สรุปดรามาคดีผู้ใหญ่บ้านยิงพระนักอนุรักษ์ดับ เหตุฝ่าฝืนเคอร์ฟิวไปตีผึ้ง?

วันที่ 7 เมษายน 2563 เวลาประมาณ 02.00 น. เจ้าหน้าที่สภ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งจาก นายอำเภอท่าชนะ ว่ามีเหตุยิงกันบริเวณทางขึ้นสำนักสงฆ์เขาเพลา ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี

ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิต 2 คน คือชื่อพระชลธาร กาญจนบุตร และ นายชูรัตน์ คงคล้าย สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายมานพ โกปิน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี

นายมานพให้การว่าก่อนเกิดเหตุได้รับแจ้งว่ามีรถยนต์วิ่งไปมาทางขึ้นสํานักสงฆ์เขาเพลา จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านรวม 3 คน พบพระชลธารฯ กับ นายชูรัตน์ อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ เมื่อสอบถามว่ามาทําอะไรกันพระชลธาร ตอบว่ามาตีผึ้ง

นายหรินทร์ แดงชนะ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จึงแจ้งว่าห้ามออกจากเคหสถานช่วงเวลาประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณฉุกเฉิน และได้แจ้งชุดเคลื่อนที่เร็ว ฝ่ายปกครอง มาช่วยเจรจา

เมื่อชุดเคลื่อนที่เร็วมาถึง ทําให้พระชลธาร ไม่พอใจ จึงได้ชักอาวุธปืนซึ่งพกอยู่ที่เอวขึ้นมา นายมานพ จึงใช้อาวุธปืนยิงใส่พระชลธาร และได้ใช้อาวุธปืน ยิงใส่นายชัยสิทธิ์ ที่กําลังถือมีดอยู่ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ


ข้อมูลอีกด้าน
มีรายงานการให้สัมภาษณ์จากกลุ่มลูกศิษย์และชาวล้านที่ไปร่วมตีผึ้งจำนวน 5 คนซึ่งหนีไปจากที่เกิดเหตุระบุว่าระหว่างที่พวกตนกำลังจะไปตีผึ้งได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาในพื้นที่ แล้วบอกให้กลุ่มของตนไปนั่งรวมกันท้ายรถกระบะ ขณะที่พระชลธารยืนอยู่ข้าง ๆ

โดยเจ้าหน้าที่้ได้แจ้งว่าพวกตนทำ ผิด พรก.ฉุกเฉิน ทั้งที่ในเวลาดังกล่าวยังไม่ถึง 4 ทุ่ม ต่อมาทีมปลัดได้เข้าล้อมผู้ต้องหาโดยการเอาปืนจ่อ และมีการเถียงกันว่าผิดหรือไม่ ซึ่งพระชลธารได้อธิบายว่าระบุว่าตนไม่ได้พาคนกลุ่มนี้มาจับผึ้งแต่เพิ่งมาเจอ

กลุ่มตีผึ้งดังกล่าวยังระบุด้วยว่าก่อนหน้าได้มีกลุ่มที่จะจับผึ้งบนต้นไม้ดังกล่าวด้วยการใช้ไฟเผาแต่พระชลธารไม่อนุญาตเพราะเกรงจะเกิดไฟป่าและตัวผึ้งตาย

นอกจากนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมอ้างว่าจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุนั้นพบว่าอาวุธปืนที่ระบุว่าพระชลธารชักออกมายิงนั้นตกอยู่ห่างจากคนตายกว่า 10 เมตร และยังไม่ได้ขึ้นลำแต่อย่างใด


พระอนุรักษ์กับความขัดแย้ง?
สำหรับพระชลธาร ถาวโร กาญจนบุตร ได้ชื่อว่าเป็นพระอนุรักษ์พัฒนา สิ่งแวดล้อมที่ดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งการสร้างฝายมีชีวิตแก้ปัญหาน้ำหลาก ร่วมชักชวนชาวบ้านให้มีการอนุรักษ์ การปลูกป่าในพื้นที่

โดยที่ผ่านมาพระชลธารได้รับรางวัลเหมราช บุคคลต้นแบบแห่งปีสาขาผู้นำด้านพิทักษ์ป่ารักษาสิ่งแวดล้อมต้นแบบ และได้รับรางวัลแทนคุณแผ่นดิน 77 ต้นแบบคนดีมาแล้ว

ด้านนายวิรัตน์ ขวัญใจ พี่ชายพระชลธาร ระบุว่าก่อนหน้านั้นพระชลธารเคยเล่าให้ฟังว่ามีคนมายิงปืนเพื่อข่มขู่ให้ออกจากพื้นที่ถึง 2 ครั้ง ส่วนพระชลธารจะมีมีอาวุธปืนหรือไม่ตนไม่ทราบ

ยังมีรายงานอ้างว่าผู้เสียชีวิตมีความขัดแย้งเรื่องที่ดินกับผู้ใหญ่บ้านมาก่อนหน้านี้ด้วย

สำหรับคดีที่เกิดขึ้นในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานายมานพฯ ผู้ก่อเหตุในความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ” ขณะที่ พล.ต.ต.ฐากูร เนตรพุกกณะ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้มีคำสั่งแต่งตั้ง คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อเร่งคลี่คลายคดีข้อสงสัยและให้ความกระจ่างกับสังคม ประกอบกับเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ยังได้กำชับ เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน อย่างตรงไปตรงไปมา ด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว เป็นธรรมอีกด้วย
...
(อ่าน : ผบก.สุราษฎร์ สั่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีผู้ใหญ่บ้านยิงดับ พระ-ลูกบ้าน 2 ศพ ฝ่าเคอร์ฟิว)