“เบนซ์” ยื่นคำขาด ขอหุ่นกลับมาสวยก่อนค่อยให้ “มิค” ทำการบ้าน

“เบนซ์ พรชิตา” ลั่นโครงการทุบบ้านมาแน่ แต่รออีก 2 ปี ตอนนี้บ้านแคบเกินไปสำหรับลูก 3 คน โอดท้องนี้ “มิค” นอยด์หนัก มีคนทักเยอะบอกให้ระวังเรื่องลูก เผยที่สามีบอกอยากให้ทำหมันต้องทำสัญญาสวีตเดือนละครั้ง แต่ขอให้ร่างกายกลับมาผอมเหมือนเดิมก่อน อายหุ่นเจ๊ง ลั่นถ่ายแบบชุดตาข่ายไม่โป๊ ใครจะอยากดู

ออกงานเป็นครั้งแรกหลังจากหยุดโควิดไปนาน สำหรับว่าที่คุณแม่ลูกสาม “เบนซ์ พรชิตา ณ สงขลา” ที่อุ้มท้องเกือบ 8 เดือน พร้อมลูกสาวทั้งสองคนมาร่วมงานเสวนาภายใต้หัวข้อ "Co2 ภัยเงียบในบ้าน ลดความฉลาดของลูกน้อย" ณ ลานโปรโมชั่น โซน A ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าอีก 2 ปีวางแพลนจะทำบ้านใหม่หลังจากที่คลอดลูกคนสามนี้

“ออกอีเวนต์ครั้งแรกในรอบหลายเดือนค่ะ (หัวเราะ) ก็ออกกับลูกนี่แหละค่ะ อาจจะเห็นความวุ่นวายของปรางหน่อย ปริมนี่ยังโอเค แต่ปรางนี่คุมไม่ได้ เขาจะไม่อยู่กับที่ จริงๆ ที่ตัดสินใจมางานนี้ เพราะเดี๋ยวนี้มันมีนวัตกรรมที่อยู่ในบ้านแล้วปลอดภัยได้มากขึ้นนะ เบนซ์ก็เพิ่งรู้ว่าในบ้านเรามีคาร์บอนไดออกไซด์เยอะ ทำให้เรานอนไม่เต็มอิ่ม บางทีเรานอน 8 ชม. ตื่นมาก็ยังง่วงอยู่ดี ถ้ามีนวัตกรรมแบบนี้อยู่ในบ้านมันก็ดี ทำให้เราและลูกก็สมองพัฒนาดีขึ้น

ถามว่าที่ผ่านมามีผลต่อลูกเราไหม ไม่รู้เลยว่ามันมีผลหรือเปล่า แต่รู้ว่าเราอยู่แต่ในบ้านและพออากาศร้อน ฝุ่นเยอะ เราก็ไม่อยากเปิดประตู เราก็จะเปิดแต่แอร์ อากาศมันก็วนๆ อยู่ในนั้น ซึ่งมันก็ไม่โอเคหรอก ยิ่งโควิดเราก็อยู่แต่บ้าน ก็มีผลว่าทำไมฉันนอนเยอะแล้วฉันยังง่วงอยู่ ก็ได้ความรู้จากงานนี้เลย

ต้องปรับเปลี่ยนห้องนอนใหม่เลยค่ะ ควรมากๆ เลย นี่ห้องนอนไม่มีหน้าต่างนะ เป็นบ้านที่ตลกไหม มันเป็นโครงสร้างเดิมที่มีอยู่แล้ว และเราไม่ได้ไปเปลี่ยนใหม่ เพราะฉะนั้นด้วยฟังก์ชั่นของห้องนอนมันไม่สามารถมีหน้าต่างได้เลย แต่มันมีข้อดีอยู่อย่างที่ผนังด้านนึงติดกับห้องนั่งเล่นเบนซ์เลย คือเปิดประตูกว้างได้เลย แค่มันจะไม่มีอากาศจากข้างนอก นอกจากเราต้องเปิดหน้าต่างของห้องนั่งเล่นอีกทีนึง มันถึงจะระบายอากาศได้”

