“เกรท วรินทร” ปิดฉากรัก “หมออร อรอุมา” 1 เดือนแล้ว เผยเวลาและทัศนคติไม่ตรง ปรับตัวแล้วแต่ไม่รอดทั้งคู่ เสียใจแต่ไม่เฮิร์ต รอบนี้ขอโสดยาวๆ เห็นใจผู้ประกอบการหากโควิดต้องกลับมาระบาดอีกรอบ ห่วงคนไม่มีเวิร์กให้ทำ ไม่มีโฮมให้อยู่
ความรักร่อแร่มาสักพักใหญ่ๆ ก่อนที่พระเอกช่อง 3 “เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์” จะออกมาเปิดใจว่ารัก “หมออร อรอุมา” มีปัญหาจริง แต่กำลังปรับตัวเมื่อต้นปี 2563 ที่ผ่านมา ล่าสุด วันนี้ (15 ก.ค.) พระเอกช่อง 3 ได้เผยระหว่างถ่ายหนังโฆษณาประชาสัมพันธ์ระดมทุน “จัดสร้างห้องไอซียูความดันลบ สถาบันการแพทย์จักกรีนฤบดินทร” ณ เดอะฟิล์ม แฟคตอรี่ สุขุมวิท 99 ยอมรับว่า ตอนนี้ความรักได้จบลงไปแล้ว เป็นเรื่องเวลาและทัศนคติที่ไม่ตรงกัน
“ก็... ยังไงดี จริงๆ เรื่องนี้ก็ไม่อยากจะพูดเท่าไหร่เนอะ คือ เราคุยกันทั้ง 2 คน คุยกันแบบไม่ได้เป็นแฟนกัน เป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกัน มันกลับสบายใจกว่า ตอนนี้ก็เลยเป็นแบบนั้น ถามว่าเมื่อไหร่ ก็ประมาณสักเดือนหนึ่งครับ คือทุกครั้งที่มีปัญหาเราก็พยายามปรับกัน แต่มันก็ยังมีหลายๆ อย่างที่มันเกิดความไม่สบายใจกับทั้งคู่ เราได้คุยกันแล้ว ลองแบบนั้น แบบนี้ สุดท้ายพอเรามาคุยกันอีกทีทำให้รู้สึกว่า เป็นพี่น้องกันทำไมคุยกันแล้วมันมีรอยยิ้มมากกว่า”
รับเวลาและทัศนคติไม่ตรงกัน
“ถามว่าสาเหตุเป็นเพราะอะไร จริงๆ ผมว่าด้วยเรื่องของเวลาส่วนหนึ่ง และด้วยเรื่องทัศนคติอีกส่วน ซึ่งไม่ใช่เรื่องไม่ดีอะไร แต่เป็นเพราะระยะเวลาการทำงานคนละแบบกัน และบางทีด้วยตัวผมทำงานก็ทำให้เรื่องเวลาไม่ได้ ปรับตัวไม่ได้ เลยทะเลาะกันบ่อย ปัญหาส่วนใหญ่มาจากเรื่องเวลาด้วยส่วนหนึ่ง และหลายๆ อย่างด้วย ทั้งความชอบ ไม่ชอบ”
จบดี ทุกวันนี้ยังคุยกัน
“จบด้วยดีครับ ทุกวันนี้ก็ยังคุยกันอยู่ เราคุยกันด้วยความสบายใจว่าจะอยู่ตรงนี้”
ไม่รู้ฝ่ายหญิงโพสต์เฮิร์ต
“เหรอครับ ไม่ได้เห็นเลย แต่ทุกวันนี้เราก็ยังให้กำลังใจกันอยู่ มีอะไรที่ไม่สบายใจก็ยังคุยกัน”
ไม่เสียดายเวลา
“ผมว่าไม่เสียดายนะ อย่างน้อยมันก็ได้สอนให้เรารู้ว่าเราเป็นแบบไหน มันก็สอนให้เราก้าวข้ามไปอีกขั้นหนึ่งในเรื่องของความรัก ไม่เสียดายครับ”
“ถามว่าคนที่จะเข้ามาต้องปรับตัวมากแค่ไหน อันนี้ผมพูดตรงๆ นะ อย่าไปพูดว่าให้คนที่เข้ามาหาเราต้องปรับตัวเลย จริงๆ คนที่คบกันในความคิดผม มันต้องปรับทั้งคู่ บางอย่างมันอาจจะยากสำหรับผม บางอย่างมันอาจจะยากสำหรับเขา ถ้าเกิดมันมีความทุกข์มันก็ไม่ดีกับทั้งสองฝ่าย”
ปิดโอกาสรีเทิร์น
“ตอนนี้เหรอครับ คิดว่าไม่นะ คือเหมือนมันอยู่ตรงนี้ก็สบายใจแล้ว เรายังรู้สึกว่าด้วยหน้าที่การงาน ด้วยอะไรที่มันยังไม่มีเวลาไปทำโน่นนี่นั่นเลย ขอเป็นอย่างนี้ไปก่อนแล้วกัน ยังไม่คิดที่จะมีใคร เราไม่ค่อยขี้เหงา”
เสียใจแต่ไม่เฮิร์ต ยอมรับความจริงทั้งคู่
“เฮิร์ตสิ ก็มีความรู้สึกเสียใจอยู่แล้วเป็นปกติครับ แต่มันใช้คำว่าเฮิร์ตก็ไม่ถูก เฮิร์ตมันไม่ดี แต่เราคุยกันด้วยดี อย่างแรกเราก็ต้องยอมรับความจริงกันทั้งคู่ เสียใจแต่ไม่ได้เฮิร์ตครับ ผมดูปกติใช่ไหม เวลาพูดก็ต้องพูดปกติสิ ส่วนคุณแม่ไม่ได้ว่ายังไงครับ ทุกอย่างแม่ก็แล้วแต่เรา ก็มีคุยกับแม่บ้าง”
ขอโสดยาวๆ
“คิดว่านะ ตอนนี้ก็โสดครับ ไม่ได้คุยกับใคร รู้สึกว่ามันก็ได้เจอตัวเองมากขึ้น อย่างที่บอกความรักครั้งนี้สอนให้เราได้เจอตัวเองว่าอันไหนที่เราโอเค อันไหนที่เราลำบากใจ ตอนนี้ก็ได้อยู่คนเดียง ก็แฮปปี้ดีครับ เราก็ศึกษาดูใจกันมา 2-3 ปี”
เห็นใจผู้ประกอบการ หากโควิดต้องระบาดอีกรอบ ขนาดตัวเองยังมีรายได้ศูนย์บาท ห่วงคนเดือดร้อน ไม่มีเวิร์กให้ทำ ไม่มีโฮมให้อยู่
“ก็อัปเดตเรื่อยๆ ถ้าสมมติว่ามันเกิดเหตุการณ์เหมือนรอบแรก ก็เห็นใจผู้ประกอบการ หรือว่าใครที่ได้รับผลกระทบเยอะๆ ขนาดเราเอง เราก็โควิดศูนย์บาทเหมือนกันนะ อยู่แต่กับบ้าน มันศูนย์บาทแบบไม่ไหวแล้วนะ ต้องมีสกิลทำอาหารขาย คืออันนี้อย่าให้มันเกิดถึงจะต้องล็อกดาวน์เหมือนรอบแรกเลย คนเดือดร้อนเยอะมาก เขาบอกว่าจะไม่มีเวิร์กให้ทำ ไม่มีโฮมให้อยู่ (หัวเราะ)”
“เรายังถ่ายละครอยู่ หลังโควิด-19 มา ถ่ายยับเลยนะ เรียกว่าตอนนี้ก็ถ่ายละครอยู่ครับ ดาวคนละดวง ก็ถ่ายเร่งๆ เลย แล้วตอนนี้ได้ข่าวโควิดมาอีกที จะกระทบไหม ก็นั่นนะสิ ก็ได้แต่พูดแล้วก็พยายามดูแลตัวเอง ผมเชื่อว่าพวกเราทุกคนเคยผ่านรอบแรกมาแล้ว มันมีสกิลการดูแลตัวเองเพิ่มขึ้น มันก็ระวัง รู้ว่าพอเวลาล็อกดาวน์นานๆ มันส่งผลกระทบอะไรกับชีวิตบ้าง มันก็ไม่น่าจะแบบ ไม่ควรเกิดขึ้นอีกครั้ง”
“ถามว่าเตรียมพร้อมรับมือไหม คือ จริงๆ ตั้งแต่หายไป ก็เริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติแล้ว ตัวผมเองผมก็รู้สึกว่ามันควรที่จะเป็น New normal อยู่ ก็คือใส่หน้ากาก หรือล้างมือถี่ขึ้น ในทุกๆ วันนี้ เห็นเจลที่ไหนก็กด ไปไหนมาไหนนั่งรถก็ต้องล้างมือ ผมว่าอันนี้ก็ยังทำอยู่ ก็ถือว่าเป็นวิธีการหนึ่ง ที่เรียกว่าการ์ดไม่ตก อย่างหนึ่งที่เรากำลังทำอยู่ แล้วก็ตอนนี้พอมันเริ่มกลับมาอีก เราก็ยิ่งต้องใส่ใจว่าเราจะไม่หย่อนในพฤติกรรมของเรา”
ต้องรีบทำหลายอย่างหวั่นโควิดระบาดอีก
“ต้องรีบเหมือนกันนะเนี่ย หน้าผากย่นแล้ว เดี๋ยวไปจิ้มไว้ก่อน (หัวเราะ) ส่วนจะรีบไปเที่ยวไหนไหม เรื่องเที่ยวตัวเราเองยังไม่ได้คิด มีแพลนว่าจะไปเที่ยวนะ เพราะว่าส่วนหนึ่งมันก็ยังไม่ไว้ใจนะ คือต่อให้จะไม่มีผู้ป่วยในประเทศนานแล้ว มันก็ยังมีความรู้สึกกังวล ยังไม่ไว้ใจอยู่ เริ่มกลับมาทำงานเยอะแล้วตัว ก็เลยยังไม่มีแพลน แล้วตอนนี้มาอีกก็แบบ...อืม”
ส่วนโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษของน้องชายยังดีอยู่
“น้องก็ดีครับ ตอนนี้ก็เตรียมการสอน แล้วก็มีสอนออนไลน์ด้วย การสอนออนไลน์มันก็ปลอดภัยหน่อย แล้วนักเรียนที่เข้ามาก็ต้องดูแลวัดไข้ ล้างแอลกอฮอล์ ก็ปรับตัวไปครับ”
ฝากเตือนทุกคนการ์ดอย่าตก
“ผมเชื่อว่าพวกเราคนไทยผ่านวิกฤตครั้งแรกมาแล้ว ล็อกดาวน์มาแล้ว รู้อยู่แก่ใจว่ามันส่งผลกระทบยังไงบ้าง ก็เห็นใจทุกๆ คนที่ได้รับผลกระทบนะครับ อยากบอกทุกคนที่การ์ดไม่ตกอยู่แล้ว ก็ต้องมีอยู่ต่อไป ส่วนใครที่อาจจะเผลอการ์ดตกไปบ้าง ก็ลองใส่ใจตัวเองอีกสักครั้งหนึ่ง เหมือนที่เคยทำในครั้งแรก เหตุการณ์ครั้งนี้จะได้ไม่บานปลายไปถึงล็อกดาวน์อีกรอบครับ”
