“อ้อม” ถูกใจ “นาวา” เหมือนโคลนตนมา เริ่มช่วยงาน ช่วยปรามสามี จน“อาท” บ่นเหมือนมีแม่สองคน เผยสามีรักษาอาการนอนกรนจนกลับมาร่วมเตียงด้วยกันได้แล้ว แฮปปี้
ทำเอาคุณแม่ “อ้อม พิยดา จุฑารัตนกุล”ทึ่งกับการทำงานในฐานะยูทูปเบอร์วัยเด็กลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน “น้องนาวา” เอามากๆ ซึ่งสาวอ้อมเผยถึงเรื่องนี้ในงานแถลงข่าวภาพยนตร์เรื่อง Mother Gamer เกมเมอร์เกมแม่ ณ ลิโด้ 2 ลิโด้ คอนเน็คท์ โดยเผยว่าลูกสาวเริ่มรู้ว่าต้องทำยังไง คิดเอง ทำเองได้แล้ว
“เขาไปถ่ายเอง คือถ่ายรายการกันแล้วเราก็ไปทำนั่นนี่อยู่ นาวาเขาก็นัดกับตากล้องว่าไปถ่ายกันเอง ว่าเขาจะทำอันนั้นอันนี้ คิดเองของเขา เดี๋ยวนี้เริ่มคิดคอนเทนต์เองแล้ว แล้วก็มาดูแลแม่ เป็นผู้จัดการได้แล้วนะ มีวันนึงไปถ่ายเครื่องเพชรของเพื่อน เวลามีโทรศัพท์เข้ามาเขาก็จะรับบอกแม่ๆ ถ่ายอยู่นะคะ แล้วเราถ่ายเครื่องเพชรเราก็ต้องหน้านิ่งๆ เนอะ เขาก็บอกว่าแม่ๆ ไม่ยิ้มเลย เราก็ต้องยิ้ม พอเรานั่งไม่สวย เขาก็จะบอกแม่ๆ นั่งไม่สวยเลย พอเราจะแต่งหน้าก็วานเขาไปเรียกช่างแต่งหน้าให้หน่อย เขาก็บอกโอเคค่ะเรียกช่างหน้าช่างผมเลยนะคะ ใช้ได้ น่าจะเป็นเบื้องหลัง
เขาเห็นการทำงานของเราถึงได้รู้สเต็ปหมด เพราะเวลาทำงานหรือเวลาแม่โวยวาย อาละวาด วีน เขาก็จะมาบอกว่าแม่ไม่เป็นไรนะ ใจเย็นๆ เราเลยรู้สึกว่าแม่พูดแรงไปเหรอคะลูก เราก็ต้องซอฟต์ลง มีลูกคอยเตือน จะให้มาเป็นผู้จัดการให้เลยไหม ก็ดีเนอะ เถียงไม่ได้ด้วย ต้องยอมลูก สั่งแม่ได้ด้วยค่ะ แม่นั่งดีๆ แม่ยิ้มด้วย แต่ถ้าออกแดดแป๊บนึงบอกแม่ไม่เอาแล้วนะ ร้อน (หัวเราะ)”
บอกลูกสาวชอบงานเบื้องหลัง เพราะตนพาไปกองถ่ายตั้งแต่เด็กๆ
“เขาชอบเวลาไปกองถ่ายนะคะ เขาชอบเบื้องหลังมากกว่า แต่ตอนนี้ยังเด็กอยู่ ยังไม่ได้กล้าแสดงออกอะไรขนาดนั้น แต่เขาชอบเป็นทีมงาน อยู่เบื้องหลัง ถือสเลท แต่เบื้องหน้าไม่เอาเลย ขี้อายอยู่ค่ะ เพราะเราพาเข้ากองบ่อยค่ะ พาเข้ากองตั้งแต่เด็กๆ แล้วก็มอบหน้าที่ให้ เช่นเสิร์ฟน้ำพี่ๆ ทีมงาน ตามนักแสดง แล้วตามนักแสดงง่ายมาก ให้ลูกไปตามแป๊บเดียวมาเข้าฉากเลย คือปกติก็จะเป็นธุรกิจกองไปตาม แต่พอนาวาไปนี่มาเลย (หัวเราะ)