โครงการทุบบ้านมาแน่ รออีก 2 ปี ตอนนี้บ้านแคบไปสำหรับลูก 3 คน
“ต้องทุบค่ะ (หัวเราะ) แต่โครงการย้ายบ้านไม่น่าจะกลับมา เพราะว่าสามีไม่ให้ย้าย แต่โครงการทุบบ้านมาแน่นอน นี่คุยกันแล้ว ไม่ใช่มางานแล้วอวยงานนะ แต่คิดอยู่แล้วว่าจะต้องทำบ้านใหม่ เพราะว่าลูกสามคนไม่สามารถอยู่ในบ้านหลังนั้นได้แล้ว เพราะมันแคบไปแล้ว และรู้สึกว่าจะต้องมีอะไรเป็นสัดเป็นส่วนบ้าง บ้านเบนซ์มันเหมือนเป็นคอนโดเล็กๆ ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องกินข้าว ถ้าดูในยูทิวบ์จะเห็นเลยว่ามันเล็ก มันไม่มีพื้นที่อะไร แล้วคิดดูว่าลูกสามคน สงสารนางไม่มีที่วิ่งเล่น

ต้องรอคลอดก่อนค่ะ เพราะว่าท้อง เขาก็ไม่ให้ทำบ้านอยู่แล้ว พอมีเบบี๋ก็ไม่ได้อีก เดี๋ยวจะวุ่นวายของเยอะ เลยคิดว่าอาจจะต้องรอคลอดสัก 2 ปี อาจต้องรอให้เบบี๋แข็งแรงเหมือนเจ้าปรางตอนนี้ เพราะจะทำบ้านทีต้องย้ายออกจากบ้าน ต้องขนของย้ายไปอยู่ที่อื่น รอสร้างเสร็จถึงจะย้ายกลับมา ปีถึงปีครึ่งแหละกว่าจะเสร็จ

นี่ห้องให้ลูกก็ไม่มี นอนด้วยกันจ๊ะ (หัวเราะ) จะย้ายห้องก็ทำใจไม่ได้ หมายถึงว่าเราก็กองๆ อยู่ด้วยกันนี่แหละ แต่ตอนนี้ยังคิดไม่ออกว่าจะนอนตรงไหน เพราะตอนนี้สองข้างก็ลูกสองคนแล้ว อีกตัวนึงจะอยู่ตรงไหนยังคิดไม่ออกเลย (หัวเราะ) ก็คิดว่าจะต้องแบ่งคนนึงให้อยู่กับพ่อ แต่ก็ยากเหมือนกันนะ เพราะด้วยความที่ลูกนอนกับเราทุกวัน แล้วพี่มิคต้องทำงาน

อย่างเจ้าตัวโตนี่ติดแม่แน่นอน เพราะรายนั้นนอนกินนมแม่ ก็จะเกาะอยู่กับนมแม่ ถ้าง่ายกว่าก็จะน้องปราง แต่ก็เป็นเด็กขาแดนซ์มาก เพราะมันดิ้นทั้งคืน (หัวเราะ) ถ้าไม่มีที่กั้นมันคงตกเตียงทุกวัน เดี๋ยวไปอยู่บนหัวบ้าง ไปอยู่ตรงปลายเท้าบ้าง ไปทับปริมบ้าง คือปริมกับปรางนี่เป็นเด็กไม่นิ่งเลย ซึ่งถ้านอนกับพ่อ พ่อก็จะไม่ได้นอน พ่อก็จะทำงานไม่ได้ ก็ยังคิดไม่ออกเลย เพราะถ้าเอาตัวเล็กไปนอนกับพ่อนี่ยิ่งยุ่งหนักเลย”

