เป็นโอปป้าให้เธอแล้ว “กอล์ฟ เบญจพล” ลั่นภรรยาถูกใจหน้าใหม่ เหมือนได้สามีใหม่ ไม่ศัลย์เยอะ กลัวหล่อแย่งงาน “ณเดชน์-มาริโอ้” บอก “หมอสอง” ศัลย์แต่ต้องไม่ทิ้งตัวตน อโหสิกรรมให้ทุกคนที่วิจารณ์ เผยจุดเริ่มต้นศัลยกรรมมาจากแม่-ลบปมในใจจมูกใหญ่ถูกบูลลี่ สยองนาทีมีดกรีดหน้า คิดเรื่องตาย อุบเรื่องค่าใช้จ่าย
ถือเป็นการตัดสินใจครั้งใหญในชีวิตของนักแสดงหนุ่มอารมณ์ดี “กอล์ฟ เบญจพล เชยอรุณ” เลยก็ว่าได้ สำหรับการทำศัลยกรรมจมูกให้เล็กลง แก้ไขแผลเป็นข้างปากพร้อมทำกระจับ และการเสริมคางให้ดูเติมเต็มขึ้น ซึ่งวันนี้ (6 ก.ค) ก็เป็นครั้งแรก ที่หนุ่มกอล์ฟได้เผยหน้าใหม่กับสื่อมวลชน หลังศัลยกรรมชุดใหญ่ไปได้เพียง 1 เดือนเท่านั้น โดยงานนี้ได้ “หมอสอง” หรือ “นพ.นพรัตน์ รัตนวราห” คุณหมอศัลยกรรมคิวทอง ในฐานะคุณหมอเจ้าของเคส มาร่วมพูดคุยถึงการศัลยกรรมครั้งนี้ด้วย
กอล์ฟ : “ถามว่าอันนี้คือเข้าที่หรือยัง จริงๆ แล้วคุณหมอบอกว่ายังครับ”
หมอสอง : “ตอนนี้เราทำได้เพียง 1 เดือน เนื่องด้วยว่ามีคนอยากเห็นเยอะมาก แต่จริงๆ มันยังไม่ค่อยพร้อมหรอก เพราะจมูกมันจะเข้าที่ประมาณ 3-5 เดือน มันจะดีขึ้นอีก แต่ตอนนี้เองก็ถือว่าโอเคแล้ว ก็เลยแล้วแต่พี่กอล์ฟสะดวก ยังไงก็ได้”
กอล์ฟ : “คือเอาจริงๆ ส่วนตัวตัวเองอึดอัดไง คือก็อยากจะไปโน่นไปนี้บ้าง ต้องมาคอยหลบคอยระวัง ก็บอกหมอว่ามันก็พอได้นะเดือนหนึ่ง เปิดๆ ไปเลยดีกว่า เวลาเราไปเดินที่ไหน คนจะได้ไม่ต้องแบบ ใช่หรือไม่ แล้วเพื่อนฝูงก็ถามเยอะมาก แฟนคลับก็คอมเมนต์มาตลอด เราก็เลยรู้สึกว่าเอาล่ะ ประมาณนี้แหละ แต่อีกสัก 2 เดือนมันจะดีกว่านี้นะ”
เหตุผลที่ตัดสินใจทำศัลยกรรมครั้งนี้ เพราะรู้สึกว่าครอบครัวเริ่มไม่แฮปปี้กับการโดนล้อเรื่องจมูกของตัวเอง เวลาไปออกทีวีแล้ว บวกกับจมูกเริ่มใหญ่ขึ้นๆ กว่าเมื่อก่อน เลยใช้ช่วงหยุดโควิด-19 ไป ปัดทำเพราะอยากหน้าเด็กลง บอกคนที่คิดแบบนี้ อคติกับผมเหลือเกิน
กอล์ฟ : “มันมาหลายเหตุผลเลย เหตุผลแรกคือบ้านเรา เป็นคนจมูกไม่ใหญ่ บ้านเราจมูกเล็ก จมูกแม่เราก็สวย จมูกพี่ชายก็สวย ของพ่อก็สวย ทีนี้ไม่รู้ว่าของเราทำไมมันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตัวเราเองก็ไม่รู้หรอก แต่เมื่อประมาณ 7-8 ปีที่แล้ว อยู่ๆ พี่นีโน่ (เมทนี บุรณศิริ) ทักว่ามึงรู้ไหม จมูกมึงใหญ่ขึ้น เราก็บอกบ้าบอ จริงเหรอ เราก็ไปดูรูปเก่าๆ ก็เออมันก็ใหญ่ขึ้น แต่ก็ไม่ได้เครียดอะไรมาก เพราะเราก็ไม่ใช่พระเอก แล้วก็ใช้ชีวิตมาเรื่อยๆ จนเวลาออกทีวีก็มีคนล้อเยอะขึ้นเรื่อยๆ เราก็คิดว่าสงสัยมันใหญ่ขึ้นจริง เพราะว่าคนเริ่มสังเกตมากขึ้น”
