อย่าด่าพ่อแม่ก็พอ “จั๊กจั่น” ไม่แคร์ ถูกด่าหน้าแก่ไม่เหมาะเล่นสะใภ้ไร้ศักดินา ลั่นเป็นยุคเสรีทางโซเชียล

“จั๊กจั่น อคัมย์สิริ” ไม่ซีเรียส ถูกด่าหน้าแก่ ไม่เข้ากับบท “ปลิวลม” ในสะใภ้ไร้ศักดินา ลั่นบทมีที่มาที่ไป ด่าแก่ก็ไม่เป็นไร อย่าด่าพ่อแม่ก็พอ บอกเป็นยุคเสรีทางโซเชียล แฮปปี้คบหนุ่มนอกวงการ เรียกแฟนได้ กังวลเตรียมหยุดงาน 4 เดือนผ่าเข่า รักษาอาการหมอนรองกระดูกฉีกขาด

เล่นละครรีเมกที่เคยโด่งดังสุดๆ ที่ส่งให้ “เบนซ์ พรชิตา ณ สงขลา” ดังเปรี้ยง รวยเละจากเดินสายทัวร์คอนเสิร์ต แฟนๆ ร้องเพลงกินจุ๊บจิ๊บกันทั้งบ้านทั้งเือง กับสะใภ้ไร้ศักดินา ไม่ทันไร “จั๊กจั่น อคัมย์สิริ สุวรรณศุข” ก็ถูกวิจารณ์แรงซะแล้ว ส่วนใหญ่พูดทำนองว่าหน้าแก่เกินไป ไม่เข้ากับบทปลิวลม ล่าสุดสาวจั๊กจั่นได้เปิดใจถึงประเด็นดังกล่าว ยันไม่ซีเรียส เป็นยุคเสรีที่ใครจะวิจารณ์อะไรก็ได้ ขอแค่อย่าด่าพ่อแม่ก็พอ

“เวอร์ชั่นนี้อยากให้ทุกคนติดตามค่ะ เพราะว่าอยากบอกว่าสนุกมาก นักแสดงคับคั่ง เพลงก็เป็นเพลงที่แต่งใหม่ด้วย เข้ากับยุคสมัย ไม่ใช่แค่จั่นร้องนะ นักแสดงท่านอื่นก็ร้องด้วย มุกตลกแบบแน่นๆ จัดเต็ม รับรองว่าสนุกแน่นอน ดูไปต้องยิ้มตาม ตอนจั่นถ่ายเองยังรู้สึกว่าละครเรามันเป็นละครตลกดีเนอะ หัวเราะตลอดเลย ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีละครแนวร้องนานแล้ว จั่นรู้สึกว่าน่าจะได้รับผลตอบรับที่ดี อยากให้ทุกคนดูกัน เพราะว่าช่วงที่ผ่านมา เราก็ค่อนข้างจะเครียดกัน ถ้าได้มาดู ก็จะได้ยิ้มตาม

จั่นไม่ได้เป็นครั้งแรกที่เล่นแนวนี้ ครั้งที่สองแล้ว นอกนั้นก็จะเป็นเพลงประกอบละคร แต่ว่าด้วยความที่เราก็ไม่ค่อยถนัดร้องลูกทุ่ง แล้วก็ค่อนข้างที่จะตื่นเต้นนิดหนึ่ง แต่พวกพี่ๆ เขาก็อยากให้ทำเต็มที่ในแบบของเรา

ถามว่ากดดันไหม ด้วยเป็นคนที่เล่นละครรีเมกมาเยอะมากหลายเรื่อง เราก็รู้สึกว่า เราจะไม่กดดันตัวเอง เพราะว่าเรื่องนี้ รู้สึกว่าภาคแรกนี่จะ 19 ปีมาแล้ว ด้วยความที่เนื้อเรื่องมันก็ปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย บทก็ปรับใหม่ ตอนนี้ก็จะมีเรื่องของออนไลน์ ของเฟซบุ๊ก ของไลฟ์สดเข้ามาแทน ก็เลยไม่กดดันอะไรพยายามรีแลกซ์ แต่ที่จะกดดันเป็นในเรื่องของการพูดภาษาอีสาน ต้องทำการบ้านเยอะมากพอสมควร ต้องเขียนแบบเป็นคาราโอเกะก่อน เข้าใจเลยว่าแบบคนที่เขาไปเล่นภาษาจีนคือต้องเก่งมาก”