บอกตั้งชื่อลูกชายว่า “น้องเปรม” และ “ปริม” ลูกสาวคนโตก็เร่งอยากเห็นน้องแล้ว
“เรื่องชื่อได้สรุปกันแล้วค่ะ ก็คงเป็นชื่อที่เขาชอบ ก็คือชื่อเปรมค่ะ วันจันทร์หน้าก็ 8 เดือนแล้วค่ะ คลอดวันที่ 25 ตุลาคมค่ะ ตามฤกษ์ ปริมกับปรางถามว่าตื่นเต้นไหม ปรางอาจจะยังไม่ตื่นเต้น เพราะยังไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ว่าพี่ปริมจะถามตลอดว่าเมื่อไหร่น้องจะออกมาสักที อยากเล่นกับน้องแล้วค่ะ เขาก็รู้เรื่องนะ เขาก็จะเข้าใจว่าเขาจะมีเพื่อนเล่นเพิ่ม

ส่วนพี่มิคเขาบอกว่าคนที่สามก็หน้าเหมือนพ่อมากเนี่ย พ่อเข้าข้างตัวเองทุกคน บอกเหมือนพ่อทุกคนเลย เหมือนแม่จะตายเห็นไหม แต่เขาก็จะบอกเหมือนเขา (หัวเราะ) แต่เราก็โอเคแหละ เบนซ์ว่าทรงหน้าเขาเหมือนพ่อ จมูกเหมือนพ่อ ก็โอเคไปทางเขา เขาจะได้สบายใจ (หัวเราะ) เมื่อวานไปตรวจลายนิ้วมือมา น้องปรางนี่เหมือนพ่ออย่างกับแกะ คือมีความเซนซิทีฟ เอาแต่ใจตัวเอง มีความเป็นผู้นำ ก็พ่อเลยแหละ (หัวเราะ) เป๊ะเลย เหมือนพ่อทุกอย่าง”

บอก “น้องปริม” ลูกสาวคนโตเริ่มบ่นว่าแม่ไม่อุ้มเลย
“คือจริงๆ ลูกคนเล็กก็ยังอุ้มอยู่แหละ เพราะว่ายังตัวจิ๋ว แต่อย่างที่เห็นว่าเขาไม่เคยอยู่นิ่ง เขาไม่ใช่เด็กที่อุ้มแล้วนิ่ง แต่เขาจะดิ้น ซึ่งจริงๆ มันก็อันตรายเหมือนกัน เพราะว่าพอดิ้นเราก็จะเกร็งท้อง ก็จะมีปัญหาท้องแข็ง นั่งอยู่นี่ก็จะท้องแข็ง แต่สองท้องแรกไม่เป็นเลย ท้องนี้รู้สึกว่าค่อนข้างต้องดูแลและระวังมากเป็นพิเศษ

อย่างปริมเขาโตแล้ว เขาก็เข้าใจว่าคุณแม่มีเลือดออก แม่อุ้มไม่ได้ แต่บางทีเขาก็จะมีอารมณ์ว่าถ้าน้องออกมาแล้ว แม่อุ้มหนูได้แล้วใช่ไหม เมื่อไหร่น้องจะออกมาสักที เขาก็คิดถึงแหละ อยากให้แม่อุ้ม แต่เราก็ยังเอาเขามานั่งตักอยู่เรื่อยๆ นะ แต่ว่าอุ้มเขาไม่ได้เหมือนเดิม เบนซ์ว่าเขาก็รู้สึกนะ แต่เขาก็พยายาม

แต่ตอนที่ได้อุ้มเขาอีกครั้ง เขาก็ดีใจมาก คือเบนซ์บอกเขาว่าถ้าเราอยู่ในน้ำ แม่อุ้มได้ พอเวลาเราเล่นสระว่ายน้ำ เราก็จะลงไปแล้วบอกว่าปริมมาเร็วแม่อุ้ม เขาก็จะดีใจมาก บอกว่าแม่กอดหนูนานๆ นะ เพราะอยู่ในน้ำก็พออุ้มเขาได้นานหน่อย เขาก็จะแฮปปี้มาก ปริมเขาจะค่อนข้างติดแม่มาก เป็นเด็กอยู่กับเราตลอด เป็นเด็กที่ต้องการคนอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา แต่น้องปรางจะไม่ใช่เลย สังเกตได้ปรางไม่อยู่กับที่เลย แม้แต่นอนยังนอนดิ้นเลย