“จนประมาณ 2 ปีที่แล้ว อยู่ๆ แม่ก็ส่งไลน์มาหา แม่บอกว่ากอล์ฟ ไปทำจมูกก็ดีนะลูก แม่ทักเอง เราก็รู้สึกว่าถ้าเกิดแม่ทัก แสดงว่าเอาจริงๆ แล้วโดยอินเนอร์แม่น่าจะไม่ค่อยแฮปปี้ คือเราต้องเปิดใจกันนะ คนเป็นแม่ คนเป็นพี่ หรือภรรยาเราเอง เอาจริงๆ เวลาเราไปออกทีวี เราก็สนุกสนานเฮฮาแหละ แต่ว่าลึกๆ เขาอาจจะแบบมีคนล้อลูกฉันวะ เราถึงได้เริ่มมาสะกิด ว่าลึกๆ แล้วแม่ก็ไม่ค่อยแฮปปี้”
“เพราะฉะนั้นถ้าเกิดแม่รู้สึกขนาดนี้ แล้วเราเองก็รู้สึกเหมือนกันว่ามันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แล้วอีกมุมก็คือเวลาเราแสดงละคร เราก็รู้สึกว่ามันกวนเฟรม มันบังเฟรม เช่นฉากที่เราเล่นจริงจังมาก ฉากซีเรียส ฉากร้องไห้อะไรแบบนี้ เรารู้สึกว่าบางทีจมูกมันกวนการแสดงเราหนึ่งแล้ว สองคือมันไม่ได้กวนแค่การแสดงของเรา มันกวนการแสดงคนอื่นด้วย คนที่เล่นเข้าฉากกับเรา แทนที่คนอื่นเข้าจะโฟกัสการแสดงของคนอื่น บางคนเขาก็จ้องแต่จะขำจมูกเรา เราก็เลยรู้สึกว่า เออ ... โดยรวมแล้วมันก็ไม่”
“ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วก็ทำเลยแล้วกัน มันจังหวะโควิด-19 ด้วย หยุดหลายวันด้วย แล้วก็มีบางคนมาทัก บอกว่าอยากเด็กลงเหรอ คืออันนี้ขอบอกเลยนะครับ ทุกคนที่คิดแบบนี้คืออคติกับผมเหลือเกิน คุณไม่รู้หรอก ผมอายุ 50 แล้วนะ คนยังทักว่า 30 กว่า คือหน้ามันเด็กอยู่แล้ว จะบอกว่าการทำจมูกแล้วหน้าเด็กลง มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่เราทำเพื่อให้มันเหมาะสมกับใบหน้าเฉยๆ แล้วก็เพื่อให้ที่บ้านสบายใจ แล้วก็เพื่อให้ในการต่อไปในวงการบันเทิงโอเค ไม่ต้องมีอะไรมาเป็นอุปสรรคในการแสดงเยอะมากเท่าไหร่”
หมอสองแจงการที่จมูกใหญ่ขึ้นเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ ถึงแม้ว่าจะศัลยกรรมแล้ว ก็ยังมีโอกาสโตขึ้นได้อีก
กอล์ฟ : “ไม่รู้หรอก แต่หมอบอกว่ามันมีอะไร”
หมอสอง : “จริงๆ มันเป็นไปได้ครับ ถึงแม้ว่าจมูกจะหยุดเติบโตตั้งแต่วัยรุ่น แต่หน้าคนเราเปลี่ยนไปตลอด ย้อนกลับไปดูรูปเราตอน 20 ตอน 30 จะเห็นว่าหน้าเราเปลี่ยน จมูกก็เหมือนกัน มันโตขึ้นได้ ด้วยเนื้อที่มันใหญ่ขึ้น ของพี่กอล์ฟผมเคยเห็นภาพในอดีต จมูกเล็ก แล้วมันโตขึ้นจริง แล้วมันก็เป็นปัญหาจริง ว่ามันคับขึ้นเรื่อยๆ เราก็ควรที่จะไปลดขนาดมันหน่อยครับ แต่ไม่เกี่ยวกับการแคะจมูกครับ มีบ้างว่าถ้าเราแคะในรูมันใหญ่ขึ้น อันนี้เป็นได้ แต่อันนี้ไม่ได้ทำให้เนื้อโต แต่เนื้อของพี่กอล์ฟโต แล้วมีเนื้อเยอะมาก ใหญ่มากเลย ต้องบอกว่าเป็นชาเลนจ์ของผมจริงๆ ที่จะทำให้มันเรียวเล็กลง และได้สัดส่วนขึ้น ถ้าปล่อยไว้มันก็จะมีโอกาสจะโตขึ้นเรื่อยๆ มันอาจจะโตขึ้นได้อีก็ได้”
หมอสองโอด การทำจมูกเคสของกอล์ฟ เป็นชาเลนจ์ที่ท้าทายมาก เพราะเนื้อจมูกเยอะมาก ต้องขูดออกก่อน แล้วยังมีการขอให้คงความเป็นตัวตน และคาแรคเตอร์ไว้เหมือนเดิมอีก เลยยิ่งยากเข้าไปใหญ่
หมอสอง : จริงๆ มันเป็นเรื่องของการดีไซน์และก็เทคนิค ที่ผมเคยบอกในเบื้องต้นว่างานพี่กอล์ฟ เป็นงานชาเลนจ์ของผมจริงๆ เพราะปกติผมก็ทำจมูกทั้งทรงผู้ชายผู้หญิงได้อยู่แล้ว การดีไซน์ก็คนละทรง ของพี่กอล์ฟก็ทำทรงผู้ชาย แต่จมูกที่แบนทำให้โด่งง่ายมาก
“แต่ของพี่กอล์ฟคือต้นทุนมาเยอะ เนื้อในพาร์ตล่างมันใหญ่มาก ตรงหัวตาพี่กอล์ฟไม่มีสัน ถ้ามองด้านข้างตรงสันพี่กอล์ฟไม่มี แต่ขณะที่ตรงปลายมีเนื้อเยอะ พอไปทำให้เล็กลง มันทำไม่ได้มาก มันอยู่ที่การดีไซน์ซิลิโคนให้เหมาะสม ยกปลายขึ้นและตรงหัวตาต้องพยายามเหลาซิลิโคนให้ดูมนธรรมชาติ ไม่เป็นแท่งๆ ไม่งั้นมันจะดูเป็นสัน เป็นลำๆ เหมือนเอาดินสอมาวาง”
“ผมต้องดีไซน์ไล่ความใหญ่ตรงที่มีเนื้อ ให้ค่อยๆ เล็กลง ให้ออกมาแล้วเหมือนไม่ได้เสริม มันจะดูเนียนกว่าธรรมชาติ ก็จะทำให้ไม่เหมือนเป็นไม้ตีกลอง ที่เป็นแท่งๆ และที่สำคัญคือการลดปีกจมูก ปีกจมูกของพี่กอล์ฟ พอมองด้านข้างมันจะกว้างค่อนข้างเยอะ ทีนี้มันก็เป็นงานชาเลนจ์ ตรงที่ความหนาของปีก เราทำให้มันเล็กไม่ได้ แต่เราต้องลดขนาดมันลง แล้วก็พยายามเย็บฐานให้มันบางลงนิดหนึ่ง เราอาจจะช่วยได้ประมาณนี้ แล้วก็รอดูว่ายุบลงแล้วมันจะได้แค่ไหน”
“แต่โจทย์สำคัญคือพี่กอล์ฟมาบอกผมว่า ต้องไม่เสียความเป็นตัวตน ต้องไม่เสียคาแรคเตอร์ อาชีพนักแสดง ซึ่งก็ยิ่งชาเลนจ์ไปอีก ก็ต้องพยายามทำทุกอย่างให้มันโอเคลงตัว ในแบบที่ยังเป็นตัวตนพี่กอล์ฟอยู่”
กอล์ฟ : “บอกหมอว่า ถ้าหน้าเราเปลี่ยนไปเลย เราก็จะขอผ่าหน้าหมอบ้าง (หัวเราะ)”
นอกจากทำจมูกแล้ว ยังศัลยกรรมแก้ไขแผลเป็น ที่เป็นติ่งบริเวณปากข้างซ้าย พร้อมกับทำปากกระจับแบบธรรมชาติเพิ่มด้วย ขำๆ ไม่ทำอยากเยอะ กลัวหล่อแย่งงานณเดชน์กับมาริโอ้
กอล์ฟ : “ก็มีตรงติ่งปาก ถ้าเป็นแฟนละครจะเห็นตลอด คือผมเป็นคนมีติ่งปาก เพราะตอนเด็กๆ ซน ปากไปกระแทกหัวเตียง แล้วแม่กลัวเราเจ็บ เลยไม่ได้พาไปเย็บ มันก็เลยเป็นคีรอยด์ ก้อนเนื้อติ่งอยู่ตรงปาก คุณหมอบอกไหนๆ ทำจมูกแล้ว เอาปากด้วยไหม เราก็ถามว่าเจ็บเท่ากันไหม พอๆ กัน ก็เอาดิวะ (หัวเราะ) ก็เลยทำ ไหนๆ ก็เจ็บแล้ว เอาให้มันเสร็จๆ ไปเลย”
“แล้วคือตรงปากมันก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาของตัวเองนะ เวลาเราถ่ายรูป ถามคำถามไปด้วยเลย ว่าทำไมถึงชอบถ่ายรูปท่าเดิม ก็เพราะมีติ่งปาก เวลาจะยิ้มติ่งมันก็ออก ทำมาแล้วก็ยังไม่ชินด้วยนะ เดี๋ยวต้องไปพยายามยิ้มแบบปกติแล้ว”
หมอสอง : “พี่กอล์ฟมีปัญหาเรื่องแผลเป็นที่ปาก เวลาหุบปากจะมีติ่งตรงข้างซ้าย ไหนๆ เราแก้แผลเป็นแล้ว ก็เลยดีไซน์ให้มันเป็นปากกระจับ และทำให้มันเท่ากัน แก้เฉพาะข้างบนครับ”
กอล์ฟ : “ตอนที่ผ่าก็บอกหมอ ว่ายังไงก็ตาม อย่าให้หล่อกว่าณเดชน์ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) กับมาริโอ้ (มาริโอ้ เมาเร่อ) เพราะมันก็ยังเป็นน้องเรา เราไม่สามารถแย่งงานน้องได้ (หัวเราะ) บอกหมอเอาเบาๆ”
ในส่วนของคางมีการเติมเนื้อเข้ามาให้ดูเต็มอิ่มขึ้น เพื่อให้สัดส่วนของหน้าเป็น 1 ใน 3 ที่เท่ากัน ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูดี แถมยังเสริมโหงวเฮ้งด้วย
หมอสอง : “เวลาผมดีไซน์ผมดูทั้งหน้า สัดส่วนมันต้องเป็น 1 ใน 3 ที่เท่ากัน แต่ของพี่กอล์ฟจะมีปัญหานิดหนึ่ง ตรงเวลายิ้มชอบอ้าปาก เพื่อให้ได้สัดส่วนหน้าดีขึ้น ทีนี้เวลาหุบปากจะมีขากรรไกรล่าง ที่ค่อนข้างเล็ก แล้วก็จะมีคางที่หลุดไป”
“ถ้าลักษณะของผู้ชาย การเสริมคางควรจะเสริมให้ดูเป็นธรรมชาติ ดูมีเนื้อ ไม่แหลมแบบของผู้หญิง พอมีเนื้อขึ้นมา จะทำให้คางที่ดูถอยหลัง เติมมาข้างหน้าขึ้น แล้วก็ดูเต็มขึ้น ซึ่งตรงนี้ จะทำให้เป็นผู้ชายที่ดูแข็งแรง แล้วคางก็เป็นเรื่องของโหงวเฮ้งด้วย แล้วสิ่งที่เราได้ตรงนั้นก็คือสัดส่วนของหน้า เป็น 1 ใน 3 ที่เท่ากัน และมองมุมเฉียงมุมข้าง มันก็จะดูดีขึ้นด้วย คางเป็นอะไรที่ทำแล้วหายเร็ว ทำให้เป็นธรรมชาติได้ คนก็จะไม่รู้ว่าเราเสริมคาง ถ้าสังเกต ณ ตอนนี้ก็จะรู้ว่าเสริมคาง แต่ถ้าดูรูปเก่าจะรู้ว่าเปลี่ยนแปลงเยอะ”
กอล์ฟ : “ก็สรุปว่าทำจมูก ตัดปีกจมูก ตัดติ่งปาก แล้วเสริมคาง ที่ตัดปีกจมูกต้องชมหมอเขานะ หมอเขาจริงใจ พอเราออกจากห้องผ่าตัด เขาก็เอารูปเนื้อที่ตัดมาให้เราดูเลย (หัวเราะ) เราก็แบบเอามาให้ดูทำไม กลัวจะแย่อยู่แล้ว”
สำหรับตัวเองตอนนี้พอใจแล้ว แต่ต้องรอดูอีก 2 เดือนว่าเข้าที่แล้วจะเป็นอย่างไร
กอล์ฟ : “ถามเราเราโอเคนะ ตอนนี้เราแค่รอดู ว่าเดี๋ยวอีกสักเดือนสองเดือนมันจะลีนไปแค่ไหน อย่างจมูกมันเล็กลงแล้ว แต่ว่ามันจะลงไปอีก”
รับกลัวมากอยากออกจากห้องผ่าตัดทุกวินาที ลุ้นทุกขั้นตอน ได้แต่คิดว่าตายแล้วไปไหน แถมตอนกำลังผ่าตัดยังปวดฉี่ ต้องลุกออกจากเตียงทั้งๆ ที่ยังไม่เสร็จ
กอล์ฟ : “โอ้ย เรากลัวตั้งแต่ก่อนเข้าไปอีก คือตอนนี้รู้อยู่แล้วว่าเราทำเสร็จแล้ว แต่ตอนเราผมร่วง เรายังไม่กล้าผ่าตัดปลูกผมเลย นี่มันอยู่บนหน้า แล้วไม่มีการวางยาสลบ มันคือยาชา เข้าไปแล้วเหมือนเห็นในหนังเลย ที่มีไฟ มีหมอพยาบาลอยู่รอบๆ ตัว เราเสพการผ่าทุกนาที เพราะฉะนั้นอย่าถามว่ากลัวไหม กลัวมาก และพร้อมที่จะเดินออกจากห้องผ่าตัดทุกวินาที เพียงแต่ตอนที่หมอเริ่มกรีดลงไปแล้ว สิ่งเดียวที่เราคิดได้ คือตายแล้วไปไหน แค่นั้นเอง (หัวเราะ)”
“แต่มันไม่เจ็บ หมอเขาฉีดยาชาแล้ว แต่เราคิดของเราไปไหนต่อไหนแล้วไง เพราะเราไม่เคยผ่าอะไรอย่างนี้ มันกลัวหมด แล้วเราไม่ได้ผ่าแค่อย่างเดียว เล่าแบบเร็วๆ คือเราลุ้นการผ่าตัดจมูก ตัดปีกออก ลุ้นเอาซิลิโคนเข้าดั้งต่อ พอจมูกกเสร็จปุ๊บ เราดันปวดฉี่ขึ้นมา เราต้องลุกไปห้องน้ำ แล้วต้องพยายามสะกดตัวเอง ว่าอย่ามองกระจก ถ้ามองกระจกจะไม่กล้ากลับเข้าไปอีก มันกลัวตลอดเวลา พอจมูกเสร็จต้องมาลุ้นในการตัดปากต่อ พอตัดปากพ้นไป เหลือคางอีก”
นับถือใจคนทำศัลยกรรม วันนี้เข้าใจแล้ว ว่าต้องผ่านอะไรมาบ้าง
“เอาจริงๆ เราว่าคนที่ทำศัลยกรรม เรานับถือใจเขานะ เพราะหนึ่งคือเขาน่าจะอยากแก้ไขปมของตัวเอง ทุกคนที่ทำ เราว่าไม่ได้แค่อยากสวยอยากหล่อ บางทีเขาก็มีปมจากคนรอบข้าง จากคนที่มาล้อเขา หรืออะไรก็แล้วแต่ หรือว่ามีความพร้อมของฐานะการเงิน หรือว่าเห็นคนโน้นคนนั้นมีก็อยากมีบ้าง แต่รู้ไหมว่าเขาต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด แล้วก็การวัดใจที่สูงมาก บอกเลยว่าถ้าถามเราวันนี้ เราเข้าใจคนทำศัลยกรรมนะ เข้าใจมากๆ ด้วย ว่าเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง”
ปมในใจของตัวเอง ตอนนี้ไม่มีแล้ว โอเคลงตัวทุกอย่าง มีฉีดโบท็อกซ์เพิ่มนิดหน่อย
กอล์ฟ : “ของผมโอเคเลย ตอนนี้ชัดเจนจมูกมันลงไปแล้ว ปากติ่งไม่มีแล้ว แถมเรายังได้เสริมโหงวเฮ้งตรงคางอีก เพราะว่ามันลงตัวหมดแล้ว”
หมอสอง : “หน้าพี่กอล์ฟที่ดูเรียวขึ้น เพราะตอนแรกพี่กอล์ฟมีปัญหาเรื่องกรามค่อนข้างใหญ่ พี่กอล์ฟอยากให้หน้าดูเรียว ผมก็เลยฉีดโบท็อกซ์เติมที่กรามทั้งสองข้าง จะเห็นว่าหน้าพี่กอล์ฟตอนนี้เรียวเล็กขึ้น จากหน้าเดิมค่อนข้างกลม และโบท็อกซ์ที่หางตา เพราะว่าพี่กอล์ฟจะมีปัญหาเรื่องระยะห่างระหว่างคิ้วกับตาค่อนข้างแคบ และก็มีริ้วรอย ก็เลยฉีดให้ริ้วรอยลดลง อันนี้คือที่ทำเพิ่ม”
กอล์ฟ : “ฉีดนิดเดียว เพราะว่าเราลงมาจากห้องผ่าตัด หมอบอกว่าฉีดโบท็อกซ์หน่อยแล้วกันนะ ซึ่งอยู่ในมือแล้ว(หัวเราะ) แล้วแต่หมอแล้วล่ะ”
ส่งรูปให้แม่ดูเป็นคนแรก
กอล์ฟ : “คุณแม่เห็นแล้ว คุณแม่ได้ดูเป็นคนแรก จริงๆ แล้วคุณแม่อยากให้เล็กลงกว่านี้อีก แต่ก็บอกคุณแม่ว่ามันจะเล็กลงอีก แต่ว่ามันต้องรอให้มันลีน 3 เดือน แต่แม่โอเคบอกว่ามันเล็กลงแล้ว”
เผยก่อนทำเราไม่ได้มีการไปดูโหงวเฮ้งอะไร ไม่ได้ยึดอะไรกับตรงนี้ การจะรวยหรือจนขึ้นอยู่กับการทำมาหากิน
กอล์ฟ : “เอาจริงๆ ผมไม่ได้ยึดอะไรตรงนี้นะ มีบางคนที่ทักมา ตายแล้วพี่กอล์ฟไปเอาจมูกออก บานแล้วมึง เดี๋ยวมึงจนแน่ ผมก็บอกขอโทษนะครับ จมูกบานจนเยอะแยะ มันไม่ใช่ว่าจมูกบานแล้วต้องรวยทุกคน มันขึ้นอยู่กับว่าคุณทำมาหากินหรือเปล่า อย่างเราทำมาหากินมาตั้งแต่อายุ 21 ปี ดูแลคุณแม่มาตั้งแต่คุณพ่อเราเสีย เพราะฉะนั้นจมูกเล็กลงหรือจมูกเราบาน มันไม่เกี่ยว”
“ถ้าผมเป็นขี้เกียจผมก็จนอยู่ดี แต่ว่าผมทำงานอยู่ตลอดเวลา ทุกคนก็เห็นว่ากอล์ฟ เบญจพลทำงานอยู่ตลอดเวลา แล้วแต่ว่าจะทำอะไร ผมไม่ได้ยึดตรงนี้ ต้องถามว่าเราต้องการให้หน้าเดิมอยู่หรือเปล่า ซึ่งเราอยากให้หน้าเดิมยังอยู่ ไม่ถึงขนาดที่ว่าทำเสร็จแล้ว เฮ้ย ใครวะ เราก็คงรับตัวเองไม่ได้เหมือนกัน รูปในอดีตของฉัน ละครในอดีตที่ถ่ายไว้ไม่รู้กี่สิบเรื่อง แล้วกูเป็นใคร อย่างนี้เรารับตัวเองไม่ได้ ดังนั้นเราจึงบอกหมอว่ายังไงก็แล้วแต่ของหน้าดิมคงไว้”
หมอสอง : “ส่วนเรื่องโหงวเฮ้ง ผมว่ามันไม่ได้มีปัญหาอยู่แล้ว เพราะว่าศาสตร์นี้ผมก็เรียนมา แต่ว่าศาสตร์ตรงนี้ไม่เหมือนกัน แล้วแต่ล่ะอาจารย์ อาจารย์บางคนบอกว่าถ้าโหงวเฮ้งดีขึ้น ทำแล้วมันจะดีขึ้นตาม แต่บางท่านก็บอกว่าทำแล้วโหงวเฮ้งดีขึ้น แต่โหงวเฮ้งไม่ดีขึ้นตาม แต่ถ้าทำเสียจะเสีย แต่อาจารย์บางท่านบอกว่าถ้าทำแล้วเสีย โหงวเฮ้งก็ไม่เสียตาม เพราะว่าโหงวเฮ้งเป็นอะไรที่ติดตัวมาแต่กำเนิด ไปทำศัลยกรรมอีก 10 รอบ โหงวเฮ้งก็ไม่เสีย สำหรับแล้วก็แล้วแต่ความเชื่อของแต่ล่ะท่าน ผมมีหน้าที่ทำให้โหงวเฮ้งไม่เสียก็พอแล้ว ให้ภาพรวมของหน้าดีขึ้นก็พอแล้ว”
เวลาในการผ่าตัดทั้งหมดนาน 4 ชั่วโมง
หมอสอง : “อย่างที่บอกว่างานของพี่กอล์ฟ เหมือนเป็นชาเลนจ์อย่างหนึ่งของผม อย่างที่พี่กอล์ฟบอกว่า ขนาดที่ว่าเขาต้องลุกไปเข้าห้องน้ำ 1 รอบ ตอนทำจมูกให้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งแต่ไปจัดการกับเนื้อ ทำให้ปลายซิลิโคนมันเรียว เอากระดูหลังหูมาเสริมปลาย เพราะจมูกหลังหูมันทำให้จมูกมน โอกาสที่ซิลิโคนทะลุน้อยลง ตกแต่งปีกจมูก เราก็ต้องมาดีไซน์ว่าทำอย่างไรให้ดูเหมาะ ให้ปีกมันแคบ ผมใช้เวลาไป 2 ชั่วโมงกว่า ปากกับคาง ไม่ยากมาก ให้เวลาอย่างล่ะ 40 นาที ฉีดโบท็อกซ์อีกประมาณ 20 นาที รวมๆ แล้วประมาณ 4 ชั่วโมง”
ไม่ขอเปิดเผยเรื่องค่าใช้จ่าย ขอปล่อยให้เป็นความลับของโลก ไม่อยากมีประเด็นดรามา
กอล์ฟ : “ค่าเสียหายอย่าไปรู้เลย ให้มันเป็นความลับของโลกนี้ไป ถ้าใครอยากรู้ให้โทร.มาที่คลินิก แต่ล่ะเคสมันไม่เท่ากัน อย่าไปรู้เลย เดี๋ยวจะมีประเด็นดรามา มันจะมีพวกดรามาเราเลยไม่อยากให้รู้เท่าไหร่ เดี๋ยวจะถามว่าทำไมไม่เอาเงินไปบริจาคดรามาผมจะบอกว่า ผมบริจาคไปเยอะแล้วน้องเอ้ย (ต้องทำงานอีกกี่งานถึงจะได้พอค่ารักษา?) เพราะฉะนั้นจ้างเถอะครับ”
ยังตอบไม่ได้เหมือนกัน ว่าการทำหน้าใหม่จะมีผลกับงานในอนาคตหรือเปล่า
กอล์ฟ : “ต้องถามว่าหน้าผมเปลี่ยนไปมากไหม แต่ตอนนี้รู้สึก แต่อีกสักพักก็จะชิน การแสดงของผมมันเหมือนเดิม มันเป็นเอกลักษณ์อยู่แล้ว เล่นไปคนก็จำได้อยู่ดี ก่อนที่เราจะทำอันนี้เรารับงานไว้แล้ว เพราะฉะนั้นคุณจะเห็นหน้าใหม่จากละครเรื่องใหม่ทันที ไม่มีละครที่ค้างไว้”
โนสนโนแคร์คอมเมนต์แง่ลบ บอกอโหสิกรรมให้คนพวกนี้ มีคนชอบต้องมีคนไม่ชอบ อย่าไปเสียเวลาใส่ใจ
กอล์ฟ : “ผมไม่สนใจคนพวกนี้ ผมไม่ได้รู้ว่าว่าไม่แคร์ด้วย ผมรู้สึกอโหสิกรรม (หัวเราะ) ผมอยากจะบอกว่าทุกวันนี้ ขนาดพี่เบิร์ด (ธงไชย แมคอินไตย์) ยังมีคนไม่ชอบเลย ณเดชน์ยังมีคนไม่ชอบเลย ดูมันทำบุญสิ มาริโอ้ยังมีคนไม่ชอบเลย แล้วกอล์ฟ เบญจพล มันจะมีคนชอบทั้งประเทศไทยเป็นไปได้อย่างไร เป็นไปไม่ได้”
“ผมถึงบอกอโหสิกรรม ได้แค่นั้น เพราะคนพวกนี้เขามีปัญหา เพราะเห็นคนเขาอยากมีอยากได้ เห็นอิจฉา คุณจะทำอะไรได้ นอกจากอโหสิกรรมเขา คุณไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ ทำไมเขาไม่รู้จักคุณ เพราะเขาไม่ชอบคุณอยู่แล้ว คุณจะไปเสียเวลาทำให้เขาชอบคุณเหรอ คุณเอาเวลามาให้คนที่เขาชอบคุณดีกว่า คนที่ไม่ชอบคุณยังไงเขาก็ไม่ชอบคุณ เพราะฉะนั้นอโหสิกรรมได้อย่างเดียว”
ขำๆ ถ้าหมอเติมขาให้ได้ งานเดินแบบต้องเข้า งานฮอลลีวูด หรือเกาหลีก็ต้องติดต่อมาแน่นอน
กอล์ฟ : “ถ้าหมอเขามีต่อขา ผมเชื่อว่าเดินแบบต้องเข้าถูกไหม (หัวเราะ) ต้องยึดแคตวอล์ก แต่หมอเติมขาไม่ได้ ไม่งั้นมันต้องได้ แต่ว่างานวงการบันเทิงทำมาหมดแล้ว ถามว่าจะมีบทบาทใหม่ๆ เข้ามาใหม่ ผมก็ทำมาหมดแล้ว แน่นอนว่าบทบาทส่วนใหญ่ทำให้คนดูสนุกสนาน บทดรามา เป็นผู้ร้ายก็เล่นมาหมดแล้ว แน่นอนว่าทางฮอลลีวูดต้องติดต่อมา อาจจะมีเกาหลีติดต่อ แต่ต้องดูว่าผมว่างไหมนะ(หัวเราะ)”
หลังจากนี้ไม่ขอศัลยกรรมอะไรเพิ่มอีกแล้ว
กอล์ฟ : “ไม่เอาแล้ว (เสียงสูง) บ้าบอ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมต้องมาตรวจว่าแผลเข้าที่ไหม ระหว่างเช็กอยู่กับหมอ ก็จะมีเสียงเมียผมแทรกเข้ามา หมอค่ะหมอว่าหนังตาพี่กอล์ฟ หมอคะ เออ...ถามกูหรือยัง คือเราผมกลัวเจ็บ ถามว่าอนาคตจะทำอีกไหม ไม่เอาแล้ว”
บอกภรรยาอยากให้ทำเพิ่ม เพราะอยากได้สามีใหม่ เป็นสามีโอปป้าเกาหลี
กอล์ฟ : “เหมือนเขาได้ผัวใหม่ แลกกัน ช่วงโควิดเราดูซีรีส์เกาหลีตลอด เมียก็อยากมีผัวเป็นโอปป้า ตอนนี้กูโอปแล้ว (หันไปถามภรรยาถูกใจไหม ภรรยาบอกว่าถูกใจ เหมือนได้ผัวใหม่) ดูซีรีส์เกาหลี ก็จะบอกคนโน้นก็หล่อ คนนี้ก็หล่อ หันมาหาผัวเออ โอเคแล้วเนอะ”
บอกการจะทำศัลยกรรม สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมใจให้พร้อมจริงๆ ก่อนเป็นอันดับแรก และต้องศึกษาทุกอย่างให้ดี ว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
กอล์ฟ : “อันดับแรกคือเตรียมใจ อันนี้สำคัญมาก ต้องให้พร้อมจริงๆ เพราะคุณต้องดูแลตัวเอง เหมือนมีลูกคนหนึ่ง แต่ลูกคนนั้นคือตัวคุณเอง ตั้งแต่ตื่นนอนมาคุณต้องระวังทุกอย่าง เพื่อไม่ให้แผลคุณอักเสบ ต้องเตือนสติตัวเองตลอดว่าอะไรที่จะทำให้แผลคุณแตกหรือปริได้ คุณต้องศึกษาทุกอย่างว่าหลังจากศัลยกรรมแล้ว หรือว่าก่อนทำต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ศึกษาทุกอย่าง เมื่อพร้อมแล้วทั้งกายและใจก็ค่อยทำ”
หลังทำมีแฟนคลับทักมาถามเยอะมาก ได้แต่ให้คำแนะนำว่าควรปรึกษาหมอก่อนดีที่สุด
กอล์ฟ : “แค่แฟนคลับเราก็ไดเร็กข้อความมาแทบไหม้ เราก็บอกว่ามาคุยกับหมอสองได้เลย จะบอกว่าเรื่องพวกนี้ถ้ายังกลัว ยังไม่กล้า ยังลังเล ปรึกษาก่อนดีสุด เพราะว่าบางทีคุณอาจจะไม่ต้องทำก็ได้นะ มันอาจจะมีวิธีอื่นๆ ที่ไม่ต้องทำก็ได้”
หมอสองเตือนควรคิดและศึกษาให้ดี ก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรม และควรเข้ามาปรึกษากับหมอให้ชัวร์ก่อน
หมอสอง : “มันอาจจะมีความเชื่อบางอย่าง ผมขอเตือนคนที่อยากทำศัลยกรรมจริงๆ คิดให้ดีก่อนทำ อย่างน้อยสุดทำแล้วผลข้างเคียงมันเป็นอย่างไรบ้าง ของพี่กอล์ฟโชคดีที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อน ยุบลงมีผลที่น่าพอใจ แต่ก็มีเยอะเหมือนกันที่พลาดไปทำแล้วเกิดปัญหา”
“เพราะฉะนั้นศึกษาให้ดีก่อนที่จะทำ ต้องศึกษาด้วยว่าคุณหมอที่ทำมีประสบการณ์เพียงพอแค่ไหน เพราะว่าพอไปทำปุ๊บอาจจะเกิดปัญหาแบบที่เป็นข่าว ถ้าคาดหวังเกินไปทำมาแล้วไม่ได้ดังใจก็จะเกิดปัญหาตามมาอีก นอกจากนี้ถ้าเรามั่นใจตัวเองอยู่แล้วว่าบุคลิกภาพเราโอเคอยู่แล้ว ศัลยกรรมไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ อาจจะอยู่ของเราไป แต่งหน้าสวยๆ หล่อๆ แต่ถ้าอยากจะทำจริงๆ ก็เข้ามาปรึกษาก่อน”