ไปไม่ทันดูใจ! “ปั้นจั่น” ไม่กล้าบอกใครเป็นหลาน “น้าอ้อย กาญจนา” เพราะกลัวดีไม่พอ!

“ปั้นจั่น” รับไม่กล้าบอกใครว่าเป็นหลาน “อ้อย กาญจนา” เพราะกลัวตัวเองดีไม่พอ เล่าตนได้ซึมซับจิตวิญญาณ สปิริตนักแสดงมาจากน้าที่เป็นต้นแบบให้ และพาตนไปวิ่งเล่นกองถ่ายตั้งแต่เด็กๆ สถานะหัวใจโสด หลังจากนี้คงต้องหาแฟนเด็กเพราะแม่อยากอุ้มหลานแล้ว

เป็นเรื่องเซอร์ไพรส์สำหรับวงการบันเทิงเหมือนกัน ที่หลังจาก “อ้อย กาญจนา จินดาวัฒน์” เสียชีวิตก็ได้ทราบว่า “ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย” เป็นหลานชายแท้ๆ นักแสดงเจ้าบทบาท เมื่อผู้สื่อข่าวถามปั้นจั่น เจ้าตัวจึงเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างตนกับน้าอ้อยให้ฟัง....

“น้าอ้อยเป็นน้องสาวคุณแม่ผมครับ ผมเกิดมาน้าอ้อยก็เลี้ยงผมมาด้วย วิ่งเล่นกับลูกสาวแกตอนเด็กๆ ตอนเด็กๆ สนิทกันมาก เพราะแม่ผมกับน้าอ้อยเป็นพี่น้องที่ตามๆ กันมา ตอนเด็กๆ ก็จะไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกันบ่อย อาทิตย์นึงจะเจอกันครั้งนึงเป็นปกติอยู่แล้ว พอโตมาเริ่มทำงานก็ไม่ได้เจอกัน ก็ห่างกันไปช่วงนึง จะเจอลูกสาวน้าอ้อยบ่อย

ระยะ 3-4 เดือนที่ผ่านมาก็ทราบมาว่าแกเริ่มมีอาการโรคหัวใจ ซึ่งจริงๆ แล้วน้าอ้อยเป็นโรคหัวใจมานานแล้ว แล้วก็มีโรคอื่นแทรกด้วย ล่าสุดไปถ่ายรายการเสือสิงห์กระทิงแซ่บ ตอนนั้นป่วยแล้ว แต่ยังอยากทำงานอยู่ น้องๆ ก็ห้ามกันแล้วไม่อยากให้แกทำงาน แต่ตัวน้าเขาอยากทำงาน ก็วิ่งเข้าวิ่งออกโรงพยาบาลอยู่เป็นเดือน จนกระทั้งเมื่อวาน ประมาณอาทิตย์นึงแล้วที่ลูกๆ หลานๆ ญาติพี่น้องได้เข้าไปดูทุกวัน ความดัน ชีพจรก็ไม่ค่อยคงที่เท่าไหร่ ทางแพทย์ก็ให้ญาติมาพบ”

เล่าวันที่ “น้าอ้อย” จากไปตนไปดูใจไม่ทัน แต่ที่ผ่านมาก็ส่งกำลังใจให้อีกฝ่ายตลอด
“เมื่อวานแม่ผมโทร.มาตอนบ่าย 2 ว่าน้าอาการไม่ค่อยดีแล้ว ผมก็วิ่งไป พอถึงหน้ารพ.พระมงกุฎ น้าก็เสียพอดีแม่ ลูกสาว ลูกชาย ตัวน้าโต้งสามีแก ญาติๆ ก็อยู่กันครบ