ตอนนี้ปรางยังไม่ได้ไปโรงเรียนค่ะ ยังไม่สองขวบ โรงเรียนยังไม่รับ ตอนแรกไปถามขอเข้าได้เลยไหมคะ เขารู้เรื่องแล้วนะ คุณครูบอกยังไม่ถึงเกณฑ์ ขอสองขวบก่อนนะคะคุณแม่ไม่งั้นมันจะเด็กเกินไป ต้องรอไปปีหน้า ปรางไม่ติดแม่เลยคิดว่าถ้าปรางไปโรงเรียนนางจะมีความสุขมาก อยู่บ้านเขาเล่นกันนางก็จะไปเล่นคนเดียว เขาเป็นคนสันโดษชอบทำอะไรคนเดียว ถ้าอยากให้เล่นด้วยเดี๋ยวเรียก ไม่เหมือนปริมนี่ต้องการทุกคนอยากให้ใครอยู่ด้วยตลอดเวลา เด็กสองคนไม่เหมือนกันเนาะ

ถามว่าคิดว่าคนที่สามออกมาจะเป็นแบบไหน เพราะสองคนไปคนละทิศทางแล้ว อันนี้ก็ไม่รู้ ตอบไม่ได้หรอกเด็กแต่ละคน แต่ถ้าเรียบร้อยได้นิดนึงก็จะดีเพราะว่าแม่แก่แล้ว (หัวเราะ) ยังคิดในใจว่าฉันจะวิ่งตามทันไหมเนี่ย แล้วคนเล็กเป็นผู้ชาย ส่วนใหญ่เขาจะบอกว่าคนเล็กแสบที่สุด นี่คนกลางก็แสบมากอยู่แล้ว ถ้าแสบอีกพ่อกรุณาเลี้ยงด้วยเพราะว่าแม่ตามไม่ทันแล้วนะ (หัวเราะ) เหนื่อยนะ เพราะว่าท้องตอน 40 แล้วเหนื่อยเหมือนกัน”

บอกท้องนี้ “มิค” นอยด์มาก เพราะมีคนทักให้ระวังเยอะ
“เบนซ์ไม่ได้จิตตกเรื่องจะแท้งลูกหรือว่าจะเป็นอะไร แต่จะรู้สึกเหมือนท้องมันแข็ง เวลาแม่เครียดคิดมากท้องมันจะแข็ง อาจจะเกร็งทำให้เบบี๋คลอดเร็ว ซึ่งเราจะรู้สึกว่าทำไมท้องนี้มันท้องแข็งบ่อยมาก บางทียืนนาน เล่นกับลูกก็จะรู้สึกว่าท้องมันจะแข็ง รู้สึกไม่สบายตัวเหมือนสองท้องแรก เพราะสองท้องแรกยังทำอะไรเอง นั่งพื้นได้ เพราะเราเป็นคนนั่งพื้นเพื่อจะเล่นกับลูกตลอดเวลา แต่ท้องนี้พอนั่งพื้นแล้วบางทีลุกรู้สึกเหมือนมันแน่น รู้สึกไม่โอเค แล้วพี่มิคเองเขาเป็นคนนอยด์ ถ้ามีคนมาเตือน อยู่ดีๆ ก็มีใครไม่รู้โทร.มาบอกว่า เมื่อคืนฝันว่าน้องเบนซ์คลอดลูกแล้ว มิคระวังนะลูก ต้องระวังนะ ทำไมอยู่ดีๆ ฝันว่าคลอด

