"แน็ก ชาลี" เปิดใจศึก "จูน" ฟัดผู้จัด ให้คนที่มีปัญหาออกมาแก้ไข หวั่นพูดไปเดี๋ยวคนเข้าใจผิด รับถูกหลอกถ่ายละครเยอะกว่าที่ตกลง ได้ค่าตัวแค่ 2 หมื่นแต่ได้ครบเลยไม่เอาเรื่อง โอดเงินหมดอยากรีวิว แต่ไม่มีไฟเหมือนเมื่อก่อน
กำลังจะกลับมาสร้างรอยยิ้มให้เหล่าแฟนๆ อีกครั้ง สำหรับพระเอกหนุ่มสุดเซอร์ "แน็ก ชาลี ไตรรัตน์" ที่ล่าสุดเจ้าตัวบอกว่าดีใจมากที่หนังเรื่อง พจมาน สว่างคาตา ได้เข้าฉายสักที และไม่กลัวว่าคนจะโฟกัสผิดจุด เพราะในภาพนิ่งนั้นดูจะซูมที่เป้ามากกว่าที่หน้า ซึ่งเจ้าตัวก็บอกว่าของจริงตนไม่ได้เยอะขนาดนั้น
"ดีใจมากเลยหนังได้เข้าฉายเลย เพราะหนังก็เลื่อนหลายเดือนอยู่ ดีใจแทนนายทุนและพี่พชร์ อานนท์ด้วย เพราะทำหนังมาก็อยากฉายกันทุกคน ในหนังจะอู้ฟู้เหมือนในภาพนิ่งไหมเหรอ ก็เยอะอยู่ครับ (ยิ้ม) ถามว่ากลัวคนโฟกัสผิดจุดไหม ไม่ผิดหรอก มีอยู่จุดเดียว (หัวเราะ) แต่ถ้าคนจะโฟกัสก็ไม่เป็นไรหรอก มันก็คงจะตลกๆ น่ารักไป ของจริงมันไม่มีอะไรหรอก (หัวเราะ)"
"หลังๆ คนมองว่ามันเป็นจุดขายของเราไปแล้ว ก็ไม่หรอก จริงๆ หลังๆ เวลาไปไหนผมก็ไม่ได้พูดถึงแล้ว เพราะบางคนเขารำคาญ เพราะมันเป็นอะไรที่พอเราพูดบ่อยเขาก็รำคาญ แต่บางงานเขาก็ชอบ ยังไงก็อยากฝากนะครับ ถ้าใครที่เป็นแฟนหนังของพี่พชร์อยู่แล้ว เขาก็จะเป็นสไตล์คล้ายๆ กัน ก็จะออกแนวตลก แต่มีสาระไหมผมไม่แน่ใจ (หัวเราะ) แต่ตลกแน่นอน ดูแล้วไม่เครียด ใครที่เป็นแฟนหนังน่าจะชอบมากๆ ก็ฝากด้วยครับ"
บอกคลิปที่ถ่ายกับตัวเงินตัวทองนั่นคือมีคนเลี้ยงจนเชื่องแล้ว
"จริงๆ เจ้าของเขาเลี้ยงจนน้องเชื่องแล้วครับ คือสัตว์พวกนี้มีหลายคนเลี้ยงอยู่ มีหลายๆ แบบ ก็น่ารัก ส่วนใหญ่คนจะกลัวมันเอง แต่มันน่ารัก ยกเว้นเราไปเจอมันกลางถนนแล้วเราไปตะครุบมัน มันก็อาจจะป้องกันตัว แต่มันน่ารัก ไม่ต้องใช้เวลาในการเข้ากับเขา ตัวนี้คือเป็นของเพื่อนๆ กันด้วย เราก็แค่เข้าไปเล่นด้วยก่อน แล้วก็ไม่มีปัญหา มันคงเห็นว่าพวกเดียวกัน (หัวเราะ) มันน่ารักมาก เราก็เล่นไปตามธรรมชาติ"
"เขาไม่กลัว ไม่หนีเลยครับ จริงๆ พวกนี้ถ้าเราเลี้ยงเหมือนหมา แมว เขาก็อย่างนั้นเลย เขาก็อยากกินข้าวเหมือนกัน เวลาเขาหิวเขาก็ต้องมาขอคน แล้วที่เขาเข้ามาตามบ้านคนมากขึ้น เพราะเขาไม่มีที่อาศัยแล้วไง มันไม่มีข้าวให้กินตามธรรมชาติ ถ้าเราใจดีเราก็ให้เขาไป ของผมก็มีเลี้ยงอยู่ข้างคลอง แต่เขาจะไม่ได้เชื่องมาก คุณแม่จะเอาโครงไก่ไปวางไว้ให้ แต่ก่อนมีเยอะมาก แต่ตอนนี้มันไม่มีของให้เขากินแล้วจริงๆ"
"อาเธอร์ก็มีมาเล่นบ้างครับ อาเธอร์เขาก็มีงูของเขาอยู่ เขาก็เลี้ยงสัตว์ของเขา เป็นเด็กที่เติบโตมาในครอบครัวที่มีสัตว์เลี้ยง เขาก็ชอบ ผมก็ไม่ได้ไปปลูกฝังให้เขานะ เพราะเขาได้เจอทุกวัน เขาได้เล่นกับสัตว์ที่ผมเลี้ยง คุณพ่อคุณแม่เลี้ยง เขาก็จะรักไปในตัว"
เผยตอนนี้จะเริ่มกลับมารีวิวสินค้าเหมือนเดิมแล้ว เพราะเงินเริ่มหมดแล้ว
"ใจผมอยากจะรีวิวมาก เพราะพอเราหยุดงานไปนานมันก็ขี้เกียจจริงๆ นะ มันไม่มีไฟเหมือนแต่ก่อน แต่ตอนนี้ก็เริ่มรับ และพรุ่งนี้จะเริ่มถ่ายงานกันบ้างแล้ว มีติดต่อมาเยอะมากครับ งานเก่าก็มี งานที่ติดต่อใหม่เข้ามาก็มี แต่เราก็ต้องพูดตรงๆ ว่าเราคิดอะไรไม่ได้เหมือนแต่ก่อนแล้ว บางทีมันก็ตลกบ้าง ไม่ตลกบ้าง แต่ก็มีมาเรื่อยๆ ยอดวิวส่งผลไหม ยอดมันก็ลงไปเยอะนะ ล่าสุดที่ลงกับตัวเงินตัวทองคนดูน้อยมาก แต่พอคลิปทั่วไปมันก็จะเยอะ แต่เราก็เข้าใจระบบ"
"กดดันมากครับ ถ้ามีมาบอกว่าอยากให้มันตูมตาม ผมไม่กล้าทำให้จริงๆ ก็ต้องคุยกันก่อนว่าจะให้มันมากมายเหมือนแต่ก่อนอาจจะไม่ได้นะ เพราะอะไรมันก็เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่ลูกค้าเขาก็เข้าใจครับ คนมองว่ากลับมารับงานเพราะเงินหมดแล้วหรือเปล่าเหรอ ใช่ครับ (หัวเราะ) เพราะเราทำงานใช้เงิน เราไปแจกของเด็กมา ก็ไม่ได้มีเก็บไว้ ก็กลับมาทำงานใหม่ครับ (ยิ้ม)"
ยอมรับโดนผู้จัด "ครูอี๊ด ธัญวลัย เผ่าจินดา" หลอกไปถ่ายละครจริง แต่ตนได้เงินครบแล้ว
"ผมได้เงินครบครับ ของผมไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย ผมก็เลยไม่ได้ออกไปพูด เพราะเดี๋ยวคนจะเข้าใจผิดกันใหญ่ ก็อยากให้ใครที่มีปัญหากับเขาโดยตรงก็แก้ไขปัญหากัน ของผมแค่โดนหลอกไปถ่ายเยอะกว่าที่บอก ตอนแรกเขาบอกแค่ถ่ายเป็นตัวอย่างนิดเดียว แต่พอไปจริงมันเป็น 1-2 วัน"
"ก็ไม่ได้ติดใจเอาเรื่องอะไรหรอก ถ้าติดใจก็หนีกลับบ้านแล้ว (หัวเราะ) แต่เราก็ทำงานของเราให้เต็มที่ เพราะมีนักแสดงคนอื่นด้วย เราโอเค ทำของเราให้เรียบร้อย ก็ไม่ได้เอาเรื่องอะไรเลยครับ เพราะเราไม่ได้มีปัญหาอะไร ผมเป็นคนไม่ได้พูดอะไรเยอะมาก สบายๆ ไม่งั้นผมคงโวยวายตั้งแต่ถ่ายเยอะเกินแล้ว"
บอกค่าตัวได้แค่ 2 หมื่นบาท แถมโดนหลอกให้ถ่ายอีก แต่ที่ยอมเพราะเห็นมีนักแสดงร่วมคนอื่นด้วย
"ค่าตัวน้อยมาก พอดีว่าพี่จูน (นาตาชา มณีสุวรรณ) เขาเป็นเพื่อนผมตั้งแต่ถ่ายหนังเรื่องปิดป่าหลอนแล้ว เขาก็บอกว่ามันมีละครที่สอนเด็กให้เด็กทำดี แน็กมาช่วยได้ไหม ผมก็บอกว่าโอเค ไปสิ เพราะเห็นมันแป๊บเดียว และได้ตังค์ มันก็ไม่ได้เยอะมากหรอก ก็คือได้แค่ 2 หมื่น แต่เราก็ไปทำ เพราะปกติเราทำงานอื่นก็ได้เยอะกว่า เขาบอกว่าไปถ่ายนิดเดียว แต่พอไปจริงวันนึงก็ถ่ายเต็มวันเลย อีกวันก็ถ่ายครึ่งวัน"
"ผมเอะใจตั้งแต่วันแรกแล้ว ผมก็บ่นเลยว่าพี่หลอกผมมาทำไมเนี่ยประมาณนี้ แต่ก็มีนักแสดงหลายคนที่เขามาแบบเต็มใจและอยากมีผลงานของตัวเอง ถ้าเรากลับบ้านมันก็ไม่ได้ใช่ไหม เราก็ทำงานให้มันจบไป พอเป็นข่าวแล้วเขาไม่ได้ติดต่อมาหาเรา มีแต่นักข่าวที่ติตต่อมา ผมก็บอกว่าผมไม่ได้ยุ่งด้วย ไม่ได้เกี่ยว จริงๆ มันก็ไม่ใช่ข่าวผมเลย แต่ปรากฎมันมีหน้าผมขึ้นมาเลย คนก็คิดว่าเขามาโกงเงินผม ผมก็ไม่อยากพูดมาก ยิ่งพูดยิ่งบานปลาย"