Ten Years คือ หนังโลกอนาคตที่มีอะไรไฮเทค แต่เล่าเรื่องฮ่องกงในอีก 10 ปีข้างหน้าที่ถูกจีนแผ่นดินใหญ่กลืนโดยสิ้นเชิง กลายเป็นหนังอื้อฉาว ที่สร้างเสียงวิจารณ์มากมายในฮ่องกง ตัวหนังไปไกลถึงคว้ารางวัลตุ๊กตาทองฮ่องกงยอดเยี่ยม
แต่ผลกระทบของ Ten Years กลับไปไกลกว่านั้น เมื่อหนังเรื่องต่อไปของผู้กำกับจาก Ten Years เข้าฉาย หนังกลับถูกแบนไม่ได้ไป ฉายในจีนแผ่นดินใหญ่แบบไม่มีเหตุผล สุดท้ายผู้กำกับคนดังกล่าวก็เลยตัดสินใจเผ่นออกนอกเกาะฮ่องกงไปอยู่แคนาดาเรียบร้อยแล้ว เพราะตอนนี้สถานการณ์การเมืองในฮ่องกงเริ่มจะเลวร้ายขึ้นเรื่อย ๆ
ดาราเจ้าของฉายา ซาลาเปาเนื้อคน ก็เป็นอีกคนที่ตอนนี้ชีวิตกำลังมีปัญหาเพราะเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง แอนโทนี หว่อง เป็นดารายอดฝีมือชาวฮ่องกงที่มีผลงานมาอย่างยาวนาน
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเขาได้มีโอกาสเล่นหนังดัง ๆ อย่างเรื่อง รวมถึงเคยได้แสดงเป็น อาจารย์ยิปมัน ตอนแรกใน P MAN: THE FINAL FIGHT แต่ล่าสุดผลงานของ แอนโทนี หว่อง กลับไม่มีโอกาสได้เข้าไปฉายในเมืองจีนอีกแล้ว จนทำให้เขาต้องเล่นหนังภาษากวางตุ้งในฮ่องกงเป็นหลัก เหตุผลก็คือเรื่องการเมืองนั่นเอง แอนโทนี หว่อง มักจะแสดงออกสนับสนุนประชาธิปไตในฮ่องกงอย่างชัดเจน จนกลายเป็นดาราอีกคนที่โดนแบล็คลิสต์ไปเรียบร้อยแล้ว
ดาราตลกที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดีอย่าง แชปแมน ตู้ ที่เคยร่วมแสดงในหนังดังอย่าง 2 คน 2 คม ก็เป็นดาราฮ่องกงอีกคนที่โดนแบนไปเรียบร้อยโรงเรียนจีนแล้วเช่นเดียวกัน
ในช่วงหนึ่ง แชปแมน ตู้ คือดาราตลกอันดับ 1 ของหนังฮ่องกง หนัง Naked Ambition 3D ที่เขาร่วมแสดงนำ ถือว่าเป็นหนังฟอร์มใหญ่ที่รวมดาราดังทั้งญี่ปุ่น และฮ่องกงเอาไว้มากมาย แต่ทุกอย่างก็จบลงเมื่อเขาเอ่ยปากสนับสนุนการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิบไตยในฮ่องกง
แชปแมน ตู้ อาจจะไม่ได้โดนแบนโดยตรง แต่ผลงานของเขาก็เริ่มทำงานในจีนได้น้อยลงเรื่อย ๆ ถึงขั้นที่ผู้กำกับดังอย่าง หวังจิง ประกาศว่าจะไม่แคสต์ แชปแมน ตู้ ในหนังของเขาอีกต่อไป เรียกว่าโดยแบล็คลิสต์แบบเงียบๆ ทั้งในฮ่องกง และในจีนแผ่นดินใหญ่ไปพร้อม ๆ กัน
ปัจจุบัน แชปแมน ตู้ ต้องหันไปรับงานที่สิงคโปร์ และมาเลเซีย เป็นหลัก และเล่นหนังฟอร์มเล็ก ๆ รวมถึงสร้างหนังเองเป็นหลัก แม้จะไม่ได้ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่เหมือนสมัยที่เขารุ่งสุด ๆ แต่ก็ถือว่าพอไปได้