แล้วก็จะมีอีกคนหนึ่งอยู่ดีๆ ก็ไลน์มาจากไหนไม่รู้บอกว่า ดูแลน้องเบนซ์ให้ดีนะ พี่ว่าท้องนี้น้องดูจะมีปัญหาอะไรไหม พี่มิคเขาเลยยิ่งกังวลหนัก เอ๊ะ ทำไมมีคนมาเตือนฉันเยอะจัง เพราะว่าสองท้องแรกไม่เห็นมีใครเตือนเลย เราโดนด่าตลอดเพราะเป็นคนอยู่กับที่ไม่เป็น เราอยากเล่นกับลูกอยากทำอะไรเหมือนเดิม แค่ทุกวันนี้เราให้พี่ช่วย ให้แม่ช่วย ลูกก็ยังรู้สึกเลยว่าทำไมแม่ไม่เห็นเล่นกับหนูเลย แม่ช่วยหน่อยสิ เขาจะรู้สึกว่าทำไมแม่ไม่อาบน้ำกับหนู เดี๋ยวรอแม่คลอดน้องก่อนนะลูก เราก็ต้องคอยอธิบาย

ก็ปรึกษาคุณหมอแหละ เพราะเวลาทุกครั้งที่ไปเช็กท้องก็จะถามว่าทำไมท้องเกร็งบ่อย คุณหมอบอกว่ายืนเยอะหรือเปล่า คุณแม่ทำอะไรเยอะไปไหม คุณแม่ช้าๆ หน่อย คุณแม่อุ้มลูกอยู่ไหม เขาก็จะถามอะไรที่เราทำทุกอย่างนั่นแหละ (หัวเราะ) อะไรที่เขาห้ามเราก็ไม่ได้อยากทำ แต่พอมีลูกเราก็อยากจะเต็มร้อยเหมือนเดิม แต่ว่าศักยภาพตัวเองมันไม่ได้แล้วไง ก็ต้องคอยดูแล ก็กลัวเขานอยด์เลยยังคงเล่นกับเขาเหมือนเดิม ก็เลยยังเป็นเด็กท้องแข็งอยู่เนี่ย จริงๆ เขาห้ามนั่งพื้นเลยนะ เบนซ์เป็นคนทำอะไรเร็ว ทุกอย่างที่หมอไม่ให้ทำ ทำหมดเลย แต่สุขภาพตอนนี้โอเคค่ะ ทุกอย่างดี ความดันไม่ขั้น ไม่มีเบาหวาน ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ว่าต้องดูแลตัวเองเยอะหน่อยแค่นั้นเอง”

บอกที่ถ่ายรูปซีทรูไม่ได้คิดว่าตัวเองโป๊ แต่ “มิค” กลับบอกว่าโป๊มาก
“เบนซ์คิดว่ามันไม่เป็นไร มันไม่น่าเห็นเพราะว่าเสื้อมันเป็นสีขาวแล้วก็พับลงมาอีกทีหนึ่งคือมันสองชั้น คิดว่าไม่เป็นไรหรอกไม่งั้นมันก็จะเห็นเป็นลายเสื้อในมันก็จะไม่สวย สามีเลยบอกว่ากลับไปใส่เลย ทนไม่ไหว อายคนอื่นเขาไหม ไปใส่เสื้อในเถอะ เราก็กลับไปใส่ก็ได้ คือรุ่นนี้ไม่อายอะไรแล้วไง ตอนถ่ายใส่กางเกงในและเป็นเสื้อบางๆ และมีอีกอันเป็นกางเกงในกับเสื้อเฉยๆ นางก็บอกใส่อะไรคลุมหน่อยไหม เราก็บอกไม่มีใครเขาดูตูดแม่แล้วรุ่นนี้ เซลลูไลท์แน่น ตูดใหญ่ขนาดนี้เด็กมันก็ไม่สนใจแล้วไหม เขาเกรงใจเด็กผู้ช่วยตากล้อง ซึ่งเขาก็ไม่ได้อยากดูฉันหรอกนะ (หัวเราะ)

