xs
xsm
sm
md
lg

ใจพี่ได้! “เคลลี่” ไม่แจ้งความ ยังให้โอกาสคนโกงนาฬิกา นำเงิน 2 แสนมาคืน!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เคลลี่” แจงถูกร้านนาฬิกาดังเบี้ยวเงิน 2 แสน ไม่แจ้งความ ช่วงโควิดไม่อยากทวงหนี้ใคร เปิดใจยังให้โอกาส เพราะสงสาร ถือว่าฟาดเคราะห์ โอดโควิดเล่นงาน ร้านอาหารยอดขายตกเหลือ 4 พัน จากเคยมีรายได้เป็นแสน บอกช็อกไปเหมือนกัน

เป็นคนดังอีกคนที่มีรายชื่อถูกร้านนาฬิกาดังเบี้ยวเงิน งานนี้ “เคลลี่ ธนะพัฒน์” เปิดใจว่าตนไม่อยากให้สัมภาษณ์เรื่องนี้สักเท่าไหร่ เพราะเคยค้าขายนาฬิกากันมาก่อน และยังเห็นเจตนาอีกฝ่ายที่ยังคืนมาครึ่งหนึ่ง เหลือค้างอีก 2 แสน ให้โอกาสอีกฝ่ายทยอยจ่าย

“จริง ๆ ผมไม่ได้อยากจะไปสัมภาษณ์เรื่องนี้มาก ผมไม่ได้แจ้งความกับเรื่องนี้ ต้องบอกก่อนว่า เราเคยค้าขายกันเคยซื้อนาฬิกา เคยคืนและเปลี่ยนเป็นรุ่นอื่น ซึ่งก็ไม่เคยมีปัญหามาก่อนหน้านี้เลยครับ ปัญหากับนาฬิกาของผมที่เกิดขึ้นน่าจะประมาณปลายปีที่แล้ว ผมได้ส่วนหนึ่งคืนมา ได้คืนมาครึ่งหนึ่ง”

“ส่วนเกิดอะไรขึ้นไม่ทราบครับ ผมเอานาฬิกาไปฝากเพื่อที่จะขายแล้วเรื่องก็เงียบจนเวลาผ่านไป ก็ถามเขาว่าขายได้หรือยัง แต่ผ่านไป 2-3 เดือน ผมก็ถามอีกว่าขายได้หรือยัง ถ้ายังขายไม่ได้เป็นไรนะครับเดี๋ยวผมขอคืน ทางเขาแจ้งมาว่ามีคนมามัดจำ ให้มัดจำมาแล้วทยอยให้ ก็เอะใจ คิดว่าเขาอาจจะมีปัญหา เขาก็บอกว่าขอทยอยจ่ายให้ได้ไหม เราก็ให้โอกาสเขา เจอเรื่องโควิด-19 เราก็ไม่อยากไปตามทวงหนี้ใคร ผมก็ได้ยินมาบ้างว่าเขาอาจจะมีปัญหาเรื่องการเงิน แต่เขาก็มีเจตนาที่จะผ่อนจ่ายคืน เราก็อยากให้โอกาสเขาถึงไม่ได้ไปแจ้งความ แล้วก็มีการพูดคุย แต่ที่ผ่านมาก็ไม่ได้คุยกันมาหลายเดือนแล้ว”

ได้คืนเงิน 2 แสน ค้างอีก 2 แสน ถือว่าฟาดเคราะห์ ยังอยากให้โอกาส
ประมาณ 4 แสนบาทครับ ผมได้คืนมา 2 แสนบาท ถามว่ากลัวที่เหลือจะไม่ได้คืนไหม น่าจะได้แล้วแหละครับ คิดว่าอย่างนั้น เพราะพอเป็นข่าวก็ได้ทราบมาว่ามีหลายคนที่โดนและมูลค่าเกินล้านด้วยซ้ำ เป็นหลักล้าน ของเราก็ถือว่าฟาดเคราะห์ไป โชคดีที่เราไม่ได้โดนเยอะกว่านี้ ทำใจไว้ระดับหนึ่งแล้วครับ ถ้าได้คืนก็ดี อย่างที่บอกเรามีเจตนาที่จะให้โอกาสเขา แต่เมื่อกี้ที่นักข่าวบอกในเมื่อเขาโดนจับไปแล้วก็น่าจะยากครับ”

“ถามว่าไว้ใจเขาขนาดไหน ไว้ใจเลยครับ เรารู้จักกัน ทำการค้าขายกัน เขาเป็นนักธุรกิจที่พูดจาดี มีความรู้ พอเราซื้อนาฬิกาไป งานแต่งงานของผมเขาก็ให้ของขวัญมา เราก็ไว้ใจ 100 เปอร์เซ็นต์เลยจริงๆ ครับ”

ไม่ซื้อขายทางไลน์เหมือน "เชียร์ ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์"
“ของแบบนี้ไม่ซื้อทางไลน์ครับ ต้องเห็นของจริง การซื้อทางไลน์ อาจจะเป็นเฉพาะบางคนที่เขาสนใจ บางทีเราเห็นเขาโพสต์ก็อาจจะทักไปถามว่าเรือนนี้เท่าไหร่ สุดท้ายยังไงต้องเข้าไปดูเข้าไปเห็นของจริง ต้องไปตรวจเช็กครับ”

“ถามว่าเราไม่ได้เชื่อเพราะดาราคนอื่นก็ซื้อขายเหมือนกันใช่ไหม ผมว่ามันก็รวม ๆ ด้วยครับ ไม่ใช่แค่ดาราแต่ลูกค้าหลาย ๆ คน เพราะเขาก็โพสต์ขอบคุณคนนั้นคนนี้ที่มาอุดหนุนร้าน บอกว่าทั้งดาราและลูกค้าหลาย ๆ คนที่น่าเชื่อถือ”

เพิ่งคุยกับเชียร์ สงสารโดนหนัก
“เพิ่งได้คุยเมื่อวานครับ ไปถ่ายรายการก็เพิ่งได้ถามเขา เขาโดนเยอะก็สงสารมาก โดนหนักเลย ตอนแรกก็คิดว่าน้องไปซ่อม จริงๆ น้องก็ฝากขายเหมือนกัน เหมือนกันเลย เราคุยกันเราก็ยังงงเพราะว่าเชียร์ก็มีความรู้สึกเหมือนกันว่าเราซื้อขายกันมานาน ไว้ใจกัน ไม่เคยมีปัญหา แต่ตอนที่เกิดปัญหากับผมหรือกับเชียร์ไม่ได้คุยกัน ต่างคนต่างไม่รู้ พอเห็นข่าวแล้ว เห็นว่ามีหลายคนที่ดูแล้วจำนวนตัวเลขก็คงต้องทำใจ”

ไม่เข็ด แต่จะระวัง
“ มันไม่ได้เชิงว่าเข็ดต้องบอกว่าที่ผ่านมาก็เคยโดนมาเหมือนกัน เชื่อว่าหลายคนก็คงเคยโดนเรื่องเงินที่ไม่ได้คืน อันนี้ไม่ได้ถือว่าเข็ดแต่อาจจะต้องระวังมากขึ้น อย่างนี้เราให้ไปเราก็ไม่ได้มีสัญญาซื้อขาย แล้วพอเวลาผ่านไปจริงๆ เราก็ควรที่จะไปเอาคืนตั้งแต่แรก ไม่ใช่ปล่อย แต่คือเราให้โอกาส ปล่อยเวลาผ่านไปนานไปหน่อย (หลังจากนี้ก็คือจะปล่อยไปเลย?) ก็แอบสงสารครับ แต่ก็ให้ความร่วมมือถ้าเกิดเจ้าหน้าที่ต้องการ เท่าที่สัมภาษณ์ไปก็เท่าที่รู้ครับ ประมาณนี้”

เผยเป็นนักแสดงอิสระ ไม่มีสัญญาช่อง 7 นานแล้ว เล่นกับช่องอื่นอยากหาประสบการณ์
ที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีสัญญากับช่อง 7 ครับ เป็นสัญญาใจมาโดยตลอดแต่ทางช่องก็น่ารักให้งานให้ละครตลอด อยู่ด้วยกันมาตลอด 10 กว่าปี เปรียบเหมือนบ้าน รู้จักกับทุกคน แต่ละค่ายก็ สนิทสนมกัน หลายคนก็เลยคิดว่าเล่นแต่ช่อง 7 ซึ่งจะใช่ครับ เล่นแต่ช่อง 7 เพราะว่าเรามีละครต่อเนื่องตลอด

ถามว่าทำไมอยู่ดีๆ ไปลองเล่นช่องอื่น มันไม่ใช่อยู่ดีๆ วันนี้ จริงๆ ก็มีคนติดต่อมาเรื่อยๆ เริ่มจากตอนแรกคือไปออกรายการ เราทำธุรกิจเราก็อยากไปออกรายการโปรโมตสินค้า แต่เรื่องของละครเราอาจจะมองด้วยจังหวะที่ ช่วงของโควิด-19 ผมไม่ได้ถ่ายละครมา 7 เดือน เป็นจังหวะที่ว่างแล้วก็ได้ไปถ่ายละครกับที่อื่นบ้าง โดยอายุด้วยเราก็มองว่าอยู่ในวงการมานานเราก็อยากจะได้รับบทที่ (ทำท่าคิด) ต้องบอกว่าหาประสบการณ์เรื่อย ๆ แต่ละช่อง แต่ละค่ายเขาทำละคร แนวทางละครมันไม่เหมือนกัน แล้วบทที่รับไปก็ถือว่าเป็นบทที่ท้าทายครับ

ซึ่งเราไม่ได้ประกาศว่าอิสระนะครับอันนั้นเป็นการพาดหัวข่าว ต้องบอกว่าถ้าช่อง7เสนอละคร คิวเราได้เราก็ยินดี เราก็ทำงานกันเหมือนเดิมครับไม่ใช่ว่าออกมาจากช่อง 7 แล้วไม่ทำงานกับช่อง 7 เลย ถ้าเขามีละครให้เราเราก็ยินดีที่จะร่วมงานต่อ”

ปรึกษาผู้ใหญ่ตั้งแต่ต้นปีแล้ว
“ได้คุยตั้งแต่ปีใหม่ครับ ผมแจ้งไป ผมก็ไปถามว่าถ้าผมมีค่ายอื่น มีช่องอื่นมาเสนอละคร สามารถคุยได้ไหมครับ ก็ได้แจ้งผู้ใหญ่ไปแล้วครับ ผู้ใหญ่ก็เข้าใจเขาเห็นว่าเราอยู่ด้วยมานาน ช่วงไหนที่เราว่างก็คุยได้ครับ”

ไม่เล่นละคร 7 เดือน ไปลุยธุรกิจ ทำร้านอาหารเต็มตัว ขาดทุนทุกเดือนเพราะโควิด ช็อกขายได้วันละ 4 พัน จากที่เคยได้วันละเป็นแสน
“ช่วงนี้ดารานักแสดงหลายคนก็มีโอกาสได้มาโฟกัสธุรกิจตัวเองเต็มที่ โอเคเรามีชื่อเสียงก็จริงแต่การทำธุรกิจมันก็ไม่ได้ง่าย เนื่องจากการแข่งขันสูง การตลาดเป็นสิ่งสำคัญ ราคาก็เป็นปัจจัย ผลตอบรับที่ได้ คุณภาพคือสิ่งสำคัญที่สุด ที่ผ่านมานักแสดงหลายๆ คนไม่ได้ถ่ายละคร ผมเองไม่ได้ถ่ายละครมา 7 เดือน ตอนแรกก็ถือว่าโอเคเราได้มีเวลาไปลุยธุรกิจ ได้ทำร้านอาหาร

สำหรับผมร้านอาหารที่ไปทำเปิดได้ 1 เดือนก็เจอโควิด-19 ก็กระทบอย่างแรงเลยครับ กระทบมากๆ ร้านอาหารนี่ขาดทุนมาทุกเดือนเลย คือที่ผมไปทำเพราะว่าเจ้าของเขาเป็นพี่ชาย เขาป่วยและเสียชีวิต เราก็มาทำต่อเพราะเห็นว่าร้านดี เราไม่อยากให้ร้านปิด ร้านดี กำไร อาหารอร่อย พอทำได้เดือนนึง ตั้งแต่นั้นขาดทุนทุกเดือนเลย ขาดทุนเยอะด้วย มี 5-6 แสนต่อเดือน ตอนนี้เริ่มฟื้นฟูกลับมาบ้างแล้ว จากขายวันละ 1-2 แสน มีวันนึงได้ 4 พัน เราปิดไปช่วงแรกแล้วก็มาลุยเดลิเวอรี่

ด้วยร้านอาหารผมเป็นร้านอาหารทะเล ลูกค้าก็อยากมานั่งทานที่ร้าน อยากได้บรรยากาศ พอเป็นเดลิเวอรี่ก็กระทบหนัก ทำโปรโมชั่นที่แม้ว่าจะขาดทุนแต่เราก็ต้องทำเพื่อให้พนักงานเราอยู่ได้ ช่วงนี้เริ่มคลาย ลูกค้าสามารถมาทานที่ร้านได้ก็ดีขึ้น แต่ก็ตกใจเหมือนกัน จากที่เคยได้ 1-2 แสน มาเจอ 4 พันนี่ โอ้โห เหนื่อยเลยครับ ช็อกไปเหมือนกัน






กำลังโหลดความคิดเห็น