xs
xsm
sm
md
lg

“ชิ อนุชา” เผยบริษัทหนังเพิ่งติดต่อ “นาธาน” ขอตีแผ่ชีวิต สอนคนในวงการที่โกหก ลั่นเขาเป็นคนที่โดดเดี่ยว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เกลียดกันไม่ลง “ชิ อนุชา” รับไม่คิดว่า “นาธาน” จะจากไปเร็วขนาดนี้ ลั่นไปสบายแล้ว กลับไปสู่ความเมตตาของพระเจ้า เผยเคยสั่งเสียถ้าตายจะขอไปฝังที่บ้าน สงสารเป็นคนที่โดดเดี่ยว โกหกเพราะอยากมีตัวตนในวงการ เผยบริษัทหนังเพิ่งติดต่อขอตีแผ่ชีวิต สอนคนในวงการที่โกหก แต่ไม่ทัน

การจากไปอย่างรวดเร็วแบบไม่ทันตั้งตัวของอดีตนักร้อง “นาธาน โอมาน” สร้างความรู้สึกตกใจแก่คนที่รู้จัก และคนในวงการเป็นจำนวนมาก เพราะคาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเสียชีวิตอย่างรวดเร็วขนาดนี้ ทั้งที่ไม่เคยมีเค้าลางความเจ็บป่วยออกมาให้เห็นตามสื่อมาก่อน แม้แต่ “พี่ชิ อนุชา ลังประเสริฐ” อดีตผู้จัดการ ก็ยอมรับว่าคาดไม่ถึง พร้อมเผยเพิ่งคุยโปรเจกต์สร้างหนังจากชีวิตจริง

“เราทราบข่าวเมื่อเช้า ทราบว่าเสียชีวิตเมื่อเช้า แต่จริงๆ ก็ทราบข่าวว่าเขาป่วยมาสักระยะนึงแล้ว ช่วงที่ผ่านมาอาจไม่ได้เจอกัน แต่ว่ามีการพูดคุยกัน มีการคุยไลน์คุยอะไรกันบ้าง ล่าสุดเรื่องที่คุยคือมีบริษัทหนังติดต่อมาบอกว่าอยากทำหนังเรื่องนาธานกับเรา กับข่าวคราวที่ผ่านมาก็ 10 ปีแล้วก็โอเค เรื่องนี้ต้องคุยกับนาธานก่อนเพราะเป็นชีวิตเขา ว่าเขาทำได้หรือเปล่า หรือทำได้มากน้อยแค่ไหน เป็นการเกริ่นพูดคุยกันในเบื้องต้นช่วงแรก และในช่วงโควิดไม่ค่อยได้คุยกัน ไม่ค่อยได้ทักทายเท่าไหร่ ต่างคนต่างอยู่”

“เรารู้ว่าเขาพอจะป่วยบ้าง แต่ปกติเขาเป็นคนแข็งแรง ไม่คิดว่าเขาจะไปเร็วได้ขนาดนี้ ครั้งนึงช่วงที่เราอยู่ด้วยกันมาตลอด เขาก็เหมือนญาติพี่น้องเรา เขาบอกว่าถ้ากูตาย อยากขอไปฝังที่บ้านมึง หมายถึงที่สุเหร่าที่บ้านเราที่รามอินทรา มีนบุรี แต่ช่วงเวลานี้เขาอยู่ไกลต่างจังหวัด ไม่ค่อยได้เจอกัน จริงๆ เขาแอดมิทสองสามวันก่อนอาการก็ไม่ได้หนักมาก แต่สุดท้ายก็เป็นอย่างที่เห็น ก็ไปเลย ด้วยความที่ว่าเป็นศาสนาอิสลาม ต้องทำพิธีให้เสร็จภายใน 24 ชม. ก็ต้องมาลงที่สุเหร่าทุ่งครุนี้ ตอนนี้เพื่อนๆ ดาราน่าจะทราบแล้ว เพราะเรามีการโพสต์และพูดถึงกัน หลายคนก็ทักทายเข้ามาแสดงความเสียใจกับเรื่องนี้”

เผยอีกฝ่ายกลับเนื้อกลับใจแล้ว ไปใช้ชีวิตทำงานที่ต่างจังหวัด

“จริงๆ เขาก็กลับเนื้อกลับตัวเนอะในช่วงที่ผ่านมา เขาก็ไปใช้ชีวิตในการทำงานของเขาเอง อาจมีการทำข่าวคราวสกู๊ปข่าวเก่าบ้าง ล่าสุดก็เพิ่งเห็นทางทีวี เขากลับเนื้อกลับตัว ช่วงหลังไม่ค่อยได้มีโอกาสเจอกัน แต่ได้ดูในทีวีอยู่เรื่อยๆ

ปกติก็คุยเมาท์มอย สัพเพเหระ เขาเป็นคนคุยสนุก เรื่องที่ผ่านๆ มาก็เป็นเรื่องปกติ อยู่ด้วยกันมาจนชิน ทะเลาะกันบ้าง ดีกันบ้าง งอนกันบ้าง แต่เดี๋ยวก็ดีกัน เจอกัน กินข้าวกันบ้าง บางทีคนไม่รู้คิดว่าเราทะเลาะกันแล้วห่างหายกันไปนาน แต่จริงๆ คือเรามีการติดต่อพูดคุยกันเรื่อยๆ แต่ช่วงสองสามวันก่อนไม่ได้คุย เพราะไม่คาดคิดว่าเขาจะเร็วได้ขนาดนี้”

เผยอีกฝ่ายสนใจทำหนังชีวประวัติ อย่างน้อยให้เป็นอุทาหรณ์สอนคนที่โกหก
"เขาก็สนใจ เรื่องนี้คุยมานาน ช่วงเป็นข่าวดังๆ เยอะๆ แต่ชั่วโมงนั้นไม่มีใครกล้าเสี่ยง เรื่องราวมีหลากหลายมุมที่คนอาจยังไม่รู้ หรือรู้แต่ไม่หมด ก็อยากจะนำเสนอเป็นอุทาหรณ์ของวงการบันเทิงไทย เป็นเรื่องราวที่ทำให้บานปลายไปหลากหลายมิติ อย่างน้อยให้เป็นอุทาหรณ์สอนคนบันเทิง สอนคนที่โกหกแล้วผลลัพธ์เป็นแบบไหน ยังไง ตอนนี้เขาก็โอเค กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีแล้ว คุยกันเขาก็สนใจ"

ทะเลาะกันบ้าง แต่โกรธกันไม่เคยลง เหมือนญาติพี่น้อง
"หนึ่งเขามีน้ำใจดีเหมือนเดิม เขากับเราสนิทกันมาก คือโกรธกันไม่ลง ทะเลาะกันบ้างแต่โกรธกันไม่ลง สุดท้ายก็มาเจอกัน เหมือนญาติพี่น้องกันมากกว่า เขาก็ไม่มีที่พึ่งใคร เวลาเขามีอะไรปรึกษาก็มาคุยกับเรา แต่หลังๆ เขาไปพูดคุยให้ข่าวถึงเราในสิ่งไม่ดี เขาก็เลยไม่กล้าคุยกับเราเท่าไหร่ จนมีโอกาสได้มาคุยกันในเรื่องโปรเจกต์หนัง ไม่นานนี้เอง ช่วงต้นปีที่ผ่านมาก่อนโควิด"

“เรื่องหนังเขาโอเพ่นได้หมด เขาสามารถพูดได้หมด เป็นเรื่องที่เขาก็เปิดเผยมาหมดแล้ว แต่ว่ามีบางมุม บางช่วงเวลา บางเสี้ยวที่เขาไม่ได้พูดกับใคร แต่เรารู้ว่าเขาคิดแบบไหน ไปอยู่ตรงไหน หลบอยู่ตรงไหน มีความยากลำบากยังไงตอนที่เขาโดนตามหนักๆ เขาถึงขนาดอยู่ไม่ได้ไปอยู่มุมไหนของประเทศนี้ ซึ่งเรารู้มาตลอด บางสิ่งบางอย่างเราก็พูดไม่ได้ในช่วงเวลานั้น

ถามว่าจะทำต่อไหม ก็แล้วแต่บริษัทที่เขาติดต่อมาว่าเขาสนใจหรือเปล่า แต่เท่าที่คุยกันโดยพล็อตเรื่องที่คุยกันก็น่าสนใจ แต่เขากลัวจะไปพาดพิงบุคคลหลายๆ คน แล้วจะโอเคหรือเปล่า เรื่องของนาธานเองด้วย ว่าเขาจะโอเคหรือเปล่า”

นาธานห่วงที่สุดคือน้องสาว ส่วนพ่อแม่อยู่ห่างๆ ไม่ค่อยได้คุยกัน
นาธานรักน้องสาวมาก เขาจะห่วงที่สุดคือน้องสาว ที่ก่อนหน้านั้นอยู่ต่างประเทศ ก่อนหน้านั้นน้องสาวเขาน่าจะแต่งงาน มีการคุยกับน้องสาวตลอด แต่พ่อแม่อยู่ห่างๆ ไม่ค่อยได้คุยเท่าไหร่ ตอนนั้นน้องเขาอยู่เยอรมัน แต่น่าจะกลับมาเมืองไทยแล้ว ยังไม่ได้คุยกัน ส่วนแม่อยู่ที่นครฯ ก็ไม่ทราบว่าใครดูแล เพราะไม่ค่อยได้คุยเรื่องครอบครัวเขาเท่าไหร่เพราะเขาไม่ได้บอกมาก”

ลั่นชีวิตโดดเดี่ยว โกหกเพราะอยากมีตัวตนในวงการ
“อย่างที่เห็นนะ เขาก็โดดเดี่ยวมาตลอด ตั้งแต่เริ่มต้น สิ่งที่เขาทำ เขาอาจต้องการมีตัวตนอยู่ในวงการ ตั้งแต่เริ่มต้นเข้าวงการมาเลย สิ่งที่เรารู้ เราอยู่อาร์เอส หาศิลปินมานับร้อยคน โปรไฟล์ที่ถูกนำเสนอเราก็ยืนยันว่าไม่ได้เมก ไม่ได้อะไรเลย เรารู้ข้อมูลมาจากเขา นาธานเป็นคนที่ค้นคว้าข้อมูลเก่งมาก ในยุคที่อินเทอร์เน็ตเพิ่งเริ่มเข้ามาใหม่ๆ เขาก็หาข้อมูลในการบ่งบอกว่าชีวิตตัวเองมาจากไหน อยู่จุดไหนให้น่าสนใจ เราก็รับข้อมูลจากเขา อาร์เอสก็เดินเรื่องตามต่อ ไปตีความขยายความจากชีวิตของเขาที่เป็นอยู่ ออกมาเป็นบทเพลง จนสุดท้ายเรื่องก็แตกว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น ก็อย่างที่เป็นข่าวมาทั้งหมด”

เผยภาพนาธานในความทรงจำ
“เขาเป็นคนร่าเริง และมีน้ำใจกับพี่มาก เป็นคนที่คุยได้ทุกเรื่อง”

ส่งครั้งสุดท้าย ไปสบายแล้ว กลับไปสู่ความเมตตาของพระเจ้า
“ก็อยากทำพิธี อยากฝังเขาอย่างที่เคยคุยกันเอาไว้ ตอนนี้เขาสบายแล้ว กลับไปสู่ความเมตตาของพระเจ้าของเรา ของอัลเลาะห์ ช่วงเวลาความดีของเขาก็มีอยู่ คนเรามีทั้งดีทั้งชั่ว สุดท้ายก็เป็นการตัดสินของพระเจ้าว่าเขาจะไปอยู่ตรงจุดไหนในโลกหน้า”








กำลังโหลดความคิดเห็น