ก็ถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึกค่ะ ทุกครั้งเราก็ถ่ายเก็บเอาไว้ ครั้งนี้ก็เก็บเหมือนเดิม ครั้งนี้เจอพี่ๆ ทีมแพรวเขาถ่ายไว้ให้ เราก็ขอถ่ายอีกได้ไหม ถ่ายเพิ่มเป็นภาพครอบครัว เราไม่ได้คิดว่าโป๊ แต่พี่มิคเขารู้สึกว่ามันโป๊ไป เราก็เลยจุดนั้นมาแล้วช่างมันเถอะ แต่พอภาพออกมาเขาก็ให้ผ่านก็ถ่ายอยู่ด้วยกัน เขาแฮปปี้นะอย่างน้อยก็เก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก ถ่ายกับเขาด้วยถ่ายกับเบบี๋ด้วย ตอนแรกจะไม่ถ่ายแล้วท้องที่สาม แต่พี่มิคบอกว่าแล้วถ้าลูกถามจะตอบว่าอะไร ท้องแรกกับท้องสองถ่ายแล้วท้องเขาไม่ถ่าย ก็ถ่ายให้ครบ 3 ท้องเลยแล้วกัน”

ยืนยันขอให้รูปร่างตนกลับมาดีกว่านี้ก่อน แล้วถึงจะยอมให้ทำการบ้าน
“ที่ให้พี่มิคไปทำหมันน่ะเหรอ ควรไหม ควรต้องทำเนาะ เบนซ์บอกว่าควรจะต้องไปทำ แต่พูดว่าให้ไปทำตั้งแต่ท้องที่แล้วแล้วนะ ไปทำเลยเพราะเก็บไข่ไว้แล้ว นางบอกไม่ได้เพราะว่ามันเป็นความผู้ชาย ถ้าเกิดทำความผู้ชายจะหายไปเลย ความแมน เบนซ์บอกว่าไม่นะพ่อ คนอื่นเขาก็ทำกันนะไม่เห็นเป็นไรเลย

นางบอกว่าแล้วถ้าเกิดทำมาแล้วมิคไม่มีความรู้สึกเลยทำไง เราบอกก็ดีสิ เขาบอกไม่ได้เขากลัวว่าทำไปแล้วความแมนจะหาย จะทำการบ้านไม่ได้ คิดเยอะมากเขาทำกันทั้งโลก นางบอกว่าการบ้านก็ไม่ให้ทำ เที่ยวก็ไม่ได้เที่ยว ผู้หญิงคนอื่นก็ไม่ให้คุยด้วยจะทำไปเพื่อ ก็เลยบอกว่าทำไว้ก่อนเพื่อความสบายใจ สบายใจเรา

นั่งคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวเลย คิดดูลูกสามคนมันไม่มีเวลาหรอก มันก็ต้องไปดูลูกก่อน รอให้ฉันสวยก่อนแล้วค่อยว่ากัน บางทีผู้หญิงหุ่นเจ๊งก็อายเหมือนกันนะ ถ้าไม่เคยเจ๊งจะไม่เข้าใจ จากเคยดีแล้วเจ๊งเราจะรู้สึกไม่มั่นใจ คิดว่าอย่าเพิ่งทำการบ้านเลยให้แม่ไปดูแลตัวเองก่อนค่อยว่ากัน เบนซ์ว่าเขาดื้อ ไม่ทำจริงๆ นะซีเรียสมากเลยนะ พี่มิคจริงจังที่สำคัญคุยกับพี่ชาย ชาตโยดม ทั้งคู่เหมือนกันเลย ไม่ยอมทำหมันทั้งคู่ พี่ชายคุยกับพี่มิคให้หน่อย ชายคุยไม่ได้เพราะชายก็คิดเหมือนมิคเหมือนกัน”