ที่ผ่านมาได้คุยโทรศัพท์กับแก แล้วตอนที่ได้เจอน้าอ้อยก็เข้า ICU ไปแล้ว ตามความเข้าใจคือน้ารับรู้ แต่ไม่มีแรงที่จะโต้ตอบ ตอนที่คุยกันได้ก็ให้กำลังใจแก น้าโทร.หาแม่ค่อนข้างบ่อย เขาก็บอกว่าเขาเจ็บ เพราะมันมีโรคอื่นแทรกด้วย กินไม่ค่อยไหว กินอะไรก็กินไม่ค่อยลง ทางแม่ก็พยายามให้กำลังใจว่ายังไงก็ต้องกินนะ ผมก็บอกว่าเป็นกำลังใจให้ ไว้ไปเที่ยวกัน ให้น้าอ้อยสวดมนต์เยอะๆ รอบๆ ข้างเขาทุกคนให้กำลังใจเขา แต่ว่ามันค่อนข้างไปในทิศทางที่มันแย่แล้ว

น้าอ้อยยังอยากทำงานอยู่ คนเคยทำงาน เคยเจอคนเยอะๆ มีสังคม อยู่บ้านก็เบื่อ หลังๆ แกก็รับละครบ้างแต่ก็ไม่ได้เยอะเหมือนก่อน หลายคนไม่รู้ว่าแกมีปัญหาสุขภาพ”

บอกตอนนี้ “เพลง กวิตา จินดาวัฒน์” กำลังใจดี แต่หลังจากเสร็จงานก็คงต้องช่วยกันประคับประคองจิตใจกันไป
“ส่วนเพลงกำลังใจดี ตอนนี้ยังไม่มีเวลาเศร้า เขาก็ต้องเตรียมพิธี เตรียมงานต่างๆ ช่วงเวลานี้ทุกคนก็ต้องช่วยกันให้ผ่านไปด้วยกันได้ ผมไม่เคยมีประสบการณ์ แต่เราได้เห็นตอนแม่เสียตายายไป ช่วงงานเขาจะไม่มีเวลาเศร้า พอหลังจากนั้นเขาถึงจะดาวน์ ก็ต้องดูแลกันไป เพราะเป็นบ้านที่ครอบครัวผมสนิทมากๆ จริงๆ ผมกับเพลงโตมาด้วยกัน เหมือนพี่น้องกัน

น้าอ้อยจากไปไม่เชิงกระทันหัน สำหรับญาติๆ ลูกๆ เองมันก็ค่อนข้างเร็วไปหน่อย น้าเพิ่ง 61 ปี น่าจะอยู่ได้นานกว่านี้ ที่เข้ารพ.ล่าสุดแกก็อยู่มาเกือบ 3 อาทิตย์ แม่บอกว่าแกไม่ได้สั่งเสียอะไรไว้ สองคนนี้เขาสนิทกันมาก จะเป็นการให้กำลังใจกันมากกว่า น้าก็มีห่วงลูกๆ น้องชายของน้องเพลง แต่ก็ไม่ต้องห่วงครับเดี๋ยวทุกคนก็จะช่วยกันดูแล เพลงเขาก็ต้องเข้มแข็งเพื่อพ่อเขาด้วย เพราะพ่อเขาค่อนข้างที่จะเสียใจมากๆ”

ลั่นที่ผ่านมาไม่ได้บอกใครว่า “อ้อย กาญจนา” คือน้าเพราะกลัวตนเองดีไม่พอ ตนเองได้ซึมซับสปิริตนักแสดงจากน้าที่เป็นต้นแบบ
“น้อยคนมากที่จะรู้ว่าผมเป็นหลานแก เพราะตั้งแต่เด็กมาเลย ตอนเล็กๆ ผมเคยวิ่งตามน้ามากองถ่าย พอโตมาเข้าวงการ น้าบอกเสมอว่าถ้าหลานไปได้ด้วยตัวเอง ก็ทำ ผมก็ยึดหลักตรงนั้น เราไม่ได้มาด้วยการเป็นหลานของน้าอ้อย ผมก็ไม่ได้บอกใครว่าผมเป็นหลานน้าอ้อย ถ้าไม่มีคนถาม เพราะกลัวว่าเราจะดีไม่พอเดี๋ยวจะไปทำให้น้าเสียชื่อ แต่ในขณะเดียวกันน้าเองก็เป็นแบบอย่างของการทำงานให้ผม น้ามีความรับผิดชอบต่อการทำงานสูง แฟนคลับน้าเยอะ ในช่วงเวลาที่น้ายังสาวๆ เป็นนางเอกที่มีชื่อเสียงมาก เล่นละครมาเยอะมาก ดังมากๆ ส่วนนึงของสปีริตวิญญาณการเป็นนักแสดงที่อยู่เบื้องหน้าผมก็ซึมซับมาจนเป็นส่วนหนึ่งของเรา”

ปิดทาง “จตุรงค์ มกจ๊ก” อยากได้เป็นลูกเขย ตอนนี้ขอพักรัก
“เขาแซวผมมานานแล้ว ผมเจอใเฟิร์น (พัสกร พลบูรณ์) มาตั้งแต่อยู่อาร์เอส ผมเคยบอกว่าแกลูกพ่อน่ารักนะ พอมีข่าวนิกกี้ (ณฉัตร จันทพันธ์) ผมก็ไม่ไหวแล้ว วันนี้พ่อต้องพูดเพราะนิกกี้มันคงใช้ไม่ได้จริงๆ (แซวเล่นกันมาแบบนี้เป็น 10 ปีแล้ว?) คนรอบข้างผมจะรู้ว่าผมเคยบอกว่าเฟิร์นน่ารัก ตอนเด็กๆ น่ารักจริงๆ ตอนนี้มันก็น่ารัก(หัวเราะ)

(ตอนนี้ให้จีบเอาไหม คนจีบเขาเยอะ?) เซมาอย่าพลาดแล้วกัน ให้พ่อเปิดทางสิ ผมไม่ทีเล่นทีจริงแบบนิกกี้นะ เพื่อนกัน แต่รักลุงเหมือนพ่อ สวย พออนาคตมันก็ไม่แน่หรอก ปั้นเจ้าชู้ไง อยู่กับใครก็ลำบาก ตอนนี้ไม่มีของตัวเองเลย ตอนนี้ขอพักรักจริงๆ ตอนนี้มีงาน และที่มุ่งมั่นเลยก็คือกีฬา แค่นี้ไม่มีเวลาเหลือแล้ว เราผ่านมาเยอะแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเราจะดีพอสำหรับใครรึเปล่า”

เล่าแม่อยากอุ้มหลานแล้ว พ้อตนคงต้องหาแฟนเด็กเพราะตนแก่แล้ว
“แม่ก็บอกเสมอว่าความรักกับงานจะมาไม่พร้อมกัน จะสวนทางกัน มันก็เป็นอย่างนั้นตลอด ซึ่งตอนนี้ผมเลือกงาน มีใครไม่เลือกงานบ้าง เจอโควิดซะขนาดนี้ แต่ถ้าจะมีใครเข้ามา แล้วมันควบคู่ไปกับงานได้ด้วยดี ก็ดีนะครับ

แม่เขาก็บ่นอยู่ว่าอยากอุ้มหลาน ผมไม่กดดันเพราะผมเชียร์ให้น้องสาวรีบมีให้แม่แทน ผลักดันภาระไป ตอนนี้ต้องหาแฟนเด็กแล้วแหละ เพราะเราแก่แล้ว หนทางไม่ริบหรี่หรอก เพื่อนก็แค่จูงลูกกันมาแล้ว นั่งกินข้าวกันวันเกิดคนนึงมาเป็นคู่ คนนึงคู่ มาเป่าเค้กเรา เหงา เดี๋ยวลูกโตไม่ทันเพื่อน ตอนนี้โสดครับ”