xs
xsm
sm
md
lg

เจ้านาย “นาธาน” เผยลางบอกเหตุ อีกฝ่ายเคยบอก เวรกรรมตามทันแล้ว ลั่นให้โอกาสเพราะอยากให้อยู่บนโลกอย่างมีศักดิ์ศรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เปิดใจเจ้านายผู้ให้โอกาส "นาธาน" ทุกคนต้องมีสิทธิ์อยู่บนโลกอย่างมีศักดิ์ศรี เผยช่วงสุดท้ายของชีวิตอยากทำความดี รับเลี้ยงลูกบุญธรรม เสียดายมีเวลาทำความดีน้อยเกินไป กล้าพูดได้เต็มปากว่าเขาเปลี่ยนไปแล้ว เผยลางบอกเหตุ เคยร้องไห้บอกเวรกรรมตามทัน ตอนนี้หมดกรรมแล้ว

จากกรณีที่อดีตนักร้องดัง “นาธาน โอมาน” เสียชีวิตกะทันหัน สร้างความรู้สึกช็อกแก่คนในวงการ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครรับรู้เรื่องอาการป่วยมาก่อน ล่าสุด “ดร.ไพบูลย์ บุตรเลียบ” เจ้านายที่คอยดูแลนาธาน ในช่วง 7-8 ปี ได้เผยกับสื่อมวลชนว่า ที่ผ่านมาเจ้าตัวป่วย เข้ารักษาตัวที่รพ. เผยเคยพูดเป็นลางว่าเวรกรรมตามทันแล้ว

“เขาเริ่มมีอาการมา 3-4 เดือนแล้วครับ ก่อนหน้านี้ก็ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลรามคำแหง ตอนนั้นเป็นช่วงโควิด ก็เลยยังหาสาเหตุไม่ได้ว่าเป็นโรคอะไร เราก็เลยให้ตรวจอาการโควิด ซึ่งผลปรากฎว่าไม่พบเชื้อ เขาก็แจ้งว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ ก็กลับมาที่พักที่สมุทรสาคร กลับมาได้สักเดือนนึงก็เริ่มมีอาการเหมือนเดิม ช่วงนั้นก็เดินทางลำบากเพราะช่วงโควิด ผมก็เลยพาไปที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร ซึ่งเขาก็มีสิทธิในการรักษาพยาบาลของโรงพยาบาลนี้ เพราะทำงานที่สมุทรสาครอยู่แล้ว”

“หลังจากเข้าไปก็มีอาการเหมือนไข้หวัดใหญ่อีก คุณหมอก็แจ้งมาว่าเป็นโรคโลหิตจาง กลับมาก็ยังไม่ดีขึ้น ก็เข้าโรงพยาบาลประมาณ 2-3 ครั้งนะครับ ครั้งสุดท้ายก็ไปเช็กปกติ เขาก็โทร.มาบอกว่าเขาต้องนอนโรงพยาบาลนะ เราก็ให้ทางผู้จัดการสาขาที่โรงแรมจัดคนไปดูแลหน่อย เพราะปกติเราก็ดูแลมาตลอด”

เผย “นาธาน” โทร.มาร้องไห้ บอกว่าเหนื่อย
“พอเข้าไป 2-3 วัน เมื่อคืนเขาโทร.มาบอกว่าเขาเหนื่อย น่าจะประมาณก่อนค่ำนิดนึง ก็มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทเข้าไปดู เขาก็นอนร้องไห้ ทางคนที่ไปดูก็บอกสู้ๆ นะพี่ เพราะเขาก็ไม่ค่อยมีใครเข้ามาดู พอเช้าทางทีมแพทย์ก็โทร.มาบอกว่าตามญาติหน่อย เพราะอาจจะต้องมีการตัดสินใจอะไรที่สำคัญ แต่ปรากฎว่าไม่ทัน ผมไปถึงประมาณ 9.30 น. เขาเสียประมาณ 9.35 น.”

คุณหมอวินิจฉัยว่าติดเชื้อในกระแสเลือดครับ ผมไม่ได้คลางแคลงใจอะไรนะ เพราะมีอาการมาตลอด ก็เลยบอกว่าไปหาหมอซะ เคยจะพาไปตรวจใหญ่ทีนึง แต่เขาไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไหร่ เพราะเขาคิดว่าเขาแข็งแรง เพราะอย่างตอนที่เราไปทำธุรกิจที่จ.บึงกาฬ ไปขึ้นภู เขาขึ้นไป 3 รอบแล้ว เรายังไปได้รอบเดียวเลย ขนาดเราวิ่งทุกวัน เขาแข็งแรงมากครับ เดินได้ทีครึ่งวัน ไปนครสวรรค์เราก็ไปวิ่งรอบบึง เขาก็เดินได้ 2 รอบนะ แต่ที่เข้าโรงพยาบาลไปล่าสุดก็แค่ไปเช็กอาการปกติ มียา มีอาการไข้ ตอนหลังเริ่มทานอาหารไม่ได้ ที่บริษัทเขาจะมีร้านอาหารประจำอยู่ เขาก็จะทานได้น้อยมาก”

บอกอีกฝ่ายมาสัญญากับตนว่าจะเป็นคนดี และรับเลี้ยงลูกบุญธรมที่เชียงใหม่ไว้ด้วย
“ที่เขามาอยู่กับผมก็เมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว ผมก็บอกว่าถ้าจะมาอยู่ด้วยกันต้องพูดความจริงนะ ซึ่งจริงๆ เขาก็พูดความจริงตลอดนะ เพราะเรารู้สึกได้ ผมคิดว่าช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาเขาได้รับเลี้ยงลูกบุญธรรมคนนึงอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่นะ เขามีความรู้สึกว่าอยากจะทำความดี คือเขาทำอะไรกับสังคมนี้มาเยอะ เขาบอกว่าช่วงสุดท้ายตั้งแต่อายุ 40 เป็นต้นไปเนี่ย ผมจะทำแต่ความดีแล้วนะ วันนี้จะไปบึงกาฬ ผมจะไปช่วยโน่นนี่ ช่วยโปรโมตการท่องเที่ยว เพราะเราไปมีธุรกิจที่โน่นอยู่ด้วย”

“ในความรู้สึกผม ผมคิดว่าเขาเป็นคนปกติแล้วในสังคม คือเรื่องราวของเขาอาจจะไม่ปกตินะ เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วเรายังมองว่าคนนี้มันน่าด่าว่ะ แต่พอมาอยู่ด้วยกันสัก 7-8 ปี ก็รู้สึกว่าเขาเปลี่ยน วันนี้ผมกล้าพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าไม่ว่าจะเป็นเจ้าที่และพนักงานขององค์กรเราหลายร้อยชีวิตพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขามีคำไว้อาลัยให้นาธาน ผมคิดว่าเราคืนคนดีสู่สังคม แต่เขาอาจจะมีช่วงเวลาที่น้อยไปนิดนึงที่จะทำความดี ได้ตอบแทนสังคมนี้ได้น้อยไปนิดนึง”

เผยลางบอกเหตุ “นาธาน” มาบอกอยากขออโหสิกรรม และบอกเวรกรรมตามทันแล้ว
“มีครั้งนึงเขาเคยมาพูดกับผมว่า เวรกรรมตามเขาทันแล้ว คือก่อนที่เราจะรู้ว่าเขาป่วยนะ เราก็ถามว่าเรื่องอะไร แล้วเขาก็ร้องไห้ เราก็บอกให้เขาไปนอน นับแต่วันนี้ก็ทำความดี หลังๆ แม้แต่บุหรี่เขายังไม่สูบเลย เพราะเขาขับรถให้ผม ปกติถ้าใครขับรถให้แล้วสูบบุหรี่ ผมไล่ลงเลย เขาก็จะเลิกหมดเลยนะ หลายปีมากแล้วครับ แต่ก็มีครั้งนึงมีลางบอกเหตุ เขาบอกว่าถ้าเขาไม่อยู่แล้วก็ขออโหสิกรรมให้คนโน้นคนนี้คนนั้นด้วย เขาพูดนานแล้วนะ คิดว่าน่าจะเกิน 90 วันแล้ว”

“ถามว่ามีเอะใจก่อนไหม ไม่มีหรอกครับ เพราะตลอด 7-8 ปีที่ผ่านมาเขาเข้ามานั่งแล้วขอโทษบ่อยมาก เราก็ถามว่าทำผิดอะไรถึงมาขอโทษ ผมก็บอกว่าถ้าปีหน้าขอโทษจาก 10 ก็ให้ลดเหลือ 9 ครั้ง ปีต่อๆ ไปก็ลดมาเรื่อยๆ ถ้าทำได้แสดงว่าเราความไม่ดีน้อยลง ซึ่งปีหลังๆ ไม่มีเลย”

บอกที่ตนรับดูแล “นาธาน” เพราะอยากให้โอกาสคน ทั้งๆ ที่มีหลายคนเตือนเอาไว้
“เขาเป็นคนน่าสงสารนะ ผู้ใหญ่หลายคนก็บอกว่าเลี้ยงไว้ได้ยังไง แต่ผมก็ยึดมั่นมาตลอดว่าถ้ารู้ว่าเป็นงูเห่า แล้วปล่อยออกไปข้างนอก มันก็ไปกัดคนอื่นตาย ให้รู้ว่ามันอยู่กับผม เพราะผมรู้ว่าจะขังมันยังไง ผมจะล้อมกรอบมันไว้ยังไง ถึงจะเชื่องหรือไม่เชื่องเราก็เอาพิษมันออก ผมเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิที่จะอยู่บนโลกนี้อย่างมีศักดิ์ศรี ความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน ไม่มีใครอยากโดนด่า ทางโซเชียลเนี่ยเราโดนด่า 2-3 ข้อความในการโพสต์เรายังจิตตกเลย แต่นี่โดนคนทั้งประเทศด่า คือผมเห็นใจ ผมเห็นว่าเขาแบกรับภาระเยอะมาก ผมคิดว่าคนๆ นึงไม่ควร ไม่มีใครขาวสะอาด ก็ถือว่าน้องหมดเวรหมดกรรม”

“ผมก็บอกเขาว่าไม่ต้องห่วงอะไร ให้ไปสบาย เพราะเขาก็แทบจะตัวคนเดียวอยู่แล้ว ผมเองก็ไม่มีห่วงแล้ว ไม่ต้องห่วงเขา ผมก็เหมือนเป็นพี่คนนึงของเขา มีอะไรก็คุยกับเขาตรงๆ ผมรับได้ ผมให้โอกาสคน ถ้าเกิดเราปล่อยทิ้งแล้วปล่อยให้เขาอยู่ในสังคมผมว่าอันตรายนะ ไม่ใช่แค่เคสของนาธานนะ ผมว่าทุกเคสแหละ คนที่เป็นคนดีมากในสังคมเรามันเยอะ 99.9% เป็นคนดี อีกนิดเดียวที่มีคนไม่ดี ก็ขอให้คนดีๆ สักคนไปยึดเขาไว้ คุยกับเขา ดูแลเขาว่ามีปัญหาอะไร ผมว่าปัญหาสังคมมันลดลงได้นะ”










กำลังโหลดความคิดเห็น