จริงๆ แล้วตอนเด็กๆ เราได้รู้ว่าพ่อหายไปไหน เด็กๆ เราก็จะงงว่าพ่อไปไหน แต่พอโตขึ้นมาถึงรู้ว่านี่คืองานของแม่นะ นี่คืองานของพ่อ เราก็อยากให้เขารู้ว่าในวันที่เราไม่อยู่บ้าน แล้วเราบอกว่าไปทำงาน เราทำอะไร เขาก็จะได้เห็นภาพว่าประชุมคืออะไร ทำงานคืออะไร เขาก็จะซึมซับเหมือนที่เราเคยซึมซับกับสิ่งที่พ่อแม่เลี้ยงเรามาแบบนี้”
อึ้ง “นาวา” เหมือนโคลนนิ่งตนมาเลย
“เหมือนโคลนเราเลยใช่ไหม (นิ่งคิด) อืม (หัวเราะ) บางทีพี่อาทก็บอกว่าปวดหัวจังเลย เหมือนมีแม่สองคน (หัวเราะ) คือบางอย่างที่เราคิดในใจว่าเราอยากว่าพ่อ แต่เราว่าไม่ได้แต่ลูกเราพูดออกไปแล้ว เราก็จะรู้สึกว่าถูกใจแม่จังเลย สมมติพ่อเขากลับมาบ้าน อย่างช่วงโควิดเราก็จะบอกว่ากลับมาก็เปลี่ยนชุดอาบน้ำเลย เขาก็รู้แหละ แต่ผู้ชายพอเข้ามาก็จะเดินไปหยิบโน่นนี่หน่อย ในใจเราก็คิดว่าเชื้อโรคทั้งนั้น ไปอาบน้ำได้ไหม
แต่ลูกพูดไปแล้วว่า พ่อคะ ไปอาบน้ำเลยค่ะ เรานี่ดีใจมาก แต่แม่ไม่ได้พูดนะ เพราะลูกเป็นเองแล้ว เราก็สอนเขา ได้เลือดแม่เลยค่ะ โชคดีที่เขาได้สิ่งดีๆ จากเราและสิ่งดีๆ จากพ่อ ไอ้ไม่ดีไม่ได้ไปจากเรา (หัวเราะ) เพราะเราก็จะไม่สอนสิ่งที่ไม่ดี”
แฮปปี้วันแม่ได้ไปดูปลาวาฬด้วยกัน เห็นแบบใกล้ชิด
“ปลาวาฬบรูด้า ที่บางตะบูน สมุทรสงคราม เหนื่อยมาก เป็นวันเดียวที่ได้หยุดจริงๆ เซอร์ไพรส์ ลูกมาบอกว่าแม่พรุ่งนี้ตื่นเช้านะ 6 โมง แต่ก็สนุกค่ะ ขึ้นเรือไปดู ก็โชคดีได้เห็นเป็นวาฬแม่ลูกพอดี แล้วเขาก็มาอ้าปากกินปลา แล้วก็โชคดีมากเรือกว่าจะกลับท่าก็จะประมาณ 4-5 โมงเย็นถ้าไม่ได้เจอ ซึ่งวันนั้นเรือก็กลับเที่ยงเลย เพราะประมาณ 9 โมงออกไปแป๊บเดียวก็เจอเลย แล้วเขาก็โชว์ตัวเหมือนอยู่ในสวนน้ำเลย ทั้งกระโดดด้วย อ้าปากกินปลา มาโชว์ข้างเรือเลย เหมือนรู้คิว”