ซึ่งก็ไม่ใช่เฉพาะดาราเชื้อสายจีนเท่านั้น ดาราฮอลลีวูดหลายคนก็โดนเมืองจีนแบนแบบเงียบๆ เช่นเดียวกัน ดารารุ่นใหญ่อย่าง ริชาร์ด เกียร์ ที่ตอนนี้แทบไม่มีงานเลย ก็เพราะเขาโดนทางการจีนแบนจากการที่ ริชาร์ด เกียร์ ให้การสนับสนุน ดาไล ลามะ ผู้นำผลัดถิ่นของทิเบตอย่างออกหน้าออกตา จนถ้าหนังเรื่องไหนมี ริชาร์ด เกียร์ แสดงก็ปิดโอกาสไปฉายในเมืองจีนได้เลย
ส่วน แฮร์ริสัน ฟอร์ด หนังไม่ได้แบน แต่ก็หมดสิทธิ์ไปเยือนจีนแผ่นดินใหญ่ เพราะเคยสนับสนุนทิเบตอย่างเปิดเผย ภรรยาของ ฟอร์ด ถึงขั้นเคยเขียนบทหนังชีวประวัติดาไลลามะ เรื่อง Kundun ซึ่งทางการจีนไม่พอใจมาก แม้หนังจะเก่าร่วม 20 ปีแล้วแต่รัฐบาลปักกิ่งก็ยังไม่ลืม
ในเวลาเดียวกันดาราเชื้อสายจีนก็โดนชาวฮ่องกงประกาศแบนบ้างเหมือนกัน อย่าง หลิวอี้เฟย ที่ชาวฮ่องกงหลายคนประกาศไม่ดูหนัง Mulan หลังเธอแสดงความเห็นสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เช่นเดียวกับ เฉินหลง ที่ชาวฮ่องกงจำนวนไม่น้อยที่แอนตี้เขาอย่างรุนแรง เพราะจุดยืนทางการเมืองของ เฉินหลง ที่สนับสนุนรัฐบาลปักกิ่งแบบเต็มตัว ซึ่งดาราเหล่านี้ก็คงเลือกไม่ยาก ระหว่างตลาดหนังฮ่องกงที่หนังดัง ๆ จะทำเงินได้ประมาณ 150 ล้านบาท ส่วนตลาดหนังจีนถ้าฮิตถึงระดับหนังเรื่องหนึ่ง ๆ สามารถทำเงิน 4,000 ล้านบาทได้อย่างสบาย ๆ เปรียบเทียบแบบนี้ คงไม่ต้องถามว่าดาราจำนวนมากจะเลือกข้างไหน
แต่ผลกระทบของ Ten Years กลับไปไกลกว่านั้น เมื่อหนังเรื่องต่อไปของผู้กำกับจาก Ten Years เข้าฉาย หนังกลับถูกแบนไม่ได้ไป ฉายในจีนแผ่นดินใหญ่แบบไม่มีเหตุผล สุดท้ายผู้กำกับคนดังกล่าวก็เลยตัดสินใจเผ่นออกนอกเกาะฮ่องกงไปอยู่แคนาดาเรียบร้อยแล้ว เพราะตอนนี้สถานการณ์การเมืองในฮ่องกงเริ่มจะเลวร้ายขึ้นเรื่อย ๆ
ดาราเจ้าของฉายา ซาลาเปาเนื้อคน ก็เป็นอีกคนที่ตอนนี้ชีวิตกำลังมีปัญหาเพราะเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง แอนโทนี หว่อง เป็นดารายอดฝีมือชาวฮ่องกงที่มีผลงานมาอย่างยาวนาน
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเขาได้มีโอกาสเล่นหนังดัง ๆ อย่างเรื่อง รวมถึงเคยได้แสดงเป็น อาจารย์ยิปมัน ตอนแรกใน P MAN: THE FINAL FIGHT แต่ล่าสุดผลงานของ แอนโทนี หว่อง กลับไม่มีโอกาสได้เข้าไปฉายในเมืองจีนอีกแล้ว จนทำให้เขาต้องเล่นหนังภาษากวางตุ้งในฮ่องกงเป็นหลัก เหตุผลก็คือเรื่องการเมืองนั่นเอง แอนโทนี หว่อง มักจะแสดงออกสนับสนุนประชาธิปไตในฮ่องกงอย่างชัดเจน จนกลายเป็นดาราอีกคนที่โดนแบล็คลิสต์ไปเรียบร้อยแล้ว