เผยเต็มที่ร้องเต้นเพลงตำโป๊ก (รักน้องต้องหมั่นตำ) ทั้งที่ยาก หมอนรองกระดูกฉีกขาด
“เพลงตำโป๊กก็เต็มที่นะ ด้วยความที่เราก็อยากสนุกไปกับมัน แต่ยากเหมือนกันที่ต้องเต้น เพราะหมอนรองกระดูกฉีกขาดอยู่ เป็นอุบัติเหตุในการถ่ายทำ ก็พยายามออกแบบท่าเต้นให้ที่ทิ้งน้ำหนักไปที่ขาซ้าย ก็พยายามหาจุดที่ลงตัว แล้วก็ทำให้คนดูสนุกที่สุด แสดงสปิริตเต็มที่”

เมินกระแสวิจารณ์แก่รับบทปลิวลม ลั่นอายุในเรื่องเปลี่ยน เนื้อเรื่องมีที่มาที่ไป
“เราคิดว่าอันนี้มันแล้วแต่ เพราะว่าบทมันก็เปลี่ยน ปลิวลมตอนเด็ก ที่เคยดูของพี่เบนซ์ จะอายุ 19 แต่ในเรื่องนี้ปรับเปลี่ยนมาเป็นอายุ 27 เราก็รู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันมีที่มาที่ไป ถามว่าถูกเปรียบเทียบกดดันไหม ไม่ค่อยกดดันเท่าไหร่ เพราะที่ผ่านมาเรื่องที่เคยเล่นๆ มากดดันมากกว่า ถามว่าชินไหม คือด้วยความที่ทีมงานคนละทีมกัน บทละครก็เขียนขึ้นใหม่ นักแสดงก็ใหม่ ยุคสมัยก็เปลี่ยน จั่นรู้สึกว่าถ้าเขาทำมาเหมือน ก็คงไม่ทำ เราก็ทำหน้าที่ในส่วนของเราให้ดีที่สุด ก็อยากให้ทุกคนดูแบบสนุกสนานค่ะ ก็ไม่ได้กดดันอะไร

คำวิจารณ์ก็ไม่นอยด์เลย รู้สึกว่าเฉยๆ ค่ะ อยากให้ดู เพราะเราไม่ได้ไปเล่น กว่าจะรู้เดียงสา ที่บทเป็น 10 ต้นๆ ก็เลยไม่ได้ซีเรียส อยากให้ทุกคนจับตาดู ด้วยความที่เนื้อเรื่อง บทมันปรับเปลี่ยน ก็รู้สึกว่าอยากให้ดูก่อน จั่นไม่ได้ซีเรียสกับคำวิจารณ์หรือว่าอะไรในโซเชียลอยู่แล้ว เพราะว่างานเรายังไม่ได้ออกไป ต่างคนต่างก็มีความคิดเห็นของแต่ละคน แล้วเดี๋ยวนี้มันเป็นยุคเสรีทางโซเชียล
ถามว่าเราเสพดรามาไหม จั่นก็ไม่ซีเรียสนะ เราทำเต็มที่ในแบบของเรา อย่างที่บอกว่าบทมันก็มีการปรับเปลี่ยน ลองติดตามดูก่อนนะคะ ส่วนที่บอกว่าหน้าแก่ไม่เข้ากับบท จริงเหรอ งั้นต้องติดตามดูค่ะ ว่าเข้าหรือไม่เข้า คือจั่นไม่ได้ซีเรียส เพราะถ้าซีเรียส คงต้องซีเรียสตั้งแต่เรื่องเก่าๆ 5-6 เรื่องที่เคยเล่นมาแล้ว ก็เลยปล่อยไหลสบายๆ เอาอยู่”

ไม่ได้ด่าพ่อแม่ก็เฉยๆ
“ถามว่าเรามีอารมณ์บ้างไหม ไม่ๆ ถ้าเขาไม่ได้ด่าบิดามารดาเรา เราก็เฉยๆ ค่ะ”

รักแฮปปี้ ควงทำบุญวันเกิด เปิดตัวมากขึ้น
“แฮปปี้ดีค่ะ วันเกิดเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว มีรูปออกมา ก็ไปทำบุญวันเกิดปกติ ไปกับเพื่อนๆ ปกติไม่มีอะไร ถามว่าเปิดตัวในกลุ่มเพื่อนไหม คืออย่างที่บอกไปว่าไม่ได้ปิดนะ แต่ว่าอยากให้มันเป็นไปตามสเต็ปธรรมชาติ ต่างคนต่างเรียนรู้กัน เพราะว่าเราจะได้เป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด รู้ว่าเขายอมรับเราได้ไหม เรายอมรับเขาได้ไหมแค่นั้นเอง เราก็พาไปทำบุญเรื่อยๆ เหมือนเวลาเราคบใคร ก็ไปตามปกติ เพียงแต่ว่ายังไม่ได้เปิดกับสื่อว่าเป็นใครแค่นั้นเอง แต่ว่าไม่ได้ปิดนะ”

แซวสื่อไม่ทำการบ้าน มีคนที่คุยมา 2 ปีแล้ว เรียกแฟนได้
“มีค่ะมี ตกข่าวนะเนี่ย สัมภาษณ์ไปตั้งนานแล้ว 2 ปีแล้วไม่ทำการบ้านเลย (หัวเราะ) ต้องทำการบ้านหน่อยนะ ถ้าถามว่าต้องปรับตัวอะไรไหม ค่อยเป็นค่อยไปค่ะ ด้วยความที่รุ่นราวคราวเดียวกัน เพื่อนๆ ก็รุ่นเดียวกัน ก็อาจจะไม่ได้มีอะไรมาก มีช่วงแรกๆ ก็ต้องเรียนรู้เรื่องของการทำงาน ด้วยความที่ไม่ได้ต่างกันมาก ในช่วงอายุหรือว่าความคิดก็ไม่ได้แตกต่างอะไรมาก

ถามว่าเรียกแฟนได้ไหม ก็ใช่ เป็นผู้ชายที่สนิท นี่ก็ไม่ทำการบ้านอีกแล้ว เราไม่ได้ปิด แค่อย่างที่บอกว่าอยากเรียนรู้กันไป ด้วยความที่เขาไม่ใช่คนในวงการ ก็อยากให้เขาเป็นตัวของตัวเองเต็มที่ เราก็จะได้เรียนรู้กัน ในแบบที่เราเป็น ไม่ใช่ว่าไปไหนแล้วต้องระวัง จนกลายเป็นไม่เป็นตัวของเอง แล้วก็อย่างที่บอกไป ถ้าพร้อมเมื่อไหร่บอกแน่นอน แต่ว่าไปไหนมาไหนก็คือไม่ได้ปิด ปกติ เป็นความสบายใจของเราทั้งคู่ ตอนนี้ก็แฮปปี้ค่ะ”

เตรียมหยุดงาน 4 เดือนผ่าเข่า รักษาหมอนรองกระดูกฉีกขาด งอยืดสุดไม่ได้
“ต้องผ่าแล้ว เพราะหมอนรองกระดูกหัวเข่าฉีกขาด แล้วเลือดมันไม่ไปเลี้ยงตรงนั้นก็ต้องเย็บอย่างเดียว ต้องพักฟื้น จะมีปัญหาก็คือจะไม่สามารถงอได้สุด ยืดได้สุด ก็ไกล้แล้วค่ะ อีกเรื่องหนึ่งก็ใกล้แล้วเหมือนกัน ก็คือเสร็จแล้วก็ต้องไปคุยกับคุณหมอว่าจะยังไง เพราะมันต้องพักฟื้น 4 เดือน ด้วยความที่มันลงน้ำหนักไม่ได้

ถามวิธีรักษาทางอื่นแล้วแต่มันเป็นหมองรองกระดูกหัวเข่า เป็นกระดูกอ่อน เลือดมันไม่ไปเลี้ยง ถ้าเราไม่ผ่า แล้วปล่อยไว้นานๆ ถ้ากระดูกมันมาทบกัน อายุเยอะขึ้นมันก็จะมีปัญหา ก็กลัวเหมือนกัน ไม่เคยผ่า แต่เขาบอกว่าเดี๋ยวนี้ไม่น่ากลัวแล้ว มีแบบเจาะหัวเข่าแล้วก็ส่องกล้อง ตอนผ่าไม่น่ากลัว แต่จะน่ากลัวหลังจากผ่า ที่เราต้องหมั่นกายภาพให้มันกลับมาใช้งานได้ คือเราต้องพัก 4 เดือน ถ้าสมมติว่าหายเร็วกว่านั้น แต่อยากจะให้หายเต็มที่ หายสนิทก่อนที่จะมาลุยงาน หายร้อยเปอร์เซ็นต์ไหม อยู่ที่เรากายภาพ โอกาสกลับมาเป็นเหมือนเดิมก็มี ผ่าตัดก็ต้องถ้าเรากายภาพเหมือนเดิม นักบอลเขาก็วิ่งฉิวเห็นไหม”

รับกังวล ทั้งชีวิตไม่เคยหยุดงานเกิน 5 วันมาก่อน
“เราก็กังวลนะ เราไม่เคยผ่า คนเรากระฉับกระเฉงมาตลอด ต้องมาใส่ที่ล็อกหัวเข่า แล้วก็ห้ามงอหัวเข่าเลยเป็นเดือน เราก็ต้องขยันกายภาพ แล้วคนเคยทำงานทุกวัน ในชีวิตไม่เคยหยุดงานเกิน 5 วัน แต่ก็ได้ซ้อมมาแล้วช่วงโควิด ก็เลยคิดว่าน่าจะได้อยู่”