล้วตัวเขาเองก็เป็นคนที่ดี มีวิสัยทัศน์ ทำมาหากินได้ รับผิดชอบ นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”
พอเป็นการอุ้มบุญ มันจะมีสายใยแม่ลูกไหม?
”มีแน่นอนค่ะ เพราะมันก็คือเชื้อเรา อย่างน้องแอนดรูว์เกิดมาเนี่ย เราขำก่อนเลย ทำไมหน้าเหมือนฉันจังเลย มันมีสายใยแม่ลูกอยู่แล้ว มันทำให้เราเข้าใจว่าความรักที่บริสุทธิ์มันคืออะไร รักตั้งแต่แรกเจอ รักแบบไม่ต้องกั๊กเลย รักแบบว่าคิดได้เลยว่า นี่เหละคือความรักของเราที่แท้จริง ที่แม่เคยมีให้เรายิ่งเข้าใจ สิ่งที่เรามีให้ลูกในฐานะที่เราเป็นแม่ก็ยิ่งเข้าใจไปอีก ความรักที่มันยิ่งใหญ่ ความรักที่บริสุทธิ์ เพราะเป็นลูกของเราเองจริง ๆ”
พอเป็นแม่ แล้วชีวิตเปลี่ยนไปไหมคะ?
“ชีวิตเปลี่ยน ทำอะไรก็จะคิดถึงแต่ลูก โลดโผนมากไม่ได้ คิดอะไรก็ต้องคิด 2-3 สเต็ป ที่มันไม่ใช่เฉพาะตัวเราหรือพนักงาน แต่มันหมายถึงครอบครัว หรือทายาทเราที่อยู่ที่บ้านตอนนี้ โลกเรา มันมีอีกฝั่งที่ต้องรับผิดชอบ นั่นก็คือครอบครัว”
พอบอกว่า 15 ล้านต่อคน เสียดายเงินไหม?
”ไม่เคยเสียดายเลย การมีลูกถือว่าเป็นการลงทุนให้กับชีวิตในระยะยาว เราจะเสียเท่าไหร่ก็แล้วแต่ ขอให้ออกลูกมาแล้วครบสมบูรณ์ทุกประการ นั่นคือสิ่งที่สำคัญ จะเสียเงินเท่าไหร่เราก็ไม่ว่า เราต้องการให้เขาเป็นทายาทของเรา แล้วก็สืบทอดสิ่งที่เราทำอยู่ต่อไป แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยคือความคิด ความรู้ ทัศนคติ วิชาชีวิตของเรา มันควรจะมีคนรับสืบทอดต่อ แล้วก็ทำให้โลกมันเติบโตขึ้น โดยสาขาวิชาที่ครอบครัวเราถนัด ให้ออกไปแล้วก็พัฒนาให้โลก และสังคมน่าอยู่ขึ้น นั่นคือสิ่งที่มองว่าทำไมต้องมีลูก”
อยากให้ฝากให้กำลังใจถึงคุณแม่ แล้วก็ให้เคล็ดลับดีๆ สำหรับใครที่อยากจะอุ้มบุญเหมือนคุณแอน?
“เรื่องการมีลูกอันดับหนึ่งก่อนเลยคือ เพื่อวัตถุประสงค์อะไร อยากจะบอกให้ทุกคนคิด วิเคราะห์ และใช้วิจารณญาณก่อน ไม่ใช่เอาความเหงาที่มีอยู่เป็นที่ตั้ง แล้วก็สร้างลูกขึ้นมา ถามตัวเองก่อนเลยว่าเราพร้อมไหม หน้าที่การงาน, การเงินเราโอเคไหม ใครเป็นคนเลี้ยงลูก แล้วตัวเราจะมีบทบาทอย่างไรบ้างที่จะดูแลลูก สำหรับพี่ ในฐานะของผู้หญิงข้ามเพศ ก็คงจะเป็นตัวแทนพูดให้ฟังว่า ไม่ใช่เฉพาะการเรื่องอยากมีลูก แต่ว่าวันนี้อยากให้เห็น แอน จักรพงษ์ วางแผนต่อจิ๊กซอว์ชีวิต เป็นเรื่องที่คุณต้องนำมาศึกษา ทุกด้านของชีวิต ไม่ใช่เฉพาะเรื่องลูก การวางแผนให้ตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก การแต่งงาน การมีลูก การวางแผนทุกอย่างมันต้องมีเรื่องของการเงินเข้ามาประกอบ ฉะนั้น ให้เราเขียนลงไปในสมุดบันทึกไดอารี่ว่าเราอยากจะได้ อยากเป็นอะไร แล้ววาง Action Plan ทุกสิ่งทุกอย่างให้มันจบกระบวนการตามนั้น นี่แหละคือสิ่งที่พี่คิดว่าให้แรงบันดาลใจทุกคนได้เป็นอย่างดีที่สุด Everything is possible when you believe in yourself. ทุกสิ่งเป็นไปได้...หากคุณมุ่งมั่นตั้งใจ”
ติดตามความเคลื่อนไหวของแม่แอนได้ทุกช่องทางที่
Facebook fanpage: https://www.facebook.com/annejkn.official
Instagram: https://www.instagram.com/annejkn.official
TikTok: https://vt.tiktok.com/B8jgup
Youtube: JKNofficial l Real Anne อุ้มบุญหมื่นล้าน ทายาทโดยสายเลือด แอนJKN https://youtu.be/4LFlHuNzdYs