เป็นตารางของคุณพ่อเขาค่ะ แต่ถือว่านาวาเป็นเด็กดวงดีมาก เด็กอะไรตัวแค่นี้เจอครบหมดแล้ว ฉลามวาฬแล้ว ปลากกระเบนแมนตาแล้ว เจอวาฬบรูด้า เจอดอลฟิน เยอะอยู่ค่ะ เพราะเรากว่าจะเจอก็ 20 กว่า ดำน้ำกว่าจะเจอ ฉลามวาฬไม่ได้เจอกันง่ายๆ โมเมนต์ซึ้งๆ ก็มีตื่นเช้ามาเขาเอาการ์ดมาให้ เขาทำทุกปี โรงเรียนให้ทำ (หัวเราะ) แต่เขาเข้าใจ เขาก็จะเขียน การ์ดเป็นแบบป๊อปอัพ เขาก็จะเขียน I love you mom , My momster เราก็ถาม I mean monster เขาเรียกอ้อมว่า momster คือ monster คือเราเป็นปีศาจ เอ๊ะยังไงลูก (หัวเราะ) เดี๋ยวว่าจะไปถาม ยังไม่ได้เคลียร์ แต่เขาจะเป็นเด็กแบบนี้ อยู่ดีๆ ก็มีมุกๆ อะไรแบบนี้ เขาจะแสบๆ ของเขา แล้วก็มีดอกมะลิ ปีนี้อ้อมเองก็ไม่ได้ไปหาคุณแม่ เพราะว่าคุณแม่ไม่ค่อยสบาย และนาวาเป็นหวัด เลยยังไม่ได้ไป รอให้บ้านเราเคลียร์ก่อนค่อยไป”
เผยตอนนี้ “อาท” กลับมานอนร่วมเตียงได้แล้ว เพราะไปรักษาอาการกรนจนเกือบหายดีแล้ว
“ตอนนี้กลับมานอนแล้วค่ะ นางไปรักษาสุขภาพการกรนของนางแล้ว กรนน้อยลง อาจจะอากาศหรือเปล่า เขาเป็นภูมิแพ้อยู่พักหนึ่ง นอนไม่ได้เลยนะ ตอนแรกเราปลุกเขาโกรธเลยนะ แล้วอยากมานอนกับลูกเขามานอนข้างนาวา คนปลุกลูกไม่ใช่เรา เป็นนาวา พ่อ (ทำท่าตี) ตีพ่อ เพราะพ่อกรนดังมาก เขาเลยไปนอนอีกห้องหนึ่ง แต่ตอนนี้ดีขึ้นมาก แล้วก็กลับมานอน
คือพี่อาทนอนกรนไม่เท่าไหร่ นาวาก็นอนกัดฟันด้วย และเรานอนกลาง ทางซ้ายก็กรอด ทางขวาก็คร่อก ก็ไม่ต้องนอนกันเลย แต่ตอนนี้ทุกอย่างลงตัวแล้วค่ะ กรนหายลง ลูกก็โตขึ้นด้วย แต่ก็เป็นอยู่หลายปีนะตอนนั้นนาวา 3-4 ขวบ แต่พี่อาทเพิ่งมาหายเมื่อเร็วๆ นี้ ตอนนี้ก็ลดลงกรนน้อยลง ถามว่ามีโนติสว่าถ้าไม่เลิกกรนจะไม่ให้นอนด้วยมั้ย เขารู้ตัวนะ เพราะว่าปลุกทั้งคืน
เขาก็ไปหาหมอค่ะ สรุปคือเขาเป็นไซนัส ก็ไปหาหมอมาเรียบร้อย เขาเป็นหนักเลย ตอนนั้นเราก็ตกใจเลยแหละ ตอนนั้นเขาเป็นเยอะจริง เราก็เป็นห่วงด้วย แต่ตอนนี้ดีขึ้น ไซนัสก็ไม่เป็นแล้ว ก็อาจจะมีหายใจแรงหรือกรนนิดหน่อยตามปกติผู้ชาย ตอนนี้แฮปปี้”