แม้ปัจจุบันจะมีช่องทางการรับชมความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะออนไลน์ ทว่าเมื่อเห็นเรตติ้งของละครทีวี โดยเฉพาะช่อง 7 ที่กวาดเรตติ้งไปถล่มทลายชนิดยกล็อต จึงทำให้เห็นได้ว่าแพลตฟอร์มทางทีวียังคงได้รับความนิยมอย่างสูง และเรื่องที่เรตติ้งแรงขึ้นทุกๆ อีพี นั่นคือเรื่อง โซ่เวรี ของบริษัท นีโน่ บราเดอร์ส จำกัด โดยสองผู้จัด "นีโน่ เมทนี" และ "หนิง ปณิตา" ที่นาทีนี้ ต้องเรียกว่า ดัง ปัง ทั้งเรตติ้งทั่วประเทศ และกรุงเทพ รวมไปถึงกระแสโซเชียลทุกช่องทางก็แรงเหลือเกิน
อะไรทำไมถึงทำให้ละครเรื่อง โซ่เวรี ถึงได้ดังทะลุมิติได้ถึงขนาดนี้ เราลองมาวิเคราะห์กัน
"โซ่เวรี" เรื่องราวจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด คือการพบเจอกันครั้งแรกของพระ นาง แม้พระเอกจะหลงรักนางเอกตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอ แต่เรื่องราวความเข้าใจผิด ที่นำพาให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ซึ่งได้สร้างบาดแผลฉกรรจ์ไว้ให้นางเอก นำไปสู่ความเกลียดชัง และกลายมาเป็นโซ่มัดรั้งทั้งคู่เอาไว้จนแน่นขึง ขอปรบมือให้กับโปรดักชั่น พร็อพที่จัดหามาอย่างเหมาะสม การถ่ายทำ ภาพและแสงที่ดูโมเดิร์น หันมามองทีมคอสตูม เสื้อผ้าที่นักแสดงสวมใส่ งานนี้ต้องขอยกนิ้วให้โดยเฉพาะชุดของนางเอก
และต้องยอมรับว่า "บท" เรื่องนี้พัฒนาจนแข็งแรง มีให้ลุ้น ติดตาม ให้ผู้ชมสมหวัง และขณะเดียวกันก็สามารถทำให้รู้สึกขัดเคืองใจในการอ่อนไหว ไม่สมเหตุสมผลของพระ นางอยู่บ้าง
การแคสนักแสดงถือว่าลงตัว ไล่เรื่อยไปตั้งแต่พระเอก กับมาดหนุ่มนักธุรกิจ จบเมืองนอก ความสามารถเก่งกาจ จนเป็นที่ต้องการของหลายๆบริษัท ในบท ปรินทร์ หรือ ปริ๊นซ์ ที่แสดงโดย "เข้ม หัสวีร์" เมื่อสวมใส่ด้วยสูท สุดเนี้ยบ ก็แลดูหล่อสมาร์ท ปังสุดๆ กับลุคนักธุรกิจ ขณะที่ชุดลำลอง สบายๆ ก็ดูน่ามองไปอีกแบบ
หลายคนอาจจะได้ชมผลงานของเขามาบ้าง แต่เรื่องนี้นำพาให้เขาได้มีโอกาสได้โชว์ของ แสดงฝีมือที่ผิดแผกแตกต่างจากเรื่องอื่นๆ ที่เราอาจไม่คุ้นชิน ทั้งฉากดราม่า ถูกคนรักทิ้งอย่างไม่แยแส ฉากถวิลหาความรักของหนุ่มคลั่งรัก ฉากหลังได้เจอะเจอผู้หญิงที่อยู่ในหัวใจมาตลอดหลายปี หรือฉากผิดหวัง น้อยใจ ปรินทร์ ที่ถ่ายทอดโดย เข้ม หัสวีร์ เอาอยู่ในทุกๆ ฉาก ทำให้เราได้เห็นฝีมือที่พัฒนาขึ้นอย่างเด่นชัด
ขณะที่ มุกดา นรินทร์รักษ์ สวมบท ปารมิตา ได้สอบผ่าน โดยเฉพาะฉากดราม่า หนักหน่วง กับการเกลียดชัง และผิดหวังกับตัวเอง ที่ทำเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่ ที่ส่งพาให้ชีวิตเกือบพัง มุกดาเอาอยู่ จนทำเอาคนดูน้ำตารื้นกันเลยทีเดียว
ส่วนนักแสดงแวดล้อมคนอื่นๆ ที่เลือกสรรมานั้น แต่ละคนต่างทำหน้าที่ได้ดี ไม่แพ้นักแสดงหลัก และนอกเหนือจากการแสดงของทีมนักแสดงที่เป็นทีมเวิร์กแล้ว บทละครมีการพัฒนาจนแข็งแรง และเฉียบคม มีให้ลุ้น เอาใจช่วย ให้เศร้า แถมแทรกมุกตลกออกมาเป็นระยะ ให้ได้อมยิ้ม หัวเราะ และให้ผู้ชมผ่อนคลายจากการฟาดฟันของตัวละครได้อย่างพอดี และในขณะเดียวกันก็สามารถทำให้รู้สึกขัดเคืองใจในการอ่อนไหว ไม่สมเหตุสมผลของพระ นาง อยู่บ้าง แต่ว่าไม่มากพอจนต้องเปลี่ยนช่อง
อาจมีติทั้งหลายทั้งปวงอยู่บ้าง ตรงเสียงพูดของ เข้ม และ มุกดา ที่บางครั้งอาจทำความสมจริงลดน้อยถอยลง ทั้งนี้เชื่อว่าพัฒนาได้
ทั้งหลายทั้งปวง จึงไม่แปลกใจว่าทำไม โซ่เวรี ถึงได้ประสบความสำเร็จเช่นนี้ งานนี้ต้องตามกันต่อไป เหลืออีก 3 ตอนสุดท้าย ถึงเวลานั้นเรามาลุ้นเรตติ้งกัน