เปิดตัว “ดร.เอ” ผู้เผยแพร่นวัตกรรมกล้องที่ใช้ส่องผีคนแรกในไทย ยันกล้องสามารถส่องเห็นพลังงานได้จริง แต่อยู่ที่คนเอาไปใช้ว่าจะพูดเกินจริงไปแค่ไหน เผยรายการ “ช่องส่องผี” ได้ขอกล้องตัวนี้ไปใช้ แต่ภายหลังได้เปลี่ยนกล้องและโปรแกรมใหม่ ไม่รู้ว่าสามารถส่องพลังงานได้เหมือนกล้องตัวเก่าหรือไม่ จกตาหรือเปล่า เพราะไม่เคยเห็น
รอดตัวจากการถล่มของแหม่มโพธิ์ดำไปเรียบร้อยแล้วสำหรับรายการ “ช่องส่องผี” หลังจากที่เปิดแถลงข่าวชี้แจงบัญชีรับบริจาค ทำเอาแหม่มโพธิ์ดำต้องถอยรูดออกมาขอโทษขอโพย แต่ก็ยังไม่รอดพ้นเรื่องที่ “เรนนี่” ผู้มีจิตสัมผัสพิเศษ แอบอ้างติดต่อวิญญาณบูรพกษัตริย์ได้ แถมยังถูกตั้งข้อสงสัยเรื่องกล้องจับวิญญาณ ที่ช่องส่องผีนำมาใช้นั้น จริงๆ แล้วแหกตาหรือไม่ ด้าน “อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์” อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องกล้องว่า จริงๆ แล้วมันคืออุปกรณ์สำหรับถ่ายทำภาพยนตร์ ด้วยการทำ motion capture จับการเคลื่อนที่ของนักแสดง เพื่อเอาไปทำเป็นแอนิเมชัน หรือคอมพิวเตอร์กราฟิกอื่นๆ ออกมาเป็นรูปเส้นๆ เหมือนโครงกระดูก แต่ถ้าตั้งค่าไม่ดีก็จะจับกับวัตถุทั่วไป แล้วพยายามแสดงภาพลายเส้นออกมา ถ่ายไปกิ่งไม้ ต้นไม้ หรือแม้แต่ที่ว่าง มันก็พยายามสร้างภาพออกมาบิดๆ เบี้ยวๆ ยังไงก็ได้
งานนี้คงไม่มีใครให้คำตอบนวัตกรรมกล้องส่องผีได้ดีเท่ากับ “ดร.เอ เหมโชค สิงห์สมบุญ” นักธุรกิจและรองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชียงราย ผู้ก่อตั้งเพจ Ghost forces team ผู้ที่นำนวัตกรรมกล้องส่องผีมาเผยแพร่ในเมืองไทยคนแรก และตอนหลังทางรายการช่องส่องผีก็มาติดต่อขอใช้กล้องดังกล่าวไปใช้ในรายการ โดยได้ร่วมมือกับ “อาจารย์สน ธราธิป ทิพยวรรณ” สร้างรายการช่องส่องผี แต่ภายหลังอาจารย์สนได้ยุติการทำงานกับช่องส่องผี พร้อมกับบอกว่าช่องส่องผีได้มีการเอากล้องตัวใหม่มาใช้ และใช้โปรแกรมใหม่ซึ่งไม่ทราบว่าโปรแกรมดังกล่าวสามารถนำมาตัดต่อทำกราฟิกเพิ่มได้หรือไม่ ด้าน ดร.เอได้พูดถึงที่มาที่ไปของกล้องส่องผี ที่รายการช่องส่องผีนำไปส่องผีว่า ....
แฉที่มากล้องส่องผี
“สำหรับกล้องตัวนี้จริงๆ ที่ต่างประเทศเขาใช้กันมานานแล้ว มันเป็นแค่ motion capture ครับ วิธีทำมันก็ไม่ได้ยากเลย เพราะผมก็มีเขียนวิธีทำในเพจของเราเองตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2017 ผมก็เผยแพร่ให้เอาไปทำกันเองได้ แค่มีอุปกรณ์ที่ใกล้เคียงตามนี้ สอนวิธีประกอบให้ โดยใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่รอบๆ ข้าง ถ้าใกล้เคียงที่สุดก็จะเป็นแค่ window tablet ที่เป็นเวอร์ชั่น 7 ขึ้นไป แล้วก็มีกล้อง SLS Camera หรือจะเป็นเครื่อง xbox หรืออะไรที่มันใช้สำหรับเล่นเกมส์ก็ได้ หรือกล้องที่มีคุณสมบัติเดียวกันที่สามารถมี motion capture ได้ก็จะสามารถทำได้ แล้วก็ดาวน์โหลดโปรแกรม kinect ก็ใช้ได้แล้วครับ”
“คุณสมบัติของกล้องตัวนี้ต้องอธิบายว่า motion capture เป็นการจับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า แต่การจับคลื่นไฟฟ้านั้น มันก็จะจับได้ว่าบริเวณตรงนั้นมีคลื่นแม่เหล็กอะไรที่ผิดปกติหรือเปล่า แล้วมันจะขึ้นเป็นโครงร่างให้เห็น ในกล้องก็จะเห็นเป็นรูปตัวคน หรือรูปกลุ่มก้อนนี่แหละครับ แต่จะพูดว่าสามารถจับวิญญาณได้จริงๆ หรือเปล่า ผมไม่ขอพูดว่าไอ้โครงร่างนั้นมันคืออะไรแล้วกัน แต่มันก็กลายเป็นว่าเทคโนโลยีนี้มันได้ถูกการกระจายไปยังเพจผีต่างๆ ไปเยอะมาก เขามาขอวิธีจากผมทำไป
เราก็ได้ติดตามฟีดแบ็กจากหลายๆ เพจที่นำไปใช้ เขาก็จะเอาไปใช้ตามรูปแบบของรายการเขา มีทั้งไปจับภาพวิญญาณและประหลาดถึงขั้นไปจับภาพมนุษย์ต่างดาวก็มี ทุกเพจที่เอาไปก็ได้ผลเหมือนกันหมดนะครับ”
ยันกล้องสามารถจับพลังงานได้จริง แต่ขอไม่พูดว่าพลังงานที่จับได้นั้นคือวิญญาณหรือไม่
“ตอนนี้กำลังเป็นที่ถกถียงกันว่ากล้องมันจับวิญญาณได้จริงมั้ย หรือมีการนำภาพกราฟิกไปตัดต่อหรือเปล่า ผมคงต้องบอกว่าเอาภาพกราฟิกไปทำไม่ได้หรอกครับ เพราะมันเป็นกล้องแบบเรียลไทม์ แต่สิ่งที่สังคมเขาดูกันตอนนี้ว่ามันเจอพลังงานนะ แต่คุณจะทราบได้ยังไงว่ามันคือวิญญาณ แต่ความเป็นจริงก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากล้องมันจับพลังงานได้จริงๆ แต่ผมไม่ยืนยันว่าจับพลังงานอะไรได้นะ เราจะไม่ไปลงลึก ทางเพจผีต่างๆ ที่เอาไปใช้เขาก็จะมีรูปแบบการทดลองของเขา และก็มีผลที่น่าสนใจหลายๆ เพจนะครับ”
“ส่วนตัวผมไม่ได้รู้จักกับคุณเจมส์ที่เป็นคนถือกล้องส่องผีในรายการ แต่ผมรู้จักกับอาจารย์สน (อาจารย์สน ธราธิป ทิพยวรรณ) ที่เขาเอาอุปกรณ์นี้ไปให้รายการช่องส่องผี ช่วงนั้นผมติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ อาจารย์สนก็เลยเป็นคนเอาอุปกรณ์ไปให้ทางช่องส่องผี เวลาที่มีกล้องตัวนี้เข้าไปในรายการจะทำให้มันสนุก เพราะจะได้พิสูจน์ว่าไอ้ที่ว่าเห็นวิญญาณตรงนั้นตรงนี้มันเห็นจริงไหม เพราะกล้องมันจะตรวจจับพลังงาน ทุกคนก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากล้องมันสามารถจับพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าได้ แต่แค่คุณจะการันตีได้ยังไงว่าพลังงานที่เห็นมันคือวิญญาณ และก็อยู่ที่คนสื่อด้วยว่าเห็นพลังงานแล้วจะพูดเกินจริงหรือเปล่า”
จวกช่องส่องผี ควรพูดแค่เรื่องวิญญาณ ไม่ควรพูดถึงบูรพกษัตริย์
“คุณเรนนี่ได้พูดถึงการเห็นวิญญาณต่างๆ รวมถึงบูรพกษัตรย์ จริงๆ แล้วผมว่าถ้าจะทำรายการด้านความเชื่อก็ทำไป แต่ไม่ควรไปยุ่งเรื่องประวัติศาสตร์ เพราะบางทีเราไม่ทราบว่าเราจะไปกระทบอะไรบ้าง เพราะสุดท้ายเรารับผิดชอบต่อสังคมไม่ไหวหรอก และไม่ควรไปยุ่งอะไรหลายๆ เรื่องที่ไม่ควรพูด”
ตอนนี้ “ดร.เอ” ได้นำกล้องดังกล่าวมาใช้ในการศึกษาด้านพลังงาน
“ตอนนี้ผมได้นำกล้องตัวนี้มาใช้ในการศึกษาด้านพลังงาน โดยได้ทำรายการคนถอดรหัส Decoder กับอาจารย์นิติกฤตย์ กิตติศรีวรนันท์ ซึ่งเป็นผู้คิดค้นเรื่องศาสตร์พลังตัวเลข ก็จะนำกล้องมาพิสูจน์พลังตรงนี้”
ทางด้าน “อาจารย์สน ธราธิป ทิพยวรรณ” อดีตทีมงานช่องส่องผี และเป็นผู้ที่นำกล้องส่องผีตัวนี้เข้าไปให้รายการใช้ เผยตอนที่ทำงานอยู่ได้ใช้กล้องต้นฉบับของ ดร.เอ ซึ่งสามารถจับพลังงานได้จริง แต่เมื่อตนได้ขอยุติการทำงานกับรายการ ทางรายการก็ไปนำเอากล้องและโปรแกรมอื่นมาใช้ ก็ไม่ทราบว่าจะทำให้จับพลังงานได้เหมือนตัวเก่าหรือไม่ เพราะไม่ได้เห็นกล้องด้วยตนเอง
“ผมก็ทำพัฒนาเครื่องมือตัวนี้แหละ แล้วก็เอาลงเฟซบุ๊ก ทีนี้ อ.เจมส์เขาก็มาเห็น แล้วพอดีเพื่อนผมรู้จักเขา ก็เลยแนะนำผ่านกันมา ผมก็เลยเอากล้องไปให้ อ.เจมส์ดู ก็เลยมาทำช่องส่องผีทางช่องยูทูปด้วยกันช่วงแรกๆ แต่พอเข้าช่อง 8 แล้วผมไม่ค่อยมีเวลา ผมก็เลยออกมา คือไม่ได้มีปัญหากันนะ แค่พอเขาเข้าช่องแล้วการบริหารจัดการทางช่องก็จะมาดูแล ผมก็เลยขอออกมาดีกว่า”
“ก็ต้องบอกว่าเครื่องนั้นในช่วงแรกๆ เป็นกล้องและซอฟต์แวร์ตัวที่ผมแนะนำ ติดปัญหาคือมันหนักมาก ตอนหลังทางรายการเขาก็เอาไปพัฒนาแล้วก็เปลี่ยนโปรแกรม เป็นกล้องคนละตัว คนละซอฟต์แวร์ คือทาง อ.เจมส์เขาไปพัฒนาของเขาเอง อุปกรณ์ชนิดนี้มันเป็น free ware ครับ สามารถทำขึ้นมาเองได้หมด ซึ่งมันไม่ใช่ตัวของผมแล้ว ผมไม่แน่ใจว่าเขาเอาไปให้ใครเขียนโปรแกรมให้ใหม่นะ แต่ถามว่าตัวโปรแกรมใหม่นี้มันสามารถใส่กราฟิกเข้าไปได้มั้ย คือผมไม่เคยสัมผัสกล้องใหม่ของเขา ผมก็คงตอบไม่ได้ เพราะผมก็ไม่เคยเห็นโปรแกรมตัวนี้ แต่ถ้ากล้องเดิมของผมไม่มีการตัดต่อใส่กราฟิกแต่อย่างใดเพราะมันเป็นเรียลไทม์ แต่ผมไม่ยืนยันว่าสิ่งที่เห็นว่าเป็นผีจริงหรือไม่”