ดาราตลกที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดีอย่าง แชปแมน ตู้ ที่เคยร่วมแสดงในหนังดังอย่าง 2 คน 2 คม ก็เป็นดาราฮ่องกงอีกคนที่โดนแบนไปเรียบร้อยโรงเรียนจีนแล้วเช่นเดียวกัน
ในช่วงหนึ่ง แชปแมน ตู้ คือดาราตลกอันดับ 1 ของหนังฮ่องกง หนัง Naked Ambition 3D ที่เขาร่วมแสดงนำ ถือว่าเป็นหนังฟอร์มใหญ่ที่รวมดาราดังทั้งญี่ปุ่น และฮ่องกงเอาไว้มากมาย แต่ทุกอย่างก็จบลงเมื่อเขาเอ่ยปากสนับสนุนการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิบไตยในฮ่องกง
แชปแมน ตู้ อาจจะไม่ได้โดนแบนโดยตรง แต่ผลงานของเขาก็เริ่มทำงานในจีนได้น้อยลงเรื่อย ๆ ถึงขั้นที่ผู้กำกับดังอย่าง หวังจิง ประกาศว่าจะไม่แคสต์ แชปแมน ตู้ ในหนังของเขาอีกต่อไป เรียกว่าโดยแบล็คลิสต์แบบเงียบๆ ทั้งในฮ่องกง และในจีนแผ่นดินใหญ่ไปพร้อม ๆ กัน
ปัจจุบัน แชปแมน ตู้ ต้องหันไปรับงานที่สิงคโปร์ และมาเลเซีย เป็นหลัก และเล่นหนังฟอร์มเล็ก ๆ รวมถึงสร้างหนังเองเป็นหลัก แม้จะไม่ได้ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่เหมือนสมัยที่เขารุ่งสุด ๆ แต่ก็ถือว่าพอไปได้
ซึ่งก็ไม่ใช่เฉพาะดาราเชื้อสายจีนเท่านั้น ดาราฮอลลีวูดหลายคนก็โดนเมืองจีนแบนแบบเงียบๆ เช่นเดียวกัน ดารารุ่นใหญ่อย่าง ริชาร์ด เกียร์ ที่ตอนนี้แทบไม่มีงานเลย ก็เพราะเขาโดนทางการจีนแบนจากการที่ ริชาร์ด เกียร์ ให้การสนับสนุน ดาไล ลามะ ผู้นำผลัดถิ่นของทิเบตอย่างออกหน้าออกตา จนถ้าหนังเรื่องไหนมี ริชาร์ด เกียร์ แสดงก็ปิดโอกาสไปฉายในเมืองจีนได้เลย
ส่วน แฮร์ริสัน ฟอร์ด หนังไม่ได้แบน แต่ก็หมดสิทธิ์ไปเยือนจีนแผ่นดินใหญ่ เพราะเคยสนับสนุนทิเบตอย่างเปิดเผย ภรรยาของ ฟอร์ด ถึงขั้นเคยเขียนบทหนังชีวประวัติดาไลลามะ เรื่อง Kundun ซึ่งทางการจีนไม่พอใจมาก แม้หนังจะเก่าร่วม 20 ปีแล้วแต่รัฐบาลปักกิ่งก็ยังไม่ลืม
ในเวลาเดียวกันดาราเชื้อสายจีนก็โดนชาวฮ่องกงประกาศแบนบ้างเหมือนกัน อย่าง หลิวอี้เฟย ที่ชาวฮ่องกงหลายคนประกาศไม่ดูหนัง Mulan หลังเธอแสดงความเห็นสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เช่นเดียวกับ เฉินหลง ที่ชาวฮ่องกงจำนวนไม่น้อยที่แอนตี้เขาอย่างรุนแรง เพราะจุดยืนทางการเมืองของ เฉินหลง ที่สนับสนุนรัฐบาลปักกิ่งแบบเต็มตัว ซึ่งดาราเหล่านี้ก็คงเลือกไม่ยาก ระหว่างตลาดหนังฮ่องกงที่หนังดัง ๆ จะทำเงินได้ประมาณ 150 ล้านบาท ส่วนตลาดหนังจีนถ้าฮิตถึงระดับหนังเรื่องหนึ่ง ๆ สามารถทำเงิน 4,000 ล้านบาทได้อย่างสบาย ๆ เปรียบเทียบแบบนี้ คงไม่ต้องถามว่าดาราจำนวนมากจะเลือกข้างไหน