xs
xsm
sm
md
lg

"แหม่ม" รู้นานแล้ว "สงกรานต์" ล้มละลาย! ไม่กระทบครอบครัว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"แหม่ม" ยันศาลสั่ง "สงกรานต์" ล้มละลาย ไม่กระทบครอบครัว ยังให้กำลังใจอยู่ข้างๆ ไม่สร้างปัญหาเพิ่มให้ ขอบคุณทุกกำลังใจที่เป็นห่วง ลั่นรู้เรื่องนานแล้ว เป็นเรื่องหลายสิบปีก่อน

ทำแฟนคลับตกอกตกใจ หลังเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศศาลสั่งล้มละลาย-พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด "นายสงกรานต์ กระจ่างเนตร" สามีอดีตนางเอก "แหม่ม คัทลียา กระจ่างเนตร" ตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เจอแหม่ม คัทลียา ในงานประกาศรางวัลนาฎราช ครั้งที่ 11 เลยสอบถามถึงประเด็นดังกล่าว ซึ่งแหม่มเผยว่าเป็นเรื่องเมื่อหลายสิบปีก่อนไม่มีผลกระทบครอบครัว 
 
"ไม่เกี่ยวกับเราเลยค่ะ ก็เป็นเรื่องหลายสิบปีแล้ว เพราะฉะนั้นไม่เกี่ยวข้องกับพี่ ถามว่าตกใจมั้ย ไม่ตกใจค่ะ ทราบมาตลอด เขาเล่าให้ฟังอยู่แล้ว ไม่ได้มีอะไร ถามว่ามีผลกระทบไหม ไม่ๆ ที่จะกระทบคือกระทบโควิดค่ะ เพราะรีสอร์ตที่ตรังต้องปิดไป 6 เดือน แต่ว่ากำลังจะเปิด เชื่อว่าโควิดคงกระทบทุกคนเนอะ ก็เป็นกำลังใจให้ทุกคนด้วย"

ขอบคุณที่ห่วง ไม่กระทบอะไรตน
"ขอบคุณทุกคนมากนะคะที่เป็นห่วง ทั้งที่ส่งข้อความมาหรือว่าฝากคนรู้จักมา ก็เป็นกำลังใจที่ดี เรียนตรงนี้ว่าไม่มีผลกระทบอะไรกับแหม่ม ทุกอย่างยังเหมือนเดิม การแสดงก็ยังทำงานเหมือนเดิม สิรินทร์ฟาร์มก็ยังผลิตโปรดักส์ใหม่ๆ รีสอร์ตที่ตรังก็ปิดเพราะโควิดตั้งแต่เดือน มี.ค. แต่ว่าตอนนี้กำลังจะเปิดแล้ว ต้นเดือน ต.ค. นี้จะเปิดให้คนไทยเที่ยวกัน"

รู้มานานแล้ว สิ่งสำคัญคืออยู่กับเขา ไม่สร้างปัญหาให้เพิ่ม
"คือจริงๆ เรารู้มานานแล้วค่ะ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานมากแล้ว เพราะฉะนั้นเรารู้มานานแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราก็อยู่กับเขามาตลอด โดยไม่ได้สร้างปัญหาหรือนำเรื่องมาให้เขาเพิ่ม เขาก็ไม่ต้องคิดมากอะไร ดูแลครอบครัวไปอย่างมีความสุข ก็อยู่อย่างอบอุ่น ตอนนี้ลูกๆ เริ่มทำกับข้าวเก่งขึ้นแล้วเพราะคุณพ่อสอน แม่ก็สบาย ไม่ต้องทำกับข้าว

คนถามไม่เยอะเลยค่ะ แต่รับรู้ได้เหมือนกันว่ามีคนเป็นห่วงแต่ไม่กล้าส่งข้อความหรือโทร.มา แต่เวลาพบเจอก็จะถามว่าโอเคไหม เราก็บอกโอเคค่ะ ถามว่าได้เห็นข้อความให้กำลังใจในโซเชียลไหม มีบ้าง แต่เอาจริงๆ ด้วยความที่ตอนนี้ยุ่งมากเรื่องโควิด เรื่องลูกยังไม่กลับไปเรียน ต้องเรียนออนไลน์ มีเพื่อนๆ โวยวายเหมือนกันว่าทำไมหลังๆ ไม่ค่อยลงไอจี คือไม่มีเวลาเลยค่ะ แล้วลูกๆ ไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการถ่ายภาพ แฟนคลับก็อยากจะเห็นลูกหรือพัฒนาการของเด็กๆ เหมือนกัน ซึ่งจริงๆ แล้วเราก็เห็นแล้วอยากถ่าย แต่เขาก็จะไม่ยอม เริ่มโตแล้วก็เริ่มไม่ค่อยให้ถ่าย"

ไม่เกี่ยวกับเครียด
"อ๋อ ไม่ๆๆ ไม่เครียดเลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง คือทุกอย่างเหมือนเดิมปกติ แต่เรื่องลูกเราขอให้เขาอยู่กับเราอีกเทอมนึงก่อน เพราะยังไม่รู้ไงว่ากลับไปแล้วจะยังไง ก็ให้เรียนออนไลน์ รอถึง ม.ค. ค่อยกลับไป เขาก็เริ่มอยากกลับไปเรียนแล้วค่ะ"

รักกันดี แฮปปี้
"รักกันดี ปกติ แฮปปี้ ยังทำอาหารให้พวกเราทานอย่างเอร็ดอร่อย และสอนไปถึงลูกๆ ลูกๆ ก็เริ่มทำกับข้าวให้แม่ทานได้แล้ว แม่ก็ภูมิใจ ขอบคุณทุกคนที่ชื่นชมในตัวลูกนะคะ มีกระแสเข้ามาว่าอุ๊ย น้องแมคโตแล้ว ก็ขอบคุณมาก"

ปลื้มลูกหล่อ ฟุ้งพ่อแม่มีส่วนให้หน้าตาดี
"ขอบคุณนะคะ ก็พ่อแม่ก็อาจจะมีส่วนในการที่ลูกออกมาหน้าตาดี...ไหม (หัวเราะ)​ ถามว่าเมื่อไหร่จะเข้าวงการ ยังเรียนหนังสืออยู่เลย แต่ก็ลองถามเขาเหมือนกันว่าสนใจไหม เขาบอกว่าเขาก็คงเหมือนลุงลี่ (วิลลี่ แมคอินทอช)​ คงเล่นละครได้ ไม่ยากหรอก ก็ขี้โม้ไป แต่ตอนนี้ให้เรียนหนังสือก่อน เพราะเขาก็เรียนหนัก"

ไม่หวงแต่ห่วง
"ไอ้หวงคงไม่หวง คงเป็นห่วงมากกว่า เพราะยุคสมัยนี้กับยุคสมัยเรามันไม่เหมือนกัน เราก็ต้องไปให้ทันกับยุคสมัย สมัยเราไม่มีมือถือ โซเชียล สมัยนี้ก็ต้องอยู่ให้ได้อย่างแข็งแรงเนอะ

น้องแมคยังไม่ได้มีใครติดต่ออะไร ก็มีถามบ้างค่ะ แต่ว่าเขายังไม่ 15 เลย และยังต้องเรียนหนังสือ ยังต้องไปเรียนต่างประเทศ เรียนโรงเรียนประจำ ถามว่ามีสาวๆ เข้ามาไหม พอดีอยู่โรงเรียนชายล้วนเลยยังไม่มีใคร แต่ว่าโรงเรียนกำลังจะปรับ ปีหน้าเขาจะทำเป็นแบบสหแล้วค่ะ ซึ่งก็ว่าดีค่ะ"

เผยห้ามลูกมีแฟนตอนนี้ ยังไม่ถึงเวลา
"แอบถามเหมือนกัน มีคุณยายถามว่ามีสาวมาเกาะแกะวอแวอะไรยังไงไหม แมคยังไม่ทันตอบ แม่ก็สวนเลยบอกว่า โอ้ย ยังไม่มีหรอก ยังไม่ถึงเวลา ต้องเรียนหนังสือก่อน (หัวเราะ)​

แม่ไม่หวง แต่แม่ว่ายังไม่ถึงเวลา (หัวเราะ)​ ไม่หรอก แล้วแต่เขา เราเลี้ยงลูกเหมือนเพื่อน มีอะไรก็ให้คุยกัน ตอนนี้ก็เรียนก่อนเพราะเขาเรียนโรงเรียนประจำ ตอนนี้เรียนออนไลน์ ก็ต้องระวังตัว ไม่ออกไปที่คนเยอะ การ์ดห้ามตกกับสถานการณ์โควิด

โรงเรียนที่โน่นเขาเปิดแล้วนะ ครูและโรงเรียนก็อยากจะให้กลับไปใช้ชีวิตเหมือนปกติ เขาก็ดูแลดี บริหารจัดการดี แต่ของเราติดตรงที่ว่าเป็นนักเรียนต่างชาติ การเดินทางมันไม่ได้มีไฟลต์บ่อยๆ สมมติถ้าไปแล้วเกิดมีอะไร จะกลับก็ไม่ใช่ว่ากลับได้ทันที สมมติแม่ไปส่ง กลับมาต้องกักตัว 14 วัน แล้วแม่มีงานที่ค้างคาอยู่ เราก็เลยดูให้มั่นใจกว่านี้อีกนิดนึงค่ะ"




กำลังโหลดความคิดเห็น