นายวีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทวีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA เปิดเผยว่าจากคำพิพากษาของศาลปกครองต่อศาลปกครองชั้นต้น จังหวัดเพรชบุรี ที่ได้พิพากษาคดีที่โจทก์ได้ยื่นฟ้องกรมที่ดินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สาขาหัวหิน โดย บมจ. วีรันดา รีสอร์ท เป็นเพียงผู้ร้องสอด ที่ดินที่เป็นคดีพิพาทดังกล่าวเป็นพื้นที่ของโครงการโรงแรม เวอโซ หัวหิน ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และบริเวณข้างเขาตะเกียบในปัจจุบันมีสภาพเป็นถนนมีความกว้างประมาณ 5 เมตรอยู่แล้ว ตามที่ศาลได้มีคำพิพากษา ทั้งนี้ ขนาดพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบมีขนาดประมาณ 53 ตารางวา
บริษัทฯ คาดว่าขนาดรายการที่ดินที่มีกรณีพิพาทมีมูลค่าทางบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาท และไม่กระทบสิ่งปลูกสร้างของบริษัทฯ คดีดังกล่าวได้มีคำพิพากษาศาลปกครอง (ชั้นต้น) เท่านั้น ดังนั้น บริษัทจึงจะดำเนินการยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลปกครองต่อศาลปกครองสูงสุด ตามเวลาที่กฎหมายกำหนด และภายหลังหากคำพิพากษาปกครองสูงสุด เป็นเหตุให้บริษัทฯ ไม่ได้รับความเป็นธรรม บริษัทฯ จะพิจารณาดำเนินการยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล เนื่องจากประเด็นข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินนี้ ได้เคยมีการวินิจฉัย และมีคำพิพากษาศาลฎีกาถึงที่สุดว่าการออกโฉนดที่ดินแปลงนี้เป็นการออกโดยชอบด้วยกฎหมาย
นายวีรวัฒน์ กล่าวต่อไปว่าบริษัทฯ ขอเรียนว่า โฉนดที่ดินแปลงพิพาทได้ถูกออกเมื่อปี พ.ศ. 2522 ตามสภาพความเป็นจริงในขณะนั้น และบริษัทฯ ได้ทำการซื้อที่ดินดังกล่าวต่อมาเมื่อปลายปี พ.ศ. 2558 โดยบริษัทฯได้ทำการรังวัดสอบเขตที่ดินกับกรมที่ดินโดยรอบคอบแล้ว ปรากฎว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปที่ดินและเนื้อที่ดิน และภายหลังจากที่บริษัทฯ ซื้อที่ดินดังกล่าวมาแล้ว บริษัทฯ ก็ทำการรังวัดสอบเขตอีกหลายคราว ซึ่งรูปที่ดินและเนื้อที่ดินก็ยังคงเดิม และบริษัทฯ ได้ก่อสร้างภายในโฉนดที่ได้มาอย่างถูกต้องและดำเนินการอย่างสุจริต