xs
xsm
sm
md
lg

DITP ปลื้ม จัดแมชชิ่งออนไลน์ตลาดทวีปแอฟริกา สร้างยอดขายกว่า 1.64 ล้านเหรียญสหรัฐ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เป็นปลื้ม จัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจออนไลน์สินค้าอาหารและสินค้าอุตสาหกรรมกับผู้ซื้อ ผู้นำเข้าในตลาดภูมิภาคแอฟริกาประสบความสำเร็จเกินคาด มีการเจรจาจับคู่ธุรกิจ 39 คู่ มียอดการซื้อขายรวม 1,645,000 เหรียญสหรัฐ ทูตพาณิชย์แอฟริกาใต้ชี้ตลาดยังเปิดกว้างสำหรับสินค้าไทย คาดมีแนวโน้มซื้อเพิ่มขึ้นอีก หลังผู้ซื้อ ผู้นำเข้าแสดงความสนใจ
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยถึงผลการจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจออนไลน์ (Online Business Matching) สินค้าอาหารและสินค้าอุตสาหกรรม ระหว่างผู้ซื้อ ผู้นำเข้าในภูมิภาคแอฟริกากับผู้ส่งออกของไทย ระหว่างวันที่ 6-7 ส.ค.2563 ที่ผ่านมา ว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ มีผู้ส่งออกของไทยเข้าร่วมจำนวน 23 ราย ได้แก่ อาหาร 5 ราย ชิ้นส่วนยานยนต์ 14 ราย เครื่องจักรกล 1 ราย และเมล็ดพลาสติก 3 ราย และผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากทั้ง 4 ภูมิภาคของแอฟริกา เข้าร่วม 10 ราย ได้แก่ พริทอเรีย 2 ราย ไคโร 3 ราย ไนโรบี 3 ราย และอาบูจา 2 ราย โดยประสบความสำเร็จสามารถเจรจาจับคู่ธุรกิจได้ 39 คู่ มียอดการซื้อขายรวม 1,645,000 เหรียญสหรัฐ แยกเป็นการสั่งซื้อทันที 30,000 เหรียญสหรัฐ เป็นอาหาร 20,000 เหรียญสหรัฐ และชิ้นส่วนยานยนต์ 10,000 เหรียญสหรัฐ และภายในหนึ่งปี มูลค่า 1,615,000 เหรียญสหรัฐ เป็นอาหาร 400,000 เหรียญสหรัฐ และส่วนยานยนต์และผลิตภัณฑ์พลาสติก 1,215,000 เหรียญสหรัฐ
นายอภิรักษ์ แพพ่วง ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงพริทอเรีย แอฟริกาใต้ กล่าวว่า ไฮไลต์สำคัญในส่วนของตลาดแอฟริกาใต้อยู่ที่การเจรจาของ บริษัท MIT Auto Parts (Pty) Ltd. ที่สนใจนำเข้าสินค้าชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์จาก 4 บริษัทไทย โดยถ้าสามารถเดินทางมาดูการผลิตและสินค้าได้ด้วยตนเองในปีหน้าคาดว่าจะมีมูลค่าการสั่งซื้อประมาณ 300,000–400,000 เหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ นอกจากบริษัท MIT ขายชิ้นส่วนและอุปกรณ์รถยนต์ทั่วไปแล้ว ยังขายอะไหล่ส่วนประกอบให้กับบริษัทประกันภัยรถยนต์แอฟริกาใต้ด้วย
สำหรับตลาดแอฟริกาตอนเหนือ บริษัท Jessy Diffusion ผู้นำเข้าสินค้าอาหารรายใหญ่จากโมร็อกโก มีความสนใจนำเข้าสินค้าอาหารจากไทยหลายรายการ อาทิ กะทิ ซอสปรุงรส เส้นหมี่ แป้งข้าว แป้งชุบทอด ซึ่งจะเป็นโอกาสสำหรับสินค้าอาหารของไทยที่จะเข้าสู่ช่องทางการจำหน่าย mainstream มากขึ้น นอกเหนือจากสินค้านำเข้าจากภูมิภาคยุโรปที่มีการนำเข้าค่อนข้างสูงเนื่องจากมี FTA ระหว่างกัน
ส่วนของตลาดแอฟริกาตะวันออก ผู้นำเข้ารายสำคัญสินค้ายางรถยนต์และล้อรถยนต์จากประเทศเคนยา ได้แก่ บริษัท KINGSWAY TYRES LIMITED ซึ่งนำเข้ายางรถยนต์และล้อรถยนต์ (เน้นรถยนต์ขนาดใหญ่ เช่น รถบัส รถบรรทุก) สนใจนำเข้าสินค้ายางรถยนต์จำนวน 40,000 เหรียญสหรัฐ และล้อรถยนต์ 15,000 เหรียญสหรัฐ ผู้นำเข้าสินค้าอะไหล่รถยนต์จากประเทศเคนยา บริษัท Impala Auto Spares Ltd สนใจนำเข้าสินค้าอะไหล่รถยนต์ที่ทำจากยางหรือมีส่วนประกอบจากยาง จำนวน 200,0000 เหรียญสหรัฐ และบริษัท Nice House of Plastic ผู้ผลิตสินค้าเครื่องใช้จากพลาสติก นม และแบตเตอรี่จากประเทศยูกานดา สนใจนำเข้าวัตถุดิบในการผลิตสินค้าของกลุ่มบริษัท ได้แก่ เม็ดพลสติกประเภท PP, HPPE, และเม็ดโพลิเมอร์รวมมูลค่ากว่า 125,000 เหรียญสหรัฐ
ขณะที่ตลาดแอฟริกาตะวันตก มีผู้นำเข้าสินค้าเกี่ยวกับยานยนต์ ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ จำนวน 2 ราย ได้แก่ บริษัท Greenstone Auto Repairs Limited ผู้นำเข้าจากประเทศไนจีเรีย สนใจนำเข้าสินค้าน้ำมันเครื่อง น้ำมันหล่อลื่น กันชน อะไหล่ช่วงล่างและยางรถยนต์ และบริษัท Nana Yaw Hagan Enterprise ผู้นำเข้าจากประเทศกานา สนใจนำเข้าสินค้าชิ้นส่วนรถยนต์โดยสาร อาทิ เทอร์โบ แร็คพวงมาลัย ลูกหมากคันชักและปีกนกรถยนต์ ใส้กรองอากาศและกรองน้ำมันเครื่อง
“ตลาดแอฟริกา ยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพและผู้ส่งออกของไทย หลายรายให้ความสนใจ โดยเฉพาะสินค้าจำเป็นต่อการอุปโภคบริโภคที่ยังมีความจำเป็นต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการบริโภคภายในประเทศ และสินค้าชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งปัจจุบันเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของไทยมายังภูมิภาคนี้ โดยการจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจออนไลน์ จะช่วยเปิดโอกาสให้กับสินค้าไทยเข้าสู่ภูมิภาคนี้เพิ่มมากขึ้นและกระตุ้นการส่งออกของไทยในภาวะที่การส่งออกได้ชะลอตัวลงอย่างมากเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19”นายอภิรักษ